เมตตา....เป็นสภาวธรรมที่อ่อนโยน เบาสบาย และไม่ติดข้อง....โดยเป็นกุศลธรรมในระดับที่มี“สัตว์ บุคคล ตัวตน ฯลฯ” เป็นอารมณ์
การเจริญเมตตาของคฤหัสถ์อย่างเราๆ สามารถเจริญได้โดยชีวิตปกติประจำวัน เช่น
- การพูดจาไพเราะ และมีประโยชน์
- การไม่เบียดเบียน หรือเป็นผู้มีศีลเป็นปกติ
- การให้ในสิ่งที่ควรให้ ช่วยเหลือในสิ่งที่ควรช่วยเหลือ เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น
- ลดมานะแห่งตนเพื่อมองผู้อื่นที่ด้อยกว่าด้วยความเสมอกัน
- เมตตาด้วยความเสมอภาค ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
เป็นต้นครับ ฯลฯ
สังสารวัฏมีเบื้องต้นเบื้องปลายไม่มีที่สิ้นสุด....สะสมความเห็นผิดกี่แสนกัปกันมาแล้ว การที่จะออกสังสารวัฏเลยใน ภพชาตินี้
จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นนั้นกุศลกรรมทุกประเภททุกชนิดที่สะสมได้ ที่ปฏิบัติได้ ย่อมเป็นสเบียงธรรมแก่เราได้เสมอเมื่อยังไม่หลุดพ้น
....พระผู้มีพระภาคฯท่านจึงสอนกุศลธรรม ตามสมควรแก่ธรรมของแต่ละสถานภาพแต่ละบุคคล.... และกุศลธรรมย่อมเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน
สำหรับท่านที่มีปกติเจริญสติปัฏฐานด้วยแล้ว เมื่อสติเกิดและระลึกรู้ได้ถึงอารมณ์ของเมตตาว่าเป็นอย่างไร แตกต่างจากโลภะอย่างไร
เกิดแล้วดับแล้วอย่างไร และเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เราอย่างไร ก็จะยิ่งเป็นการสะสมปัญญาในระดับที่สูงขึ้นไป ควบคู่กันไปได้ด้วยครับ
เจริญเมตตา.....เจริญได้ด้วยการมี “สัตว์ บุคคล ตัวตน”เป็นอารมณ์
เมตตา....เป็นสภาวธรรมที่อ่อนโยน เบาสบาย และไม่ติดข้อง....โดยเป็นกุศลธรรมในระดับที่มี“สัตว์ บุคคล ตัวตน ฯลฯ” เป็นอารมณ์
การเจริญเมตตาของคฤหัสถ์อย่างเราๆ สามารถเจริญได้โดยชีวิตปกติประจำวัน เช่น
- การพูดจาไพเราะ และมีประโยชน์
- การไม่เบียดเบียน หรือเป็นผู้มีศีลเป็นปกติ
- การให้ในสิ่งที่ควรให้ ช่วยเหลือในสิ่งที่ควรช่วยเหลือ เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น
- ลดมานะแห่งตนเพื่อมองผู้อื่นที่ด้อยกว่าด้วยความเสมอกัน
- เมตตาด้วยความเสมอภาค ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
เป็นต้นครับ ฯลฯ
สังสารวัฏมีเบื้องต้นเบื้องปลายไม่มีที่สิ้นสุด....สะสมความเห็นผิดกี่แสนกัปกันมาแล้ว การที่จะออกสังสารวัฏเลยใน ภพชาตินี้
จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นนั้นกุศลกรรมทุกประเภททุกชนิดที่สะสมได้ ที่ปฏิบัติได้ ย่อมเป็นสเบียงธรรมแก่เราได้เสมอเมื่อยังไม่หลุดพ้น
....พระผู้มีพระภาคฯท่านจึงสอนกุศลธรรม ตามสมควรแก่ธรรมของแต่ละสถานภาพแต่ละบุคคล.... และกุศลธรรมย่อมเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน
สำหรับท่านที่มีปกติเจริญสติปัฏฐานด้วยแล้ว เมื่อสติเกิดและระลึกรู้ได้ถึงอารมณ์ของเมตตาว่าเป็นอย่างไร แตกต่างจากโลภะอย่างไร
เกิดแล้วดับแล้วอย่างไร และเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เราอย่างไร ก็จะยิ่งเป็นการสะสมปัญญาในระดับที่สูงขึ้นไป ควบคู่กันไปได้ด้วยครับ