แรก ๆ ผมก็ฟังเพลงฟังเสียงกีตาร์ของจิมมี เฮนดริกไม่รู้เรื่องหรอกครับ
ได้ยินครั้งแรก ก็คิดว่า ไรฟร่ะ เสียงกีตาร์หน๊อง ๆ แหน๊ง ๆ แบบนี้ เรียกอัจฉริยะได้ไง
แต่พอฟังคำแนะนำจากผู้รู้ ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเขา ถึงได้รู้ว่า เขาเก่งจริง
ผมเป็นเด็กบ้านนอกหน้าตาดี อยู่กับสายลมแสงแดดต้นไม้ชายน้ำมาตั้งแต่เกิด
ครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในตัวจังหวัดเมื่อเริ่มเรียน ป.2 ก็ใกล้กับแม่น้ำมูล ที่ไหลผ่านเมืองอุบล
วันหยุดนี่ ว่ายน้ำข้ามแม่มูลแข่งกับเพื่อน ๆ เล่นวันละเป็นสิบเที่ยว สนุกสุด ๆ
ผมโชคดีที่เกิดกลางกลุ่มบุคคคลที่ชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง
ได้รับอิทธิพลเต็ม ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าเรื่องการอ่าน การฟัง
จากพ่อ เพื่อนพ่อ พี่ เพื่อนพี่ พอเข้าสู่วัยรุ่น ก็โชคดีที่มีเพื่อนทั้งเพื่อนรุ่นพี่เพื่อนรุ่นน้องประเภทหนอนหนังสือ เซียนเพลง
ผมเป็นเด็กไม่ชอบห้องเรียนครับ เข้าห้องเรียนแล้วอึดอัด ชอบไปขลุกอยู่ห้องสมุดมากกว่า
เคยหมดสิทธิ์สอบถึง 11 รายวิชาเพราะไม่เข้าเรียน จ.จาน กับ ร.เรือเต็มสมุดรายงาน อาจารย์ที่ปรึกษาได้แต่ส่ายหัว
แต่ผมโชคดีที่ได้อ่านหนังสือดี ๆ มากมาย
ได้อ่านงานเขียนของเฮมิงเวย์ โอ เฮนรี สไตเบค กีย์ เดอ โมปาสซัง ฮาโรล รอบบิ้น ฯลฯ
ได้อ่านงานเขียนของ ป.อินทรปาลิต ไม้ เมืองเดิม คึกฤทธิ์ สุจิตต์ วงษเทศ ขรรค์ชัย บุนปาน วัฒน์ วรรลยางกูร ฯลฯ
ได้อ่านงานแปลเยี่ยม ๆ ของประมูล อุณหธูป เทศภักดิ์ นิยมเหตุ ฯลฯ
ได้ฟังเพลงดี ๆ ของยอดศิลปินชั้นยอดของโลก ทั้ง the beatles pink floyd carpenters ฯลฯ
ได้เรียนรู้ศึกษาศิลปินเก่ง ๆ อย่างจิมมี เฮนดริก ซิด บาร์เร็ตต์ ว่าเขาคิดอย่างไร
อ่านหนังสือของนักเขียนรุ่นเก่า จนถึงนักเขียนร่นใหม่
ได้ฟังเพลงจากรุ่นพ่อ จนถึงรุ่นปอยฝ้าย มาลัยยพร
ชีวิตในบ้านหรือนอกบ้านในช่วงเด็กจนถึงวัยเกณฑ์ทหาร
ไม่เคยเลยที่จะไม่มีเสียงเพลงคลอหรืออัดหูอยู่ตลอดเวลา
ทั้งเพลงฝรั่ง ไทยสากล ลูกทุ่ง หมอลำ หลายทีเมาได้ที่หน่อยก็เล่นโมสาร์ต ฟังบีโธเฟนไปเลย
เรียกว่า เมาแล้วกระแดะปีนบันไดฟังคลาสสิค อ้าว ก็เพราะฟังตอนไม่เมานี่ ไม่เข้าหูวัยสะรุ่นครับ
ผมฟังเพลงทุกประเภท ทุกชนิด ทุกยุค ยกเว้นเพลงพวกลอกทำนองฝรั่งเขามา
และไม่ใช่แค่ลอกทำนองฝรั่งครับ ลอกทำนองเพลงจีนมาก็เยอะ
เรื่องอย่างนี้ ต้องปรึกษาพี่ดี้ครับ เพราะพี่เขารู้ดีว่าฝรั่งโง่แค่ไหน ก็อย่างที่คุณ "แก้ไขข้อความ" ตั้งทู้ไว้นั่นแหละครับ
ผมชอบดา แอนโดฟีน เพราะเสียงเธอดี ร้องเพราะ ไม่เพื้ยนทำนอง สมกับเป็น "นักร้อง"
ไม่ใช่แบบร้องเพลงเหมือนแมวเล็บขบอมหนอง แล้วยกย่องกันว่าศิลปินแบบที่เห็นกันเกลื่อนเมือง
ผมเห็นว่าน่าจะเป็นดาวยั่วมากกว่า เพราะเสื้อผ้าหน้าผมยั่วยวนซะเหลือเกิน
แบบพวกนี้ ผมชอบดูครับ ไม่ชอบฟัง
หากใครได้อ่านงานเขียนของวิคเตอร์ ฮูโก้ ได้ฟังเพลงของบ๊อบ ดีแลน ฯลฯ
จะเข้าใจได้ครับว่า สังคม การเมือง การปกครอง นั้น สำคัญกับชีวิตขนาดไหน
ไม่ใช่ชีวิตหนึ่งเดียวของเรา แต่คือชีวิตของพวกเราทั้งหมด ทั้งในวันนี้และรุ่นลูกหลาน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของประเทศชาติด้วย
วันนี้ผมจึงรู้สึกทุกข์ครับ
แต่ก็เป็นทุกข์ที่มีปลายอุโมงค์ชัดเจน ว่าอีกไม่นาน จะได้ "เอาคืน"
และคงมีคนอีกหลายสิบล้านคนที่คิดเหมือนผม
คือรอ รอเอาคืนเมื่อถึงวันเดินเข้าคูหากาบัตร
หากผมได้อ่านแต่งานเขียนแบบของเปลว สีเงิน ฯลฯ
ได้ฟังแต่เพลงของสันติ ลุนเผ่
วันนี้ชีวิตผมคงไม่ทุกข์ ผมคงสุขเฮฮาร่าเริงในกะลาอย่างชิว ๆ
เมื่อย
ก็เขียนทู้เล่น ๆ ไปงั้นแหละครับ
หาเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรมและกฎหมายมาเขียนทู้
ประสาคนหล่อ
เมื่อย จบ
Music is my religion
แรก ๆ ผมก็ฟังเพลงฟังเสียงกีตาร์ของจิมมี เฮนดริกไม่รู้เรื่องหรอกครับ
ได้ยินครั้งแรก ก็คิดว่า ไรฟร่ะ เสียงกีตาร์หน๊อง ๆ แหน๊ง ๆ แบบนี้ เรียกอัจฉริยะได้ไง
แต่พอฟังคำแนะนำจากผู้รู้ ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเขา ถึงได้รู้ว่า เขาเก่งจริง
ผมเป็นเด็กบ้านนอกหน้าตาดี อยู่กับสายลมแสงแดดต้นไม้ชายน้ำมาตั้งแต่เกิด
ครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในตัวจังหวัดเมื่อเริ่มเรียน ป.2 ก็ใกล้กับแม่น้ำมูล ที่ไหลผ่านเมืองอุบล
วันหยุดนี่ ว่ายน้ำข้ามแม่มูลแข่งกับเพื่อน ๆ เล่นวันละเป็นสิบเที่ยว สนุกสุด ๆ
ผมโชคดีที่เกิดกลางกลุ่มบุคคคลที่ชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลง
ได้รับอิทธิพลเต็ม ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่ว่าเรื่องการอ่าน การฟัง
จากพ่อ เพื่อนพ่อ พี่ เพื่อนพี่ พอเข้าสู่วัยรุ่น ก็โชคดีที่มีเพื่อนทั้งเพื่อนรุ่นพี่เพื่อนรุ่นน้องประเภทหนอนหนังสือ เซียนเพลง
ผมเป็นเด็กไม่ชอบห้องเรียนครับ เข้าห้องเรียนแล้วอึดอัด ชอบไปขลุกอยู่ห้องสมุดมากกว่า
เคยหมดสิทธิ์สอบถึง 11 รายวิชาเพราะไม่เข้าเรียน จ.จาน กับ ร.เรือเต็มสมุดรายงาน อาจารย์ที่ปรึกษาได้แต่ส่ายหัว
แต่ผมโชคดีที่ได้อ่านหนังสือดี ๆ มากมาย
ได้อ่านงานเขียนของเฮมิงเวย์ โอ เฮนรี สไตเบค กีย์ เดอ โมปาสซัง ฮาโรล รอบบิ้น ฯลฯ
ได้อ่านงานเขียนของ ป.อินทรปาลิต ไม้ เมืองเดิม คึกฤทธิ์ สุจิตต์ วงษเทศ ขรรค์ชัย บุนปาน วัฒน์ วรรลยางกูร ฯลฯ
ได้อ่านงานแปลเยี่ยม ๆ ของประมูล อุณหธูป เทศภักดิ์ นิยมเหตุ ฯลฯ
ได้ฟังเพลงดี ๆ ของยอดศิลปินชั้นยอดของโลก ทั้ง the beatles pink floyd carpenters ฯลฯ
ได้เรียนรู้ศึกษาศิลปินเก่ง ๆ อย่างจิมมี เฮนดริก ซิด บาร์เร็ตต์ ว่าเขาคิดอย่างไร
อ่านหนังสือของนักเขียนรุ่นเก่า จนถึงนักเขียนร่นใหม่
ได้ฟังเพลงจากรุ่นพ่อ จนถึงรุ่นปอยฝ้าย มาลัยยพร
ชีวิตในบ้านหรือนอกบ้านในช่วงเด็กจนถึงวัยเกณฑ์ทหาร
ไม่เคยเลยที่จะไม่มีเสียงเพลงคลอหรืออัดหูอยู่ตลอดเวลา
ทั้งเพลงฝรั่ง ไทยสากล ลูกทุ่ง หมอลำ หลายทีเมาได้ที่หน่อยก็เล่นโมสาร์ต ฟังบีโธเฟนไปเลย
เรียกว่า เมาแล้วกระแดะปีนบันไดฟังคลาสสิค อ้าว ก็เพราะฟังตอนไม่เมานี่ ไม่เข้าหูวัยสะรุ่นครับ
ผมฟังเพลงทุกประเภท ทุกชนิด ทุกยุค ยกเว้นเพลงพวกลอกทำนองฝรั่งเขามา
และไม่ใช่แค่ลอกทำนองฝรั่งครับ ลอกทำนองเพลงจีนมาก็เยอะ
เรื่องอย่างนี้ ต้องปรึกษาพี่ดี้ครับ เพราะพี่เขารู้ดีว่าฝรั่งโง่แค่ไหน ก็อย่างที่คุณ "แก้ไขข้อความ" ตั้งทู้ไว้นั่นแหละครับ
ผมชอบดา แอนโดฟีน เพราะเสียงเธอดี ร้องเพราะ ไม่เพื้ยนทำนอง สมกับเป็น "นักร้อง"
ไม่ใช่แบบร้องเพลงเหมือนแมวเล็บขบอมหนอง แล้วยกย่องกันว่าศิลปินแบบที่เห็นกันเกลื่อนเมือง
ผมเห็นว่าน่าจะเป็นดาวยั่วมากกว่า เพราะเสื้อผ้าหน้าผมยั่วยวนซะเหลือเกิน
แบบพวกนี้ ผมชอบดูครับ ไม่ชอบฟัง
หากใครได้อ่านงานเขียนของวิคเตอร์ ฮูโก้ ได้ฟังเพลงของบ๊อบ ดีแลน ฯลฯ
จะเข้าใจได้ครับว่า สังคม การเมือง การปกครอง นั้น สำคัญกับชีวิตขนาดไหน
ไม่ใช่ชีวิตหนึ่งเดียวของเรา แต่คือชีวิตของพวกเราทั้งหมด ทั้งในวันนี้และรุ่นลูกหลาน ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของประเทศชาติด้วย
วันนี้ผมจึงรู้สึกทุกข์ครับ
แต่ก็เป็นทุกข์ที่มีปลายอุโมงค์ชัดเจน ว่าอีกไม่นาน จะได้ "เอาคืน"
และคงมีคนอีกหลายสิบล้านคนที่คิดเหมือนผม
คือรอ รอเอาคืนเมื่อถึงวันเดินเข้าคูหากาบัตร
หากผมได้อ่านแต่งานเขียนแบบของเปลว สีเงิน ฯลฯ
ได้ฟังแต่เพลงของสันติ ลุนเผ่
วันนี้ชีวิตผมคงไม่ทุกข์ ผมคงสุขเฮฮาร่าเริงในกะลาอย่างชิว ๆ
เมื่อย
ก็เขียนทู้เล่น ๆ ไปงั้นแหละครับ
หาเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรมและกฎหมายมาเขียนทู้
ประสาคนหล่อ
เมื่อย จบ