หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)

กระทู้สนทนา

หลุมพรางของธุรกิจเครือข่าย (MLM) 6 (ตอนจบ)

เม่าออกรถ

6. งานโรดโชว์หรืองานฟังก์ชั่นที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

งานโรดโชว์หรืองานฟังก์ชั่นเป็นงานที่จะขาดเสียไม่ได้ในการเชิญชวนกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่สนใจร่วมเข้าการฟังธุรกิจเพื่อเปิดทัศนคติด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้ชีวิต ด้านการเลือกใช้สินค้า ตลอดจนคุณภาพและประโยชน์จากการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทเครือข่ายที่จัดงานนั้นๆ แน่นอนว่าในงานดังกล่าว ย่อมจะมีทั้งผู้ที่ต้องการใช้สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ หรือผู้ที่สนใจด้านธุรกิจเข้ามาร่วมชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากเป้าหมายของการจัดงานโรดโชว์และงานฟังก์ชั่น ก็เพื่อต้องการดึงดูดให้ผู้ที่เข้ามาร่วมในงานเปิดใจและหันเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับบริษัท มากกว่าที่จะดึงดูดผู้คนให้หันมาเป็นผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าใช้แต่เพียงอย่างเดียว เพราะธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่เน้นการสร้างเครือข่ายองค์กรเป็นหลัก ดังนั้น เมื่อคุณเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ คุณต้องมีหน้าที่แบกรักภาระการสปอนเซอร์หาคนเข้ามาร่วมงานโรดโชว์หรืองานฟังก์ชั่นด้วย

โดยกลยุทธที่แม่ทีม (upline) ส่วนใหญ่ใช้ มักจะให้ลูกทีม (downline) แต่ละคนตัดบัตรเข้างาน เพื่อให้ลูกทีมนำบัตรเหล่านี้ไปสปอนเซอร์เชิญคนเข้าร่วมงานต่อไป ซึ่งบัตรเข้างานดังกล่าว ส่วนใหญ่จะมีราคาประมาณ 200-500 บาท ถ้าหากลูกทีมรับมาซัก 5 ใบ ก็เป็นภาระต้นทุนทางธุรกิจอย่างหนึ่งที่ลูกทีมจะต้องแบกรับ และพยายามหาทางสปอนเซอร์หาคนเข้ามาร่วมงานให้ได้ เพราะถ้าหากหาไม่ได้แล้ว ลูกทีมก็จะต้องขาดทุนนั้นเอง ซึ่งงานโรดโชว์หรืองานฟังก์ชั่นเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะจัดประมาณเดือนละ 1 ครั้ง หรือ 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง แล้วแต่บริษัทจะเป็นผู้จัดกำหนด ด้วยวิธีการเหล่านี้บริษัทเครือข่ายผู้จัดงานจะไม่ประสบการขาดทุนในการจัดงานแต่อย่างใด เพราะได้รับเงินค่าบัตรเข้าชมงานมาครบตามจำนวนตั้งแต่แรกจากสมาชิกผู้ทำธุรกิจแล้ว

แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าทุกบริษัทจะจัดงานในลักษณะแบบนี้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าบางบริษัทจะจัดงานโรดโชว์หรืองานฟังก์ชั่นก็จริงแต่ก็ไม่ได้เก็บค่าบัตรเข้างานแต่อย่างใด เพราะบางบริษัทยอมที่จัดงานด้วยงบประมาณของบริษัทเอง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกให้สามารถทำธุรกิจโดยมีความเสี่ยงต่ำ เพื่อเป้นการจูงใจให้สมาชิกพยายามหากลุ่มเป้าหมายเข้ามาร่วมในงานให้มากขึ้น เพื่อหวังให้ผู้ที่เข้ามารับชมในงานกลายมาเป็นผู้บริโภคหรือเข้ามาร่วมทำธุรกิจเครือข่ายกับบริษัทนั้นๆ ต่อไป ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าแนวทางการบริหารงานและการทำงานสร้างเครือข่ายสมาชิกของแต่ละบริษัท

นานาอุ๊ต๊ะ

นี้คือ ความจริงที่คนเพิ่งจะเริ่มทำธุรกิจเครือข่ายต้องพึ่งตะหนักเอาไว้ให้มากว่า การทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่เป็นธุรกิจที่ง่ายดายอย่างที่คิด การทำธุรกิจนี้ต้องอาศัยความอดทน ใจรัก ความขยัน มุ่งมั่น และความพยายาม ไม่ต่างจากการทำธุรกิจประเภทอื่นๆ เพื่อที่จะสร้างองค์กรของตัวเองให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นมาในอนาคต

ผมหวังว่าความรู้จากช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผมได้เข้าไปทำธุรกิจเครือข่ายจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เริ่มสนใจในธุรกิจนี้ ไม่มาก็น้อย ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่าบทความทั้ง 6 ตอนของผม ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเครือข่ายจะเป็นความจริงอย่างนั้นทั้งหมด แต่นี้คือประสบการณ์จริงที่ผมได้รับจากการทำธุรกิจนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ในความคิดของผมการทำธุรกิจเครือข่าย คือการบริหารองค์กรเครือข่ายผู้บริโภคและองค์กรเครือข่ายผู้ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงและแข็งแรงควบคู่ไปด้วยกัน การทำธุรกิจเครือข่ายเป็นทั้งงานขาย งานด้านการตลาด งานบริการ และงานบริหาร ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมได้ถ่ายทอดไปในวันนี้ จะทำให้ผู้ที่เริ่มสนใจทำธุรกิจเครือข่าย สามารถเลือกทำธุรกิจเครือข่ายที่ถูกต้องตรงกับความต้องการของตัวเองได้

ผมไม่ต้องการที่จะเห็นคนที่เริ่มทำธุรกิจเครือข่าย เป็นเหมือนอย่างกับผมในสมัยอดีตที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่ายอะไรเลย ไม่รู้ว่าธุรกิจไหนจริง ธุรกิจไหนหลอก ไม่รู้ว่าเป้าหมายของธุรกิจที่แท้จริงคืออะไร ไม่รู้ว่าการทำธุรกิจแบบนี้ต้องทำอะไรบ้าง และต้องจะต้องเผชิญหรือประสบอุปสรรคปัญหาอย่างไรบ้าง

สุดท้าย ผมเชื่อว่าการแชร์ความรู้ ความคิด และประสบการณ์จะเปิดโลกทัศน์ให้กับทุกคน ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและเข้าใจในสิ่งเหล่านั้นได้ ไม่ว่าบทความนี้จะผิดหรือจะถูกประการใด จะเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อท่านใดหรือไม่ ผมก็ตั้งใจกลั่นกรองมันออกมาจนสุดความสามารถแล้ว และหวังลึกๆ ไว้ในใจว่าบทความทั้ง 6 ตอนนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่สนใจ สมกับที่ผมได้ตั้งความหวังเอาไว้จริงๆ

ขอบคุณครับ พาพันขอบคุณ