คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ต้องแยกให้ออกนะครับว่ามันมี 2 ระบบที่มีประมุขทั้ง 2 ประเภทคู่ไปด้วยกันด้วย
1.ระบบรัฐสภาที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข (Parliamentary republic) ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐเหมือนกับกษัตริย์ในระบอบกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นบุคคลธรรมดามาจากการเลือกของสภา ไม่มีอำนาจบริหาร มีหน้าที่ในด้านพิธีการ ลงนามในกฎหมาย แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีโดยการร้องขอจากสภา ส่วนนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงมีอำนาจในการบริหารที่แท้จริง ระบอบเช่นนี้มักได้แก่ประเทศที่เคยมีกษัตริย์เป็นประมุขของรัฐมาก่อนอย่างเช่นอิตาลี บังเกเรีย ตุรกี แต่พอได้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ประมุขก็เปลี่ยนเป็นประธานาธิบดีเพื่อมาแทนกษัตริย์ ส่วนเยอรมันก็คือในยุคเยอรมันตะวันตกและเยอรมันปัจจุบัน (ส่วนช่วงสาธารณรัฐไวน์มาร์เป็นประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา) อินเดียในยุคเป็นประเทศคือพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ฯลฯ
2.ระบบประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา (Semi-presidential system) ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ แบ่งอำนาจกับนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรง และเป็นคนแต่งตั้งและปลดนายกรัฐมนตรีซึ่งอาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ได้ ประธานาธิบดียังเป็นผู้พิจารณารายชื่อของคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเสนอไป มีอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพ สามารถประกาศกฎหมายฉุกเฉินได้
ตัวอย่างคือต้นแบบคือฝรั่งเศส รัสเซีย อียิปต์ ไต้หวัน สองประเทศหลังนี่ประธานาธิบดีมีความโดดเด่นมาก (ถ้านับไต้หวันเป็นประเทศ) จนคนเข้าใจว่าเป็นระบอบประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตามบางประเทศเช่นจีนมีประมุขคือประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีแต่ไม่สามารถจัดให้อยู่ในข้อที่ 2 ได้เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองแทรกเข้ามาเช่นเลขาธิการพรรคหรือประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง และอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์
ที่มีระบบเช่นนี้ก็เพื่อความมั่นคงทางการเมืองเพราะนายกรัฐมนตรีถ้าบริหารงานไม่ดีก็โดนประธานาธิบดีปลดและสามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยที่นโยบายของรัฐไม่สะดุด ไม่เหมือนกับระบอบรัฐสภาที่เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีได้ง่ายกว่าแต่นโยบายของรัฐสะดุด ไม่ต่อเนื่อง
1.ระบบรัฐสภาที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข (Parliamentary republic) ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐเหมือนกับกษัตริย์ในระบอบกษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นบุคคลธรรมดามาจากการเลือกของสภา ไม่มีอำนาจบริหาร มีหน้าที่ในด้านพิธีการ ลงนามในกฎหมาย แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีโดยการร้องขอจากสภา ส่วนนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงมีอำนาจในการบริหารที่แท้จริง ระบอบเช่นนี้มักได้แก่ประเทศที่เคยมีกษัตริย์เป็นประมุขของรัฐมาก่อนอย่างเช่นอิตาลี บังเกเรีย ตุรกี แต่พอได้เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ประมุขก็เปลี่ยนเป็นประธานาธิบดีเพื่อมาแทนกษัตริย์ ส่วนเยอรมันก็คือในยุคเยอรมันตะวันตกและเยอรมันปัจจุบัน (ส่วนช่วงสาธารณรัฐไวน์มาร์เป็นประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา) อินเดียในยุคเป็นประเทศคือพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ฯลฯ
2.ระบบประธานาธิบดีกึ่งรัฐสภา (Semi-presidential system) ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ แบ่งอำนาจกับนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรง และเป็นคนแต่งตั้งและปลดนายกรัฐมนตรีซึ่งอาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ได้ ประธานาธิบดียังเป็นผู้พิจารณารายชื่อของคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเสนอไป มีอำนาจเป็นผู้บังคับบัญชากองทัพ สามารถประกาศกฎหมายฉุกเฉินได้
ตัวอย่างคือต้นแบบคือฝรั่งเศส รัสเซีย อียิปต์ ไต้หวัน สองประเทศหลังนี่ประธานาธิบดีมีความโดดเด่นมาก (ถ้านับไต้หวันเป็นประเทศ) จนคนเข้าใจว่าเป็นระบอบประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตามบางประเทศเช่นจีนมีประมุขคือประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีแต่ไม่สามารถจัดให้อยู่ในข้อที่ 2 ได้เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองแทรกเข้ามาเช่นเลขาธิการพรรคหรือประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง และอำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์
ที่มีระบบเช่นนี้ก็เพื่อความมั่นคงทางการเมืองเพราะนายกรัฐมนตรีถ้าบริหารงานไม่ดีก็โดนประธานาธิบดีปลดและสามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยที่นโยบายของรัฐไม่สะดุด ไม่เหมือนกับระบอบรัฐสภาที่เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีได้ง่ายกว่าแต่นโยบายของรัฐสะดุด ไม่ต่อเนื่อง
แสดงความคิดเห็น
ประเทศที่มีทั้งประธานาธิบดี และ นายก ทั้งสองตำแหน่งนี้มีบทบาทต่างกันอย่างไรครับ
1. หน้าที่ของทั้งสองตำแหน่งนี้ ต่างกันอย่างไร และทำไมถึงไม่มีตำแหน่งเดียวไปเลย
2. ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งสองตำแหน่งเลยหรือเปล่า