สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้อยากจะแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธีการใหม่ ถ้าพูดถึงโรคร้ายที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด ทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันคือ "โรคมะเร็ง" ไม่ว่าเซลล์มะเร็งจะไปงอกส่วนไหนของร่างกาย เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือคนใกล้ชิด เชื่อได้เลยว่า ทุกคนที่ได้รับรู้ข่าวนี้คงจะกลัวไปตามๆ กัน ด้วยความเชื่อโบราณที่ว่า "ถ้าเป็นมะเร็งเต้านมแล้วเราต้องตัดเต้านมทิ้งทั้งหมด" สำหรับผู้หญิงทุกคนแค่ได้ยินจากปากคุณหมอว่าตัวเองมีก้อนเนื้อร้ายอยู่ในทรวงอกก็สร้างความกังวลและความเครียดภายในจิตใจเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ถ้าต้องมาเสียเต้านมไปอีก หลังจากการผ่าตัด หน้าอกของช้านต้องหายไปหนึ่งข้างหรือนี่!!! บอกตงชีวิตนี้ก็เหมือนขาดอะไรไป ความมั่นใจคงหายไปเยอะเลย จะแต่งตัวสวยๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ ใส่ชุดรัดติ้ว เดรสยาวรัดรูปก็ไม่ได้ กลัวคนจะเห็นว่านมช้านไม่เท่ากัน บางคนอาจจะแก้ปัญหานี้ด้วยการใส่เสื้อยกทรงที่มีฟองน้ำเสริม บราๆๆๆๆ "ถ้าไม่ใช่ของจริงก็คงทำแทนไม่ได้" อะไรประมาณนั้น 55555++++ ดังนั้นจึงอยากจะบอกทุกคนว่า "ถ้าใครพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านม ไม่ต้องตัดทิ้งทั้งหมดแล้ว ตัดเฉพาะเนื้อร้ายออก เหลือของดีไว้เหมือนเดิม" ของแถมของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ หลังจากผ่าตัด เต้านมของคุณจะสวยกว่าเดิมอย่างแน่นอน confirm confirm confirm!!! "นมจะสวยกว่าเดิมได้อย่างไร แล้วคุณหมอผู้ทำการรักษาชื่ออะไร <เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคนี้อยู่> ตามไปดูกัน!!!!!
เรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้เกิดขึ้นกับพี่สาวของข้าพเจ้าเอง ปกติพี่จะตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอยู่เสมอๆ มีอยู่วันหนึ่งพี่คล้ำเจอก้อนเนื้อที่บริเวณเต้านมด้านซ้าย ก้อนเนื้อมีลักษณะเเข็งมากคล้ายหินเลย และพี่ก็สันนิษฐานว่ามีโอกาสเป็นก้อนเนื้อร้าย จึงตัดสินใจไปพบคุณหมอ ที่ รพ. หัวหิน เมื่อพี่ไปตรวจเต้านม คุณหมอก็ตรวจเต้านมด้วยวิธีธรรมดา โดยการดำเนินการรักษาครั้งนี้มีคุณหมอบัญชาเป็นเจ้าของไข้ หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอไม่ได้บอกว่าก้อนแข็งๆ ที่คล้ำเจอนั้น คืออะไร??? กันแน่ แต่ได้นัดให้คนไข้มาพบอีกครั้งหลังจากนั้น 2 สัปดาห์เพื่อมาตรวจด้วยวิธี Mammogram โดยพี่ได้ตรวจเต้านมด้วยวิธีดังกล่าวกับสถาบันมะเร็งที่ รพ. หัวหิน ซึ่งเป็นโครงการของเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ (เครื่อง Mammogram ของโครงการนี้จะเคลื่อนที่ไปตาม รพ. ต่างๆ ตามชนบท เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสได้เข้าถึงวิธีการรรักษาที่ทันสมัยมากขึ้น) ผลที่ได้รับจากการตรวจด้วยวิธี Mammogram พบว่า มีก้อนเนื้อจริง ขนาด 2 ซม. คุณหมอจากสถาบันไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่า ให้ไปรักษาต่อนะ...... ต่อจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ คุณหมอบัญชานัดมาฟังผลตรวจด้วยวิธี Mammogram อีกครั้ง พอถึงวันนัดพี่ก็ไปตามนัด ปรากฎว่าเจอคุณหมอไกรภพแทน คุณหมอก็อ่านผลตรวจจากคราวที่แล้ว และได้เจาะก้อนเนื้อไปตรวจ โดยใช้เข็มเจาะลงไปที่จุดเป้าหมายแล้วดูดก้อนเนื้อนั้นออกมา ดูดไป 2 ครั้ง พี่บอกว่า "โคตรเจ็บ เจ็บโคตร เจ็บมั่กมากกกกกก" หลังจากนั้น คุณหมอไกรภพก็นัดไปฟังผล แต่พอจะถึงวันที่นัดก็ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพราะคุณหมอไกรภพ ไม่ว่าง....... หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ก็ไปฟังผลก้อนเนื้อที่เจาะไปตรวจ พบว่าก้อนเนื้อเป็นเซลล์มะเร็ง..... ช็อค 3 วินาที
คุณหมอไกรภพไม่รอช้าวางแผนการรักษาทันที โดยเสนอวิธีการผ่าตัดให้คนไข้เลือก 3 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 คือ ผ่าตัดและเอาเฉพาะเนื้อร้ายออกมา แล้วก็นำไขมันบริเวณรักแร้ไปเติมแแทนที่เนื้อที่หายไป
วิธีที่ 2 คือ ผ่าตัดเอาเนื้อในเต้านมข้างที่พบก้อนเนื้อร้ายออกจนหมดเหลือไว้เพียงหนังหุ้มเต้านม แล้วก็ไปนำไขมันบริเวณหน้าท้องมาเติมแทนที่เนื้อที่หายไป
วิธีที่ 3 คือ ผ่าตัดเอาเนื้อในเต้านมข้างที่พบก้อนเนื้อร้ายออกจนหมดเหลือไว้เพียงหนังหุ้มเต้านม แล้วก็ไปนำซิลิโคนมาเติมแทนที่เนื้อที่หายไป
* ทุกวิธีต้องถูกบำบัดด้วยคีโม และฉายรังสี หลังจากการผ่าตัด นอกจากนั้นคุณหมอไกรภพยืนยันว่าการรักษาทุกวิธีหายแน่นอน แต่ต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปี ทุกปี
เมื่อพิจารณาดูแล้ว วิธีที่ 2 ดีที่สุด คือ นมทั้งสองข้างเท่ากันเป๊ะ และไม่มีไขมันหน้าท้อง สวยตั้งแต่ทรวงอกจนหน้าท้องเลยที่เดียว 55555 "ใช้วิธีผ่าตัดนานที่สุด คือ 6 ชม. ส่งผลให้ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานตามไปด้วย"
หลังจากคุณหมอพูดจบ พี่ก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่........... จึงตัดสินใจเลือกวิธีที่ 2 เพราะขนาดของเต้านมเท่ากัน สวยงาม และหน้าท้องแบนราบ (ใครๆ ก็อยากผอมสวย ไร้ไขมันหน้าท้อง) แต่พอคุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลาผ่าตัดนาน 6 ชม. มีแผล 2 จุด และใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 7 วัน ที่ รพ. พี่ก็เปลี่ยนใจ เลือกเป็น วิธีที่ 1 ดีกว่า เพราะเจ็บตัวน้อยกว่า มีแผลผ่าตัดเพียง 1 แผล แม้ว่านมทั้งสองข้างจะไม่เท่ากันเป๊ะ แต่ก็ใกล้เคียงกันมั่กมาก ถ้าดูด้วยตาเปล่าก็แทบจะไม่เห็นถึงความไม่เท่ากัน ด้วยความที่คุณหมอไกรภพใส่ใจถึงความสวยงามของเต้านมอีกข้างที่ไม่ได้เป็น แต่ด้วยความที่นมทั้งสองข้างหย่อนยานไปตามอายุของคนไข้ คุณหมอจึงเสนอว่าจะศัลยกรรมนมทั้งสองข้างให้เท่ากันและทรงเต้านมก็ไม่หย่อนคล้อย มีความเต่งตึงเหมือนนมเด็ก เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยว่าจะทำการรักษาด้วยวิธีที่ 1 หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ หมอก็นัดมาผ่าตัด
ก่อนวันหมอนัดผ่าตัด 1 วัน พี่ก็มานอนรอ ที่ รพ. เพื่อเตรียมตัว เตรียมใจ แต่ก็ชิลไป คิดเสียว่ามาพักผ่อนตากอากาศ เพราะห้องพัก อยู่ชั้น 8 ของ รพ. หัวหิน ถ้ามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นน้ำทะเล และเรือรบ 3 ลำ ตอนกลางคืน เราจะเห็นเรือตกหมึกในทะเล อยู่ปลายขอบฟ้า ..... เสมือนว่ามานอนตากอากาศที่คอนโดริมทะเล และมีห้องพักฟรี 555555 (เพราะพี่ใช้สิทธิข้าราชการและเบิกค่าตอบแทนได้จากประกันชีวิต) เช้าตรู่วันต่อมา พยาบาลเข็นเตียงพาพี่ไปห้องผ่าตัดตั้งแต่ 9 โมงเช้า และออกจากห้องผ่าตัดเวลา บ่าย 2 โมง พบว่า ก้อนเนื้อร้ายมีขนาด 5 ซม. ความยาวของแผล 6 ซม. บริเวณแผลอยู่ที่ใต้รักแร้ นอกจากนั้นคุณหมอไกรภพ ยังผ่าตัดนำต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ออกไปด้วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อลงไปในต่อมน้ำเหลือง ในกรณีที่มันอาจจะเกิดขึ้นมาใหม่ภายในอนาคต หลังจากออกมาจากห้องผ่าตัด คนไข้มีสายมากมายในตัว มีสายน้ำเกลือ สายฉี่ สายเลือดเสีย และพี่ยังคงเมายาสลบอย่างต่อเนื่อง หลับทั้งวัน .. พอวันรุ่งขึ้น พยาบาลก็นำสายน้ำเกลือและสายฉี่ออก เหลือเฉพาะสายเลือดเสีย อาการหลังจากผ่าตัดรู้สึกเจ็บแผลบริเวณที่ผ่าตัดเฉพาะเวลาที่ขยับตัว ส่วนเต้านมอีกข้างที่ศัลยกรรมเพิ่มเพื่อความสวยงามไม่รู้สึกเจ็บใดๆๆๆ เนื่องจากนำต่อมน้ำเหลืองออกไปแล้ว น้ำเหลืองที่ไหลเวียนไปทั่งร่างกายอาจจะมาค้างบริเวณแผลผ่าตัด คุณหมอจึงแนะนำว่า ควรทำกายภาพบำบัดทุกวัน และเพื่อป้องกันหัวไหล่ติดและลดอาการบวมของแผลอีกด้วย ชีวิตที่ รพ. ก็ถือว่าโอเค คนไข้กินข้าว ได้ 3 มือ และกินของเยี่ยมอีกมากมาย
) อิ่ม อ้วน กลม เลยที่เดียวเชียว 😛😛หลังจากนั้น เมื่อเลือดเสียหยุดไหลแล้ว คุณหมอก็นำสายเลือดเสียออกไป ก็เหลือแค่ยังคงต้องทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง รวมเบ็ดเสร็จอยู่ รพ. 11 วัน และกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อ ระหว่างพักฟื้นมีอาการแผลบวมบ้าง คุณหมอก็นำเข็มมาเจาะน้ำออกไป ตอนนี้ก็รอแผลหายดีก่อน ผลการรักษาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก นมสวยมาก ขนาดเท่าเป๊ะ และเต่งตึงเหมือนนมสาวๆๆๆ เลย น่าอิจฉาป่ะละ "มีอายุนมเด็กกว่าอายุที่แท้จริง" 55555++++ คริคริ หลังจากนั้นคุณหมอไกรภพก็นัดพี่ไปตรวจทุกสัปดาห์ เพื่อเฝ้าติดตามอาการของแผลผ่าตัด วันหนึ่งไปพบคุณหมอไกรภพตามปกติ พี่ไปพบผู้ป่วยท่านหนึ่ง อายุประมาณ 60 ปี คุณป้าพบซีสที่บริเวณเต้านมข้างขวา แล้วคุณป้าก็ได้รับการผ่าตัดซีสออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีคุณหมอไกรภพ เป็นคุณหมอเจ้าของไข้เช่นเดียวกัน ก่อนคุณหมอจะทำการผ่าตัด คุณหมอถามคุณป้าว่า พอผ่าตัดนำซีสออกแล้วต้องการให้ศัลยกรรมเต้านมทั้ง 2 ข้างให้มีขนาดเท่ากันด้วยหรือไม่? ........ ป้านิ่งชั่วขณะ........ ป้ากลัวเจ็บ จึงตอบคุณหมอไปว่า "ไม่" ปรากฎว่าหลังจากผ่าตัดและแผลหายแล้ว นมของป้าข้างที่ผ่าเอาซีสออกดูเต่งตึงดูเด็กกว่าอายุจริงหลายสิบปี ส่วนนมอีกข้างก็ยังคงสภาพเดิมตามอายุที่แท้จริงของป้า (นั่นคือ 60 ปี) ขนาดของนมมีความแตกต่างขนาดที่ว่าสามีของป้าบอกว่า "นมไม่เท่ากัน" .......... เงิบ เงิบ เงิบ ถ้าป้าเลือกศัลยกรรมเพิ่มเติมกับคุณหมอไกรภพ รับรองได้เลยว่า นมของป้าจะกลม ขนาดเท่ากัน สวยงาม อย่างแน่นอน พอป้าได้คุยกับพี่สาวที่ได้เลือกให้คุณหมอไกรภพศัลยกรรมเพิ่มเติม จึงรู้สึกอิฉจาเล็กๆ คริคริ ........ บร๊าๆๆๆ
เมื่อแผลหายดีแล้ว คุณหมอก็จะบำบัดด้วยคีโมและฉายรังสี ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะจบกระบวนการรักษา เพราะต้องประเมินอาการเป็นระยะๆๆ ไป ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม หรือพี่หายดีแล้ว จะแวะเข้ามาเขียนแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปได้รับทราบอีกครั้งค่ะ ได้แต่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมากๆๆๆ นะค่ะ
สุดท้ายอยากจะฝากคำคมเตือนใจไว้เล็กน้อย "คุณต้องดูแลร่างกายของคุณให้ดีที่สุด เพราะร่างกายเป็นบ้านหลังที่คุณต้องอยู่กับมันไปจนลมหายใจสุดท้าย" ขอให้ทุกท่านโชคดี ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน มีความแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต .........
ข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าใครกำลังป่วยกับโรคมะเร็งเต้านม แล้วยังไม่รู้จะไปรักษาที่ รพ. ไหน เลือกคุณหมอท่านใดเป็นคุณหมอที่ทำการรักษา อยากจะแนะนำคุณหมอไกรภพ จารุไพบูลย์ ค่ะ คุณหมอ เก่ง หล่อ พูดคุยสนุกสนานเป็นกันเอง ฝีมือการผ่าตัด เริ่ดมาก ตกแต่งแผลได้สวยงามมาก เก็บงานเรียบร้อย คุณหมอประจำที่ รพ. หัวหิน ลงตรวจทุกๆ วันพฤหัส ถ้าเพื่อนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาได้ใน google เลยคร้า......
สิงหไกรภพปราบเนื้อร้าย..... :)
เรื่องที่จะเล่าดังต่อไปนี้เกิดขึ้นกับพี่สาวของข้าพเจ้าเอง ปกติพี่จะตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอยู่เสมอๆ มีอยู่วันหนึ่งพี่คล้ำเจอก้อนเนื้อที่บริเวณเต้านมด้านซ้าย ก้อนเนื้อมีลักษณะเเข็งมากคล้ายหินเลย และพี่ก็สันนิษฐานว่ามีโอกาสเป็นก้อนเนื้อร้าย จึงตัดสินใจไปพบคุณหมอ ที่ รพ. หัวหิน เมื่อพี่ไปตรวจเต้านม คุณหมอก็ตรวจเต้านมด้วยวิธีธรรมดา โดยการดำเนินการรักษาครั้งนี้มีคุณหมอบัญชาเป็นเจ้าของไข้ หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอไม่ได้บอกว่าก้อนแข็งๆ ที่คล้ำเจอนั้น คืออะไร??? กันแน่ แต่ได้นัดให้คนไข้มาพบอีกครั้งหลังจากนั้น 2 สัปดาห์เพื่อมาตรวจด้วยวิธี Mammogram โดยพี่ได้ตรวจเต้านมด้วยวิธีดังกล่าวกับสถาบันมะเร็งที่ รพ. หัวหิน ซึ่งเป็นโครงการของเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ (เครื่อง Mammogram ของโครงการนี้จะเคลื่อนที่ไปตาม รพ. ต่างๆ ตามชนบท เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสได้เข้าถึงวิธีการรรักษาที่ทันสมัยมากขึ้น) ผลที่ได้รับจากการตรวจด้วยวิธี Mammogram พบว่า มีก้อนเนื้อจริง ขนาด 2 ซม. คุณหมอจากสถาบันไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่า ให้ไปรักษาต่อนะ...... ต่อจากนั้นอีก 1 สัปดาห์ คุณหมอบัญชานัดมาฟังผลตรวจด้วยวิธี Mammogram อีกครั้ง พอถึงวันนัดพี่ก็ไปตามนัด ปรากฎว่าเจอคุณหมอไกรภพแทน คุณหมอก็อ่านผลตรวจจากคราวที่แล้ว และได้เจาะก้อนเนื้อไปตรวจ โดยใช้เข็มเจาะลงไปที่จุดเป้าหมายแล้วดูดก้อนเนื้อนั้นออกมา ดูดไป 2 ครั้ง พี่บอกว่า "โคตรเจ็บ เจ็บโคตร เจ็บมั่กมากกกกกก" หลังจากนั้น คุณหมอไกรภพก็นัดไปฟังผล แต่พอจะถึงวันที่นัดก็ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพราะคุณหมอไกรภพ ไม่ว่าง....... หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ก็ไปฟังผลก้อนเนื้อที่เจาะไปตรวจ พบว่าก้อนเนื้อเป็นเซลล์มะเร็ง..... ช็อค 3 วินาที
คุณหมอไกรภพไม่รอช้าวางแผนการรักษาทันที โดยเสนอวิธีการผ่าตัดให้คนไข้เลือก 3 วิธี ดังนี้
วิธีที่ 1 คือ ผ่าตัดและเอาเฉพาะเนื้อร้ายออกมา แล้วก็นำไขมันบริเวณรักแร้ไปเติมแแทนที่เนื้อที่หายไป
วิธีที่ 2 คือ ผ่าตัดเอาเนื้อในเต้านมข้างที่พบก้อนเนื้อร้ายออกจนหมดเหลือไว้เพียงหนังหุ้มเต้านม แล้วก็ไปนำไขมันบริเวณหน้าท้องมาเติมแทนที่เนื้อที่หายไป
วิธีที่ 3 คือ ผ่าตัดเอาเนื้อในเต้านมข้างที่พบก้อนเนื้อร้ายออกจนหมดเหลือไว้เพียงหนังหุ้มเต้านม แล้วก็ไปนำซิลิโคนมาเติมแทนที่เนื้อที่หายไป
* ทุกวิธีต้องถูกบำบัดด้วยคีโม และฉายรังสี หลังจากการผ่าตัด นอกจากนั้นคุณหมอไกรภพยืนยันว่าการรักษาทุกวิธีหายแน่นอน แต่ต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปี ทุกปี
เมื่อพิจารณาดูแล้ว วิธีที่ 2 ดีที่สุด คือ นมทั้งสองข้างเท่ากันเป๊ะ และไม่มีไขมันหน้าท้อง สวยตั้งแต่ทรวงอกจนหน้าท้องเลยที่เดียว 55555 "ใช้วิธีผ่าตัดนานที่สุด คือ 6 ชม. ส่งผลให้ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานตามไปด้วย"
หลังจากคุณหมอพูดจบ พี่ก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่........... จึงตัดสินใจเลือกวิธีที่ 2 เพราะขนาดของเต้านมเท่ากัน สวยงาม และหน้าท้องแบนราบ (ใครๆ ก็อยากผอมสวย ไร้ไขมันหน้าท้อง) แต่พอคุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลาผ่าตัดนาน 6 ชม. มีแผล 2 จุด และใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อย 7 วัน ที่ รพ. พี่ก็เปลี่ยนใจ เลือกเป็น วิธีที่ 1 ดีกว่า เพราะเจ็บตัวน้อยกว่า มีแผลผ่าตัดเพียง 1 แผล แม้ว่านมทั้งสองข้างจะไม่เท่ากันเป๊ะ แต่ก็ใกล้เคียงกันมั่กมาก ถ้าดูด้วยตาเปล่าก็แทบจะไม่เห็นถึงความไม่เท่ากัน ด้วยความที่คุณหมอไกรภพใส่ใจถึงความสวยงามของเต้านมอีกข้างที่ไม่ได้เป็น แต่ด้วยความที่นมทั้งสองข้างหย่อนยานไปตามอายุของคนไข้ คุณหมอจึงเสนอว่าจะศัลยกรรมนมทั้งสองข้างให้เท่ากันและทรงเต้านมก็ไม่หย่อนคล้อย มีความเต่งตึงเหมือนนมเด็ก เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยว่าจะทำการรักษาด้วยวิธีที่ 1 หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ หมอก็นัดมาผ่าตัด
ก่อนวันหมอนัดผ่าตัด 1 วัน พี่ก็มานอนรอ ที่ รพ. เพื่อเตรียมตัว เตรียมใจ แต่ก็ชิลไป คิดเสียว่ามาพักผ่อนตากอากาศ เพราะห้องพัก อยู่ชั้น 8 ของ รพ. หัวหิน ถ้ามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นน้ำทะเล และเรือรบ 3 ลำ ตอนกลางคืน เราจะเห็นเรือตกหมึกในทะเล อยู่ปลายขอบฟ้า ..... เสมือนว่ามานอนตากอากาศที่คอนโดริมทะเล และมีห้องพักฟรี 555555 (เพราะพี่ใช้สิทธิข้าราชการและเบิกค่าตอบแทนได้จากประกันชีวิต) เช้าตรู่วันต่อมา พยาบาลเข็นเตียงพาพี่ไปห้องผ่าตัดตั้งแต่ 9 โมงเช้า และออกจากห้องผ่าตัดเวลา บ่าย 2 โมง พบว่า ก้อนเนื้อร้ายมีขนาด 5 ซม. ความยาวของแผล 6 ซม. บริเวณแผลอยู่ที่ใต้รักแร้ นอกจากนั้นคุณหมอไกรภพ ยังผ่าตัดนำต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ออกไปด้วย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อลงไปในต่อมน้ำเหลือง ในกรณีที่มันอาจจะเกิดขึ้นมาใหม่ภายในอนาคต หลังจากออกมาจากห้องผ่าตัด คนไข้มีสายมากมายในตัว มีสายน้ำเกลือ สายฉี่ สายเลือดเสีย และพี่ยังคงเมายาสลบอย่างต่อเนื่อง หลับทั้งวัน .. พอวันรุ่งขึ้น พยาบาลก็นำสายน้ำเกลือและสายฉี่ออก เหลือเฉพาะสายเลือดเสีย อาการหลังจากผ่าตัดรู้สึกเจ็บแผลบริเวณที่ผ่าตัดเฉพาะเวลาที่ขยับตัว ส่วนเต้านมอีกข้างที่ศัลยกรรมเพิ่มเพื่อความสวยงามไม่รู้สึกเจ็บใดๆๆๆ เนื่องจากนำต่อมน้ำเหลืองออกไปแล้ว น้ำเหลืองที่ไหลเวียนไปทั่งร่างกายอาจจะมาค้างบริเวณแผลผ่าตัด คุณหมอจึงแนะนำว่า ควรทำกายภาพบำบัดทุกวัน และเพื่อป้องกันหัวไหล่ติดและลดอาการบวมของแผลอีกด้วย ชีวิตที่ รพ. ก็ถือว่าโอเค คนไข้กินข้าว ได้ 3 มือ และกินของเยี่ยมอีกมากมาย
เมื่อแผลหายดีแล้ว คุณหมอก็จะบำบัดด้วยคีโมและฉายรังสี ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าต้องทำกี่ครั้ง ถึงจะจบกระบวนการรักษา เพราะต้องประเมินอาการเป็นระยะๆๆ ไป ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม หรือพี่หายดีแล้ว จะแวะเข้ามาเขียนแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปได้รับทราบอีกครั้งค่ะ ได้แต่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมากๆๆๆ นะค่ะ
สุดท้ายอยากจะฝากคำคมเตือนใจไว้เล็กน้อย "คุณต้องดูแลร่างกายของคุณให้ดีที่สุด เพราะร่างกายเป็นบ้านหลังที่คุณต้องอยู่กับมันไปจนลมหายใจสุดท้าย" ขอให้ทุกท่านโชคดี ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน มีความแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต .........
ข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าใครกำลังป่วยกับโรคมะเร็งเต้านม แล้วยังไม่รู้จะไปรักษาที่ รพ. ไหน เลือกคุณหมอท่านใดเป็นคุณหมอที่ทำการรักษา อยากจะแนะนำคุณหมอไกรภพ จารุไพบูลย์ ค่ะ คุณหมอ เก่ง หล่อ พูดคุยสนุกสนานเป็นกันเอง ฝีมือการผ่าตัด เริ่ดมาก ตกแต่งแผลได้สวยงามมาก เก็บงานเรียบร้อย คุณหมอประจำที่ รพ. หัวหิน ลงตรวจทุกๆ วันพฤหัส ถ้าเพื่อนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ค้นหาได้ใน google เลยคร้า......