คิดว่าอะไรทำให้ผู้บริหารเก่งๆ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเมื่อมาทำกิจการเองครับ

คือในวงสนทนาหลายๆครั้ง มักมีหัวข้อนี้มาพูดคุยกันตลอด ว่าอะไรทำให้ผู้บริหารเก่งๆ เทพๆ
พอออกมาทำกิจเองเอง หรือแม้กระทั่งมาทำองกรณ์ที่เล็กๆ กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจนะครับ เพราะ SME บ้านเรา รวมทั้งผม ส่วนใหญ่เติบโตมาในลักษณะเถ้าแก่
ที่ไม่ค่อยมีความรู้ในการบริหารจัดการ มิหนำซ้ำยังเป็นกิจการครอบครัวซะส่วนใหญ่อีก
เลยคิดว่า ถ้ากิจการหลายๆ กิจการบริหารด้วยคนที่มีความรู้ ความสามารถ น่าจะดีกว่ารึเปล่า

ผมเลยลองวิเคราะห์ดูว่าคนใกล้ๆ ตัวผมที่ไม่ค่อยสำเร็จเนี่ย เกิดจากอะไรบ้าง




1.    เชื่อมั่นในความสัมพันธ์มากเกินไป    มีท่านหนึ่งเคยเป็นผู้จัดการด้านการตลาด ในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง
รู้จักและสนิทกับลูกค้าของบริษัทแทบทุกราย โดยเฉพาะรายใหญ่ๆ พอถึงวันนึงตัวเขาเองคิดว่าวิชาแกร่งกล้าแล้ว
เก็บประสบการณ์มานานถึง 20 ปี ลูกค้าก็มีในมือหมดแล้วที่คิดว่าจะช่วยดันสินค้าให้ พร้อมแล้วที่จะออกไปโลดแล่น
ในนามเจ้าของธุรกิจ ....... จากนั้นก็เริ่มไปแสวงหา Product ที่พอใช้ได้มาทำตลาด สุดท้ายแล้วก็ไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เพราะเอาเข้าจริงลูกค้าที่สนิทกันนั้นก็มีเพียงไม่กี่รายที่ช่วยดันสินค้าให้ และลูกค้าที่อดีตผู้บริหารคนนี้เลือกนั้นก็เป็นลูกค้าเก่า
สมัยทำงานกับบริษัทใหญ่ ซึ่งเป็นลูกค้าระดับบิ๊กๆ ทั้งนั้น ซึ่งธรรมชาติของลูกค้ากลุ่มนี้ มักจะไม่ค่อยดันสินค้าใหม่ๆ
ที่ยังไม่มีชื่อเสียงหรอกครับ เพราะขายแบรนด์ที่ติดตลาดแล้วง่ายกว่า ถึงแม้จะสนิทกันแค่ไหนก็ตาม

ยิ่งสินค้าเรานั้นไม่ได้มีความโดดเด่น หรือแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดเลย ยิ่งยากครับ
ผมเองนั้นก็เห็นด้วยว่าความสัมพันธ์เป็นปัจจัยที่จะส่งเราให้ประสบความสำเร็จ แต่นั่นไม่ควรเป็นสิ่งแรกที่ควรนึกถึง

.... ผมคิดว่าธุรกิจที่ดี ควรจะต้องเริ่มจาก Product ที่ดี ครับ


2.    เครื่องมือไม่ครบเหมือนตอนทำบริษัทใหญ่ ในสมัยเป็นผู้บริหารในบริษัทใหญ่นั้นมีเครื่องมือมากมายให้เลือกใช้
มีข้อมูลการตลาดที่ครบถ้วน มีคนเก่งๆ คอยซัพพอร์ทงานมากมาย แต่พอออกมาทำเองนี่คนละเรื่องเลยครับ คนก็มีน้อย
และส่วนใหญ่ไม่เก่งเท่าตอนทำบริษัทใหญ่ด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังมีแผนกงานไม่ครบอีก บางทีไม่มีหรอกฝ่ายการตลาด
ฝ่ายบุคคล ฝ่ายผลิต มีแต่ฝ่ายเจ้าของของเดียวนี่แหล่ะ ฮาา


3.สายป่านสั้น  ตอนยังทำงานให้คนอื่น คิดสารพัดแคมเปญจน์การตลาด อัดมันเต็มที่ งบการตลาดไม่อั้น
เอาตัวเลขเข้าว่า แต่พอมาเปิดบริษัทเอง จะทำลด แลก แจก แถม ทำแคมเปญจน์หนักๆ แบบเดิมก็ต้องคิดหนักแล้ว
เพราะเงินตัวเองทั้งนั้น รวมไปถึงเงินทุนหมุนเวียนที่เป็นทุนส่วนตัวมีจำกัด สายป่านสั้น จะให้เครดิตลูกค้า 6เดือน 8เดือน
ก็ไม่ได้ มิหนำซ้ำยังบริหารการเงิน หมุนเงินไม่เป็นอีก ก็ไปกันใหญ่เลย ทำธุรกิจเองมี 4 เรื่องที่ต้องบริหารครับ
คือ บริหารงาน บริหารเงิน บริหารคน บริหารเวลา


4.    มือเติบ ทำแล้วต้องดี เจ๋ง    นี่ก็เป็นอีกแบบนึงครับ ออกจากบริษัทมาส่วนใหญ่ผู้บริหารมักจะภาพลักษณ์ดีอยู่แล้ว
พอทำของตัวเองปุ๊บอันดับแรกมาก่อนเลย คือภาพลักษณ์ต้องดี จะเปิดร้าน เปิด shop ต้องเจ๋งที่สุด ดูดีที่สุด เล็กๆไม่ ต้องใหญ่เท่านั้น
ทุกอย่างต้อง perfect  Material ครบ จนหมดเงินไปกับต้นทุนพวกนี้เยอะ ก็ไปสู่ปัญหาที่สามน่ะครับ คือเงินหมด  
รายได้ไม่ cover กับสิ่งที่ลงทุนไป ก็จบเห่


5.    ยังหลงอยู่กับหลักคิดทฤษฎี   จะคิดอะไรทีทฤษฏีมาเต็ม แผนธุรกิจเป็นเล่มๆ แผนการตลาดนี่เป๊ะยังกับหลุดมาจากห้องเรียน MBA
คือ คนประเภทนี้ดีนะครับ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ผมว่าเหมาะกับบริษัทที่ลงตัวแล้วมากกว่าครับ ไม่เหมาะกับบริษัทตั้งใหม่ เพราะบางทีบริษัทใหม่บางประเภท
ต้องลุยเยอะครับ บางทีก็ต้องใช้แผนลูกทุ่งๆ บ้าง เพราะบางทีทฤษฎีก็เอาไม่อยู่ การตัดสินใจบางอย่างถ้าตัดสินใจตามทฤษฎีเป๊ะๆ
ก็พลาดได้ครับ เพราะบางทีมันมีเรื่องประสบการณ์ เรื่องเซนส์ เรื่องดวง-ความฟลุค มาเกี่ยวข้องด้วย





แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะล้มเหลวนะครับ เพราะหลายๆคนที่ผมรู้จักก็ประสบความสำเร็จเยอะแยะ เพราะการมีประสบการจากที่อื่นมาก่อน
ย่อมได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว อาจจะมีเปอร์เซนมากกว่าคนล้มด้วยซ้ำ ..... ......   แต่แน่นอน  ความล้มเหลว มักเสียงดังกว่าครับ ฮ่าๆ
ลองแชร์ความเห็นกันดูครับ


ฝากติดตาม  หรือมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ของวัยรุ่นทำธุรกิจได้ที่นี่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่