คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตามความคิดผม
'พระพุทธรูป' คือ สิ่งที่คอยย้ำเตือนถึงการครองสติ ทำความดี และ มีศิลธรรม ควบคู่กับการดำรงชีวิต
เพราะฉะนั้น การลอดใต้สะพานลอย ลอดใต้ราวตากผ้า ที่เชื่อกันว่าจะทำให้เสื่อมได้ มันผิดตรรกะของประโยคข้างบนครับ
เพราะถ้าเสื่อมจริง ตึกรามบ้านช่องในประเทศไทย คง'ห้าม' มีชั้นเกิน 1 ชั้น และ พระจะต้องอยู่บนหลังคาเท่านั้น แม้แต่เครื่องบินยังห้ามบินผ่าน
ผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอุบายของคนโบราณ ที่ออกกฏกติกามาเพื่อ 'แอบ' สอนให้เราทำดี ไม่ทำชั่วครับ
ยกตัวอย่างเช่น การห้ามลอดใต้ราวตากผ้า ผมว่า เขาห้าม การไม่เดินในที่ที่คนปกติเขาไม่เดินกัน ลองนึกภาพบ้านเรือนสมัยก่อน เราจะตากผ้ากันหลัง หรือ ข้างบ้าน มากกว่าหน้าบ้าน
การที่เราเดินลอดใต้ราวดังกล่าว มันส่อถึง การลักลอบ การแอบเข้าบ้าน โดยไม่ผ่านทางเดินหน้าบ้าน ซึ่งมันผิดวิสัย และอาจจะนำไปสู่เรื่องเสื่อมต่งๆได้ในที่สุดครับ
สำหรับตัวผมเองนั้น ผมไม่ได้ยึดติดอะไรกับวัตถุครับ
เพราะ 'พระ' ผมอยู่ในใจเสมอครับ
'พระพุทธรูป' คือ สิ่งที่คอยย้ำเตือนถึงการครองสติ ทำความดี และ มีศิลธรรม ควบคู่กับการดำรงชีวิต
เพราะฉะนั้น การลอดใต้สะพานลอย ลอดใต้ราวตากผ้า ที่เชื่อกันว่าจะทำให้เสื่อมได้ มันผิดตรรกะของประโยคข้างบนครับ
เพราะถ้าเสื่อมจริง ตึกรามบ้านช่องในประเทศไทย คง'ห้าม' มีชั้นเกิน 1 ชั้น และ พระจะต้องอยู่บนหลังคาเท่านั้น แม้แต่เครื่องบินยังห้ามบินผ่าน
ผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอุบายของคนโบราณ ที่ออกกฏกติกามาเพื่อ 'แอบ' สอนให้เราทำดี ไม่ทำชั่วครับ
ยกตัวอย่างเช่น การห้ามลอดใต้ราวตากผ้า ผมว่า เขาห้าม การไม่เดินในที่ที่คนปกติเขาไม่เดินกัน ลองนึกภาพบ้านเรือนสมัยก่อน เราจะตากผ้ากันหลัง หรือ ข้างบ้าน มากกว่าหน้าบ้าน
การที่เราเดินลอดใต้ราวดังกล่าว มันส่อถึง การลักลอบ การแอบเข้าบ้าน โดยไม่ผ่านทางเดินหน้าบ้าน ซึ่งมันผิดวิสัย และอาจจะนำไปสู่เรื่องเสื่อมต่งๆได้ในที่สุดครับ
สำหรับตัวผมเองนั้น ผมไม่ได้ยึดติดอะไรกับวัตถุครับ
เพราะ 'พระ' ผมอยู่ในใจเสมอครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เห็นยกหลวงพ่อเดิม ก็ อ่าน เต็มๆ เลยดีกว่า
กลับมาที่การไขปริศนาของ เส้นแบ่งความตาย ของหลวงพ่อเดิม ที่มีต่อการอาราธนาพระเครื่องที่เกิดต่อหน้าผู้คนมากมาย หลายคนด้วยกัน ว่ากันว่าวันหนึ่งมีคนวิ่งกระหืดกระหอบ มากราบเรียนหลวงพ่อเดิม ว่าลูกศิษย์รักของท่านคนหนึ่งถูกยิงตาย หลวงพ่อเดิมเมื่อทราบข่าว ก็ขี่ช้างเพื่อไปดูศพ ที่อยู่ไม่ไกล จากวัดหนองโพธิ์นัก เมื่อท่านไปถึง ตำรวจกำลังพลิกศพอยู่พอดี หลวงพ่อเดิมท่านจึงสั่งให้ตำรวจ นำเหรียญรูปท่านซึ่งผู้ตายแขวนคออยู่ที่คอ เป็นเหรียญรูปไข่ รุ่นปี พ.ศ. 2482 ที่เคยมีคนมีประสบการณ์ด้านคงกระพัน มานับครั้งไม่ถ้วน ไปวางห่างจากศพ ประมาณหนึ่งวา แล้วท่างจึงสั่งให้ตำรวจท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ยิงไปที่เหรียญรูปเหมือนของท่าน แต่ตำรวจท่านนั้นไม่กล้ายิง จนท่านต้องสั่งกำชับให้ยิงได้
ปรากฎว่าไม่ว่าจะยิงสักกี่นัด ปืนก็ไม่ลั่น และจะเปลี่ยนปืนสักกี่กระบอกกระสุน ปืนก็ไม่ทำงาน แล้วท่านก็ได้มอบเหรียญนั้นให้แก่ตำรวจที่ยิงไป แล้วท่านก็เดินทางกลับวัดหนองโพ แต่ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ ท่านได้พูดไว้ให้เป็นปริศนาธรรมให้หลายๆคนคลายข้อสงสัยท่านกล่าวไว้ว่า
ถ้ามัน (หมายถึงผู้ตาย) ขยับเดินออกไปอีกสองก้าว มันจะไม่ตาย หรือถ้ามันมาถึงที่ตรงนี้เร็วหรือช้ากว่านี้ไปอีกสักหน่อย
มันก็จะไม่ตาย ที่มันตายเพราะถึงฆาตถึงเวลา ไม่ใช่เพราะเหรียญของข้า ...
จาก คำพูดของหลวงพ่อเดิม น่าจะอธิบายได้ว่า คนเรานั้นเมื่อถึงที่ต้องตาย คำว่าถึงที่ก็คือถึงฆาต ชะตาขาดมักไม่รอด นอกจากจะมีบุญเก่ามาช่วยหนุนช่วยเสริมเอาไว้ มาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้างเท่านั้น คนที่รู้จักเคล็ดลับนี้ ก็จะแก้ไขได้ เรื่องนี้เคยปรากฎมาแล้วในสมัยพุทธการ โดยพระพุทธเจ้าทรงให้พระสงฆ์ สวดมนต์ช่วยเหลือสามเณรที่มีชื่อว่าอายุวัฒนะ ให้รอดตายมาแล้ว นอกจากจะไขปริศนาเส้นแบ่งแห่งความตายแล้วหลวงพ่อเดิม ได้ตอบคำถามของศิษย์ที่ขี้สงสัย ที่ถามท่านเกี่ยวกับการใช้เครื่องรางของขลังติดตัว ว่ามีข้อห้ามประการใดบ้าง หลวงพ่อเดิมท่านตอบว่า พระเครื่องรางของขลังของท่านมีฤทธิ์เหมือนงูเห่า ที่เลื้อยผ่าน กองอุจจาระ ปัสสาวะ เพราะมันไม่รู้ว่าคือสถานที่ใด แต่พิษมันก็คงมีอยู่และกัดคนตาย พระเครื่องก็เป็นเช่นเดียวกัน หากปราศจากเจตนาแล้ว เพชรยังไง ก็ยังเป็นเพชร อยู่เสมอ...
กลับมาที่การไขปริศนาของ เส้นแบ่งความตาย ของหลวงพ่อเดิม ที่มีต่อการอาราธนาพระเครื่องที่เกิดต่อหน้าผู้คนมากมาย หลายคนด้วยกัน ว่ากันว่าวันหนึ่งมีคนวิ่งกระหืดกระหอบ มากราบเรียนหลวงพ่อเดิม ว่าลูกศิษย์รักของท่านคนหนึ่งถูกยิงตาย หลวงพ่อเดิมเมื่อทราบข่าว ก็ขี่ช้างเพื่อไปดูศพ ที่อยู่ไม่ไกล จากวัดหนองโพธิ์นัก เมื่อท่านไปถึง ตำรวจกำลังพลิกศพอยู่พอดี หลวงพ่อเดิมท่านจึงสั่งให้ตำรวจ นำเหรียญรูปท่านซึ่งผู้ตายแขวนคออยู่ที่คอ เป็นเหรียญรูปไข่ รุ่นปี พ.ศ. 2482 ที่เคยมีคนมีประสบการณ์ด้านคงกระพัน มานับครั้งไม่ถ้วน ไปวางห่างจากศพ ประมาณหนึ่งวา แล้วท่างจึงสั่งให้ตำรวจท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ยิงไปที่เหรียญรูปเหมือนของท่าน แต่ตำรวจท่านนั้นไม่กล้ายิง จนท่านต้องสั่งกำชับให้ยิงได้
ปรากฎว่าไม่ว่าจะยิงสักกี่นัด ปืนก็ไม่ลั่น และจะเปลี่ยนปืนสักกี่กระบอกกระสุน ปืนก็ไม่ทำงาน แล้วท่านก็ได้มอบเหรียญนั้นให้แก่ตำรวจที่ยิงไป แล้วท่านก็เดินทางกลับวัดหนองโพ แต่ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ ท่านได้พูดไว้ให้เป็นปริศนาธรรมให้หลายๆคนคลายข้อสงสัยท่านกล่าวไว้ว่า
ถ้ามัน (หมายถึงผู้ตาย) ขยับเดินออกไปอีกสองก้าว มันจะไม่ตาย หรือถ้ามันมาถึงที่ตรงนี้เร็วหรือช้ากว่านี้ไปอีกสักหน่อย
มันก็จะไม่ตาย ที่มันตายเพราะถึงฆาตถึงเวลา ไม่ใช่เพราะเหรียญของข้า ...
จาก คำพูดของหลวงพ่อเดิม น่าจะอธิบายได้ว่า คนเรานั้นเมื่อถึงที่ต้องตาย คำว่าถึงที่ก็คือถึงฆาต ชะตาขาดมักไม่รอด นอกจากจะมีบุญเก่ามาช่วยหนุนช่วยเสริมเอาไว้ มาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้างเท่านั้น คนที่รู้จักเคล็ดลับนี้ ก็จะแก้ไขได้ เรื่องนี้เคยปรากฎมาแล้วในสมัยพุทธการ โดยพระพุทธเจ้าทรงให้พระสงฆ์ สวดมนต์ช่วยเหลือสามเณรที่มีชื่อว่าอายุวัฒนะ ให้รอดตายมาแล้ว นอกจากจะไขปริศนาเส้นแบ่งแห่งความตายแล้วหลวงพ่อเดิม ได้ตอบคำถามของศิษย์ที่ขี้สงสัย ที่ถามท่านเกี่ยวกับการใช้เครื่องรางของขลังติดตัว ว่ามีข้อห้ามประการใดบ้าง หลวงพ่อเดิมท่านตอบว่า พระเครื่องรางของขลังของท่านมีฤทธิ์เหมือนงูเห่า ที่เลื้อยผ่าน กองอุจจาระ ปัสสาวะ เพราะมันไม่รู้ว่าคือสถานที่ใด แต่พิษมันก็คงมีอยู่และกัดคนตาย พระเครื่องก็เป็นเช่นเดียวกัน หากปราศจากเจตนาแล้ว เพชรยังไง ก็ยังเป็นเพชร อยู่เสมอ...
แสดงความคิดเห็น
ถามข้อห้าม การห้อยแขวน พระสมเด็จ หรือ พระทั้งปวง
ผมอายุ 24 ปีทำแต่งาน จนถึงช่วงนึงของชีวิตที่รู้สึกดวงเริ่มตกอับ จึงอยากที่จะหาพระที่เรารู้จักและนับถือมา บูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมจึงเลือก พระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรสี) ขออภัยถ้าพิมพ์ผิดครับ แต่เนื่องจากปัจจุบัน มีมิจฉาชีพเข้ามาหากินกับคนที่ใจบริสุทธิ อยากเราๆกันเยอะ ในเมื่อเราดูพระไม่เป็น ผมก็มีข้อแนะนำ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า เราไม่ต้องเล่นรุ่น 100 ปี หรือรุ่นในสมัยโบราณขนาดนั้นครับ ถ้าเราอยากได้ของแท้ ที่ยืนยันได้ว่าแท้ 100% เราก็เลือก รุ่นที่เข้าเพิ่งทำมาใหม่ ณ.ที่วัดระฆังโฆสิตารามนั่นเอง ราคาก็ไม่เกินกำลังทรัพย์อย่างเราๆคนทำงานกันนัก
ทีนี้.... คำถามที่ผมอยากทราบก็คือ นี่คือพระที่ผมเพิ่งบูชาองค์แรกที่จะใส่ที่คอตลอด เลยอยากถามว่าทำอย่างไร กลัวพระเสื่อมกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เสื่อมนี้หมายถึง เราทำให้ เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเรื่องของการพนันหรือ เรื่องทางเพศ
- มีอะไรกับคนรัก ถ้าถอดออกก่อน จะเสื่อมไหม?
-เดินลอดใต้สะพาน สูง หรือ สะพานเตี้ย โดยมีผู้หญิงเดดินอยู่ด้านบน เสื่อมไหม?
-เล่นการพนัน แบบใส่ท่านอยู่ที่คอด้วย เสื่อมไหม? หรือถ้าถอดออกก่อนจะเล่นจะเสื่อมไหม?
หลักๆที่อยากจะถามมีแค่นี้ละครับ รบกวนผู้รู้หรือผู้ที่เชี่ยวชาญ รบกวนให้คำตอบด้วยนะครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ