สมาชิกใหม่ขอคำปรึกษาค่ะ ขอเท้าความปัญหาเก่าก่อนที่จะเล่าวิธีแก้ไข (ที่คนแก้ไขมันยังทำใจไม่ได้อ่ะค่ะT^T)
คือบ้านดิฉันมีสมาชิกอยู่สามคนคือ พ่อ แม่ และดิฉัน ซึ่งปกติเวลาที่รักกันดีก็อบอุ่นจนบ้านร้อนผ่าว จนคนเป็นลูกจะไหม้เกรี้ยมเพราะนิสัยของพ่อกับแม่ค่ะ คือเวลาลูกมีปัญหาอะไรจะปรึกษาพวกท่านทั้งคู่ไม่ได้เลย(เพราะเขาทั้งคู่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไรไม่ต้องเอามาปรึกษาเพราะพวกเขาก็ยังเอาตัวไม่รอด) แล้วนั้นคือสาเหตุที่ทำให้คนเป็นลูกเริ่มตีตัวออกห่างจากพ่อแม่ หลังๆมาเริ่มนักข้อขึ้นค่ะ โดยเฉพาะแม่ขี้น้อยใจคิดเองเออเอง เอาแต่ใจสุดๆเจ้าอารมย์มาอันดับหนึ่งของบ้าน จนพ่อเอือม ลูกระอา (โดยเฉพาะคนเป็นลูกอย่างฉันโดนบ่อยที่สุด จนคิดสั้นกินยาตายมารอบเมื่อปีสี่เก้า จนต้องไปหาหมอที่ศิริราชมารอบ หมอเลยบอกว่าดิฉันเป็นโรคเก็บกด พอทั้งบ้านรู้ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น พยายามปรับตัวและพยายามเข้าใจอยู่ซะพักแล้วทั้งคู่ก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิมคือเอาแต่ใจ อยากให้ฉันทำตามที่พวกเขาต้องการเหมือนเดิม)
จนล่าสุดอาการทำร้ายร่างกายตัวของฉันกลับมาอีกแล้วค่ะ โดยสาเหตุมาจากความจู้จี้ จุกจิกเอาแต่ใจของคนเป็นแม่นั้นเอง ฉันพยายามหนีมาช่วยดูคอมให้พ่อในห้องพระ เขาก็ยังตามมาบ่นว่าฉัน จนต้องช่วยพ่อทั้งน้ำตา แล้วหันมาพูดกับแม่ด้วยน้ำตานองหน้าว่าจะเอาไง หรืออะไรอื่นๆก็จะไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าวินาทีนั้นฉันทนคนเป็นแม่ไม่ไหวแล้ว ทำไมนะคนๆนี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันถึงได้อารมย์ร้ายและไร้เหตุผลอย่างนี้ ฉันซึ่งไม่สามารถจะระบายความหงุดหงิด เสียใจ น้อยใจทางไหนได้เลยตัดสินใจก้มกัดตนแขนขวาตนเองจนมิดเขี้ยวเลยค่ะ เขาถึงยอมเดินออกไปจากจุดนั้น(ประมาณว่าไม่เห็นลูกทนไม่ไหวอย่างขีดสุดก็ไม่ยอมเดินออกมา)
เหตุการณ์ที่เจอหนักที่สุดจากผลอารมย์ร้ายของคนเป็นแม่คือ.....ผลกระทบจากข่าวคุกกี้รันค่ะ แม่เอามาบ่นว่าเล่นมันอยู่นั้นแหละ เดียวก็มีเรื่องเรียกเงินเป็นแสนจากมือถือค่ายXXXหรอก แล้วห้องน้ำทำไมไม่ทำ และก็!@#$%^&*&^%$#@#$%^&*(ร่ายยาวอีกสารพัด จนฉันทนไม่ไหวขอล่าทัพพาตัวเองมาอยู่ที่ห้องดีกว่า เพราะจากประสบการณ์อันเลวร้ายจากความเจ้าอารมย์และอารมย์ร้ายของแม่ฉันนั้นเอง เรื่องมันคงจะจบและไม่มีอะไรถ้าเขายอมสงบสติอารมย์เหมือนฉัน แต่เขาไม่ยอมตามมาไขกุญแจตามบ่นต่อค่ะ (มาถึงตรงนี้ฉันขอถามเพื่อนๆพี่ๆน้องทุกคนหน่อยค่ะว่ามีแม่บ้านไหนทำแบบนี้บ้างค่ะ?) จนฉันทนเงียบแล้วหนีต่อไม่ไหวจนต้องออกปากไปว่า "ไหนคุณว่าจะไม่ไขเข้าห้องฉันมาแล้วยังไงละ" เขาถึงยอมออกแบบฉุนเฉียว อะๆเท่านั้นยังไม่พอตกเย็นแม่ฉันเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นอีก เรื่องคุ๊กกี้รันนั้นแหละค่ะเขาเอามาเล่าให้พ่อฉันฟังอีกที ฉันเลยว่าให้พ่อฟังแล้วว่าแม่นะไม่รู้แล้วยังจะมาฉันอีก ฉันไม่ได้เล่นแบบเสียเงินนะ อายุ วุฒิภาวะหนูก็มี เรียนจบปริญญามาก็ตั้งสองใบแล้ว คิดว่าจะโง่ให้โดนเก็บเงินหรอ เท่านั้นแหละคร้า....ทุกคนทะเลาะครบวงบ้านแตก ไอ้เราก็สติแตก ณ คืนวันนั้นเลย เพราะเช้าทะเลาะกับแม่ ค่ำกับพ่อมันสุดๆของการที่จะทนเก็บกดอารมย์ต่างๆไว้ใต้จิตใจอ่อนแอของตนเองแล้ว แค่นั้นแหละวิ่งขึ้นห้องขังตัวเองไม่ออกไปไหน เจอปากกาหัวแหลมจ้องพิจารณานิ่งๆแค่นาทีเสร็จก็แทงต้นขาตัวเองเลือดอาบเลยค่ะ T^T (ตอนแรกที่คิดจะแทงหลายทีด้วยซ้ำ แต่พอแทงแผลแรกแล้วความเจ็บมันดึงสติกลับมาทันทีเลย) พอเห็นว่าเลือดไหลออกมามากก็เริ่มกลับมาคิดอีกทีว่าจะทำไงกับเลือดที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุดซักที คิดไปคิดมา กลับวกมาคิดเรื่องน้อยใจพ่อแม่อีกเลยร้องไห้ไป เลือดไหลไป ไปๆมานึกถึงหนังจีน นิยายจีนว่าชอบมีฉากเอาเลือดมาเขียนจดหมายท้ารบเอย หนังthrillerที่ชอบดู ก็มักมีฉาก Classicชอบเอาเลือดเหยื่อมาเขียนคำพูดสยองๆบนกำแพง ฉันซึ่งตอนนั้นขอบอกเลยขาดสติอย่างสมบูรณ์ เลยเอาเลือดที่ค่อยไหลออกจากตามบาดแผลแล้วค่อยๆย่อยลงตามขา มาเขียนคำว่า 'เกลียด' บนกำแพงก่อนเป็นคำแรก คำต่อมาคือ'ผิดตลอด' ไว้ข้างหน้าคำว่าเกลียดอีกที ตอนที่เขียนๆ เลือดก็ใกล้หยุดไหลละ แต่ฉันดันเกิดยังไม่พอใจหมึกสีแดงสดๆจากเลือดยังไม่พอเพราะยังเขียนข้อความไม่จบ เลยบีบแผลรีดเลือดออกมาเขียนต่อให้จบ-^-" (ปัจจุบันแผลที่แขนตกสะเก็ดแล้ว แต่มีทีท่าว่าจะเป็นแผลเป็น แผลที่ขาก็ยังไม่หายค่ะแผลแห้งและช้ำอยู่) พอเขียนเสร็จถึงจะพอใจแล้วจึงเริ่มไปหากล่องยามาทำแผลเอง ทำไปร้องไป ทำเสร็จยังมานอนร้องไห้ต่อ ร้องจนปวดหัว พอเห็นว่าดึกแล้วยังไงๆก็ต้องรีบอาบน้ำนอนไม่อย่างนั้นได้โดนพวกเขามาว่า มาบ่น หรืออะไรอีกสารพัดแน่ๆ ฉันยังไม่พร้อมจะโดนแบบนั้นเลยรีบอาบน้ำ ปิดไฟ และนอนร้องไห้ต่อเงียบๆคนเดียว แต่ว่าเครียดจนนอนไม่หลับค่ะเลยตื่นมาเขียนบทความสุนทรพจน์(เพื่อจะให้พ่อไปคุยกับแม่อีกทีค่ะ)ร่ายปัญหาว่าเกิดจากอะไร เพราะใคร จะแก้ไขยังไงดี แล้วตอนนี้ปัญหาที่เกิดจากอีกคนแล้วมาทำร้ายอีกคน จนอีกคนตอนนี้ได้มีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้อีกคนเสียแล้วT^T
เหตุการณ์หลังพ่ออ่านจดหมายนั้น>>>เหตุการณ์ดีขึ้นค่ะ เพราะมีคนสงบ ใจเย็นเพิ่มมาคนหลังจากร้อนหมดสามคน แล้วพ่อก็ยอมคุยกับแม่ตามเนื้อหาในจดหมาย แล้วคนผิดอย่างแม่(ผิดที่อารมย์ร้อน อย่างเดียวเลยค่ะ)ไม่ยอมค่ะ ว่าฉันเล่าคนละอย่างกับแม่ ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ หลังจากการแทงขาตัวเองจนเลือดออกนั้นฉันเลยเลือกที่จะเงียบและห่างแม่ให้มากที่สุด จนวันหนึ่งฉันได้มีโอกาศได้คุยระบายเรื่องอึดอัดกับน้องสาวคนหนึ่งที่สนิทกันผ่านfbแล้วน้องได้แนะนำให้มาเข้าร่วมกลุ่มนี้นะค่ะ รวมถึงแนะให้คุยสายด่วนสุขภาพจิต ของจิตเวชบำราศอีกด้วย
หลังจากคุยกับสายด่วน>>>เขาได้แนะวิธีการแก้ไขปัญหารับมือกับการใช้ชีวิตอยู่กับคนอารมย์ร้อนอย่างแม่ โดยแนะให้ฉันหนีไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองข้างนอกซะพักก่อนค่ะ พักจนกว่าจิตใจตนเองก่อนแล้วค่อยกลับมาอยู่ร่วมกันเหมือนเดิม แต่ก่อนออกไปนั้นความจะแสดงความรัก ความเข้าใจกับแม่อย่างจริงใจก่อน (ซึ่งฉันทำไม่ได้ เพราะมีเหตุเสียใจร้ายแรงจนเป็นแผลใจฉันถึงสามแผลค่ะ)
สามแผลทางจิตใจที่ได้มาจากแม่อารมย์ร้อนคือ
-ฉันเคยโดนแม่คิดฆ่าให้ตายด้วยการเอากรรไกรมาแทง (เจ้าตัวบอกว่าเอามาขู่ แต่การกระทำไม่ใช่ค่ะ เพราะฉันยื้อยุด ฉุดกระฉากกับแม่มาแล้ว ณ ครั้งอดีตมาแล้วต่อหน้าหิ้งพระ!!! เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อเพราะต่อหน้าคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนในบ้าน เขาจะเป็นแม่พระ ใจเย็น กับคนในบ้านจะโดนเธอเหวี่ยงกลับทุกคนที่ทำให้ขัดใจค่ะ) *จำสาเหตุการทะเลาะไม่ได้ เพราะshock กับการกระทำของเขาค่ะ
- เคยทำให้ลูกคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องประตูตู้ชั้นลอย
ลูกเตือนว่าลืมปิดสองครั้งแล้วนะ เดียวพ่อมาเห็นก็โดนว่าหรอก เขาก็ปรี๊ดทันทีด่ากราดกลับจนลูกมันทนไม่ไหว วิ่งขึ้นห้องขอลาตายดีกว่า (เตือนดีๆยังผิดT^T)
-ทำลูกสาวคนเดียวอย่างฉันเด้งออกจากงานดีๆได้(ภายในหกวัน) เพราะความไร้เหตุผล และเจ้าอารมย์ค่ะ
ปัญหาของคนเป็นแม่คือ>>>อารมย์ร้อน ไร้เหตุผล ไม่เอาใคร(เอาแต่เหตุผลตัวเองมาค้านคานคนอื่นๆ) แผนกจิตเวชแนะให้ลูกสาวคนเดียวเอาใจใส่ ดูแลทำความเข้าใจเขาให้มาก รักเขาให้มากๆเข้าไว้ และเวลาที่เขาทำผิดก็อย่าไปว่าเขาผิด เพราะถ้าถามหาความผิดจากเขาบอกได้คำเดียวว่าไม่มี!!! และไม่เคยมีเพราะคนที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้เขาจะไม่ยอมรับผิดในกรณีไหนทั้งสิ้น แม้นผิดจริง
ปัญหาของคนเป็นลูกคือ>>>ยังไม่ยอมทำตัวเป็นกุณแจแก้ไขปัญหาเรื้อรังที่ได้รับคำตอบในการแก้ไขแล้วค่ะ เพราะแผลทั้งสามที่บอกไปข้างบนนั้นเอง เลยอยากจะถามว่าใครพอจะมีวิธีให้ฉันลืมแผลในใจได้บ้างค่ะ
ปล.ถ้าเรื่องที่เอามาปรึกษามันยาวไปก็ขอโทษด้วยค่ะ และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำค่ะ
ปัญหาแม่อารมย์ร้อนจนทำลูกเป็นโรคเก็บกด
คือบ้านดิฉันมีสมาชิกอยู่สามคนคือ พ่อ แม่ และดิฉัน ซึ่งปกติเวลาที่รักกันดีก็อบอุ่นจนบ้านร้อนผ่าว จนคนเป็นลูกจะไหม้เกรี้ยมเพราะนิสัยของพ่อกับแม่ค่ะ คือเวลาลูกมีปัญหาอะไรจะปรึกษาพวกท่านทั้งคู่ไม่ได้เลย(เพราะเขาทั้งคู่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไรไม่ต้องเอามาปรึกษาเพราะพวกเขาก็ยังเอาตัวไม่รอด) แล้วนั้นคือสาเหตุที่ทำให้คนเป็นลูกเริ่มตีตัวออกห่างจากพ่อแม่ หลังๆมาเริ่มนักข้อขึ้นค่ะ โดยเฉพาะแม่ขี้น้อยใจคิดเองเออเอง เอาแต่ใจสุดๆเจ้าอารมย์มาอันดับหนึ่งของบ้าน จนพ่อเอือม ลูกระอา (โดยเฉพาะคนเป็นลูกอย่างฉันโดนบ่อยที่สุด จนคิดสั้นกินยาตายมารอบเมื่อปีสี่เก้า จนต้องไปหาหมอที่ศิริราชมารอบ หมอเลยบอกว่าดิฉันเป็นโรคเก็บกด พอทั้งบ้านรู้ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น พยายามปรับตัวและพยายามเข้าใจอยู่ซะพักแล้วทั้งคู่ก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิมคือเอาแต่ใจ อยากให้ฉันทำตามที่พวกเขาต้องการเหมือนเดิม)
จนล่าสุดอาการทำร้ายร่างกายตัวของฉันกลับมาอีกแล้วค่ะ โดยสาเหตุมาจากความจู้จี้ จุกจิกเอาแต่ใจของคนเป็นแม่นั้นเอง ฉันพยายามหนีมาช่วยดูคอมให้พ่อในห้องพระ เขาก็ยังตามมาบ่นว่าฉัน จนต้องช่วยพ่อทั้งน้ำตา แล้วหันมาพูดกับแม่ด้วยน้ำตานองหน้าว่าจะเอาไง หรืออะไรอื่นๆก็จะไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าวินาทีนั้นฉันทนคนเป็นแม่ไม่ไหวแล้ว ทำไมนะคนๆนี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันถึงได้อารมย์ร้ายและไร้เหตุผลอย่างนี้ ฉันซึ่งไม่สามารถจะระบายความหงุดหงิด เสียใจ น้อยใจทางไหนได้เลยตัดสินใจก้มกัดตนแขนขวาตนเองจนมิดเขี้ยวเลยค่ะ เขาถึงยอมเดินออกไปจากจุดนั้น(ประมาณว่าไม่เห็นลูกทนไม่ไหวอย่างขีดสุดก็ไม่ยอมเดินออกมา)
เหตุการณ์ที่เจอหนักที่สุดจากผลอารมย์ร้ายของคนเป็นแม่คือ.....ผลกระทบจากข่าวคุกกี้รันค่ะ แม่เอามาบ่นว่าเล่นมันอยู่นั้นแหละ เดียวก็มีเรื่องเรียกเงินเป็นแสนจากมือถือค่ายXXXหรอก แล้วห้องน้ำทำไมไม่ทำ และก็!@#$%^&*&^%$#@#$%^&*(ร่ายยาวอีกสารพัด จนฉันทนไม่ไหวขอล่าทัพพาตัวเองมาอยู่ที่ห้องดีกว่า เพราะจากประสบการณ์อันเลวร้ายจากความเจ้าอารมย์และอารมย์ร้ายของแม่ฉันนั้นเอง เรื่องมันคงจะจบและไม่มีอะไรถ้าเขายอมสงบสติอารมย์เหมือนฉัน แต่เขาไม่ยอมตามมาไขกุญแจตามบ่นต่อค่ะ (มาถึงตรงนี้ฉันขอถามเพื่อนๆพี่ๆน้องทุกคนหน่อยค่ะว่ามีแม่บ้านไหนทำแบบนี้บ้างค่ะ?) จนฉันทนเงียบแล้วหนีต่อไม่ไหวจนต้องออกปากไปว่า "ไหนคุณว่าจะไม่ไขเข้าห้องฉันมาแล้วยังไงละ" เขาถึงยอมออกแบบฉุนเฉียว อะๆเท่านั้นยังไม่พอตกเย็นแม่ฉันเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นอีก เรื่องคุ๊กกี้รันนั้นแหละค่ะเขาเอามาเล่าให้พ่อฉันฟังอีกที ฉันเลยว่าให้พ่อฟังแล้วว่าแม่นะไม่รู้แล้วยังจะมาฉันอีก ฉันไม่ได้เล่นแบบเสียเงินนะ อายุ วุฒิภาวะหนูก็มี เรียนจบปริญญามาก็ตั้งสองใบแล้ว คิดว่าจะโง่ให้โดนเก็บเงินหรอ เท่านั้นแหละคร้า....ทุกคนทะเลาะครบวงบ้านแตก ไอ้เราก็สติแตก ณ คืนวันนั้นเลย เพราะเช้าทะเลาะกับแม่ ค่ำกับพ่อมันสุดๆของการที่จะทนเก็บกดอารมย์ต่างๆไว้ใต้จิตใจอ่อนแอของตนเองแล้ว แค่นั้นแหละวิ่งขึ้นห้องขังตัวเองไม่ออกไปไหน เจอปากกาหัวแหลมจ้องพิจารณานิ่งๆแค่นาทีเสร็จก็แทงต้นขาตัวเองเลือดอาบเลยค่ะ T^T (ตอนแรกที่คิดจะแทงหลายทีด้วยซ้ำ แต่พอแทงแผลแรกแล้วความเจ็บมันดึงสติกลับมาทันทีเลย) พอเห็นว่าเลือดไหลออกมามากก็เริ่มกลับมาคิดอีกทีว่าจะทำไงกับเลือดที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุดซักที คิดไปคิดมา กลับวกมาคิดเรื่องน้อยใจพ่อแม่อีกเลยร้องไห้ไป เลือดไหลไป ไปๆมานึกถึงหนังจีน นิยายจีนว่าชอบมีฉากเอาเลือดมาเขียนจดหมายท้ารบเอย หนังthrillerที่ชอบดู ก็มักมีฉาก Classicชอบเอาเลือดเหยื่อมาเขียนคำพูดสยองๆบนกำแพง ฉันซึ่งตอนนั้นขอบอกเลยขาดสติอย่างสมบูรณ์ เลยเอาเลือดที่ค่อยไหลออกจากตามบาดแผลแล้วค่อยๆย่อยลงตามขา มาเขียนคำว่า 'เกลียด' บนกำแพงก่อนเป็นคำแรก คำต่อมาคือ'ผิดตลอด' ไว้ข้างหน้าคำว่าเกลียดอีกที ตอนที่เขียนๆ เลือดก็ใกล้หยุดไหลละ แต่ฉันดันเกิดยังไม่พอใจหมึกสีแดงสดๆจากเลือดยังไม่พอเพราะยังเขียนข้อความไม่จบ เลยบีบแผลรีดเลือดออกมาเขียนต่อให้จบ-^-" (ปัจจุบันแผลที่แขนตกสะเก็ดแล้ว แต่มีทีท่าว่าจะเป็นแผลเป็น แผลที่ขาก็ยังไม่หายค่ะแผลแห้งและช้ำอยู่) พอเขียนเสร็จถึงจะพอใจแล้วจึงเริ่มไปหากล่องยามาทำแผลเอง ทำไปร้องไป ทำเสร็จยังมานอนร้องไห้ต่อ ร้องจนปวดหัว พอเห็นว่าดึกแล้วยังไงๆก็ต้องรีบอาบน้ำนอนไม่อย่างนั้นได้โดนพวกเขามาว่า มาบ่น หรืออะไรอีกสารพัดแน่ๆ ฉันยังไม่พร้อมจะโดนแบบนั้นเลยรีบอาบน้ำ ปิดไฟ และนอนร้องไห้ต่อเงียบๆคนเดียว แต่ว่าเครียดจนนอนไม่หลับค่ะเลยตื่นมาเขียนบทความสุนทรพจน์(เพื่อจะให้พ่อไปคุยกับแม่อีกทีค่ะ)ร่ายปัญหาว่าเกิดจากอะไร เพราะใคร จะแก้ไขยังไงดี แล้วตอนนี้ปัญหาที่เกิดจากอีกคนแล้วมาทำร้ายอีกคน จนอีกคนตอนนี้ได้มีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้อีกคนเสียแล้วT^T
เหตุการณ์หลังพ่ออ่านจดหมายนั้น>>>เหตุการณ์ดีขึ้นค่ะ เพราะมีคนสงบ ใจเย็นเพิ่มมาคนหลังจากร้อนหมดสามคน แล้วพ่อก็ยอมคุยกับแม่ตามเนื้อหาในจดหมาย แล้วคนผิดอย่างแม่(ผิดที่อารมย์ร้อน อย่างเดียวเลยค่ะ)ไม่ยอมค่ะ ว่าฉันเล่าคนละอย่างกับแม่ ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ หลังจากการแทงขาตัวเองจนเลือดออกนั้นฉันเลยเลือกที่จะเงียบและห่างแม่ให้มากที่สุด จนวันหนึ่งฉันได้มีโอกาศได้คุยระบายเรื่องอึดอัดกับน้องสาวคนหนึ่งที่สนิทกันผ่านfbแล้วน้องได้แนะนำให้มาเข้าร่วมกลุ่มนี้นะค่ะ รวมถึงแนะให้คุยสายด่วนสุขภาพจิต ของจิตเวชบำราศอีกด้วย
หลังจากคุยกับสายด่วน>>>เขาได้แนะวิธีการแก้ไขปัญหารับมือกับการใช้ชีวิตอยู่กับคนอารมย์ร้อนอย่างแม่ โดยแนะให้ฉันหนีไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองข้างนอกซะพักก่อนค่ะ พักจนกว่าจิตใจตนเองก่อนแล้วค่อยกลับมาอยู่ร่วมกันเหมือนเดิม แต่ก่อนออกไปนั้นความจะแสดงความรัก ความเข้าใจกับแม่อย่างจริงใจก่อน (ซึ่งฉันทำไม่ได้ เพราะมีเหตุเสียใจร้ายแรงจนเป็นแผลใจฉันถึงสามแผลค่ะ)
สามแผลทางจิตใจที่ได้มาจากแม่อารมย์ร้อนคือ
-ฉันเคยโดนแม่คิดฆ่าให้ตายด้วยการเอากรรไกรมาแทง (เจ้าตัวบอกว่าเอามาขู่ แต่การกระทำไม่ใช่ค่ะ เพราะฉันยื้อยุด ฉุดกระฉากกับแม่มาแล้ว ณ ครั้งอดีตมาแล้วต่อหน้าหิ้งพระ!!! เล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อเพราะต่อหน้าคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนในบ้าน เขาจะเป็นแม่พระ ใจเย็น กับคนในบ้านจะโดนเธอเหวี่ยงกลับทุกคนที่ทำให้ขัดใจค่ะ) *จำสาเหตุการทะเลาะไม่ได้ เพราะshock กับการกระทำของเขาค่ะ
- เคยทำให้ลูกคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องประตูตู้ชั้นลอย
ลูกเตือนว่าลืมปิดสองครั้งแล้วนะ เดียวพ่อมาเห็นก็โดนว่าหรอก เขาก็ปรี๊ดทันทีด่ากราดกลับจนลูกมันทนไม่ไหว วิ่งขึ้นห้องขอลาตายดีกว่า (เตือนดีๆยังผิดT^T)
-ทำลูกสาวคนเดียวอย่างฉันเด้งออกจากงานดีๆได้(ภายในหกวัน) เพราะความไร้เหตุผล และเจ้าอารมย์ค่ะ
ปัญหาของคนเป็นแม่คือ>>>อารมย์ร้อน ไร้เหตุผล ไม่เอาใคร(เอาแต่เหตุผลตัวเองมาค้านคานคนอื่นๆ) แผนกจิตเวชแนะให้ลูกสาวคนเดียวเอาใจใส่ ดูแลทำความเข้าใจเขาให้มาก รักเขาให้มากๆเข้าไว้ และเวลาที่เขาทำผิดก็อย่าไปว่าเขาผิด เพราะถ้าถามหาความผิดจากเขาบอกได้คำเดียวว่าไม่มี!!! และไม่เคยมีเพราะคนที่มีลักษณะนิสัยแบบนี้เขาจะไม่ยอมรับผิดในกรณีไหนทั้งสิ้น แม้นผิดจริง
ปัญหาของคนเป็นลูกคือ>>>ยังไม่ยอมทำตัวเป็นกุณแจแก้ไขปัญหาเรื้อรังที่ได้รับคำตอบในการแก้ไขแล้วค่ะ เพราะแผลทั้งสามที่บอกไปข้างบนนั้นเอง เลยอยากจะถามว่าใครพอจะมีวิธีให้ฉันลืมแผลในใจได้บ้างค่ะ
ปล.ถ้าเรื่องที่เอามาปรึกษามันยาวไปก็ขอโทษด้วยค่ะ และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำค่ะ