สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพทุกคนนะคะ กระทู้นี้อาจจะยาวมากๆนะคะ วันนี้เรามีเรื่องจะมาปรึกษาค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
ปี2557นี้เป็นปีที่เราต้องสอบเข้ามหาลัย เด็กๆบางคนก็ยังหาตนเองไม่เจอ บางคนก็ยังลังเลว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร เราเคยมีความฝันหลายอย่าง คุณครู นางพยาบาล แอร์โฮสเตส และ 1ในนั้น คือ การเป็นเชฟ..เป็นเชฟในโรงแรม หรือร้านอาหาร...เราชอบดูการแข่งขันทำอาหาร มาสเตอร์เชฟ เชฟกระทะเหล็ก เฮลคิทเช่น ทีวีแชมเปี้ยน เราอยากลองทำอาหาร อยากทำทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยมีโอกาศได้ทำ เพราะว่า ตื่นมาตอนเช้า พ่อแม่เราก็ทำงานนอกบ้าน ส่งเราไป รร ไปกินข้าวที่นั่น เรียนจากรรเสร็จ ไปเรียนพิเศษต่อ เลิกสองทุ่ม พ่อแม่มารับกลับบ้าน แวะกินข้าวร้านข้างนอก ถึงบ้านอาบน้ำนอน ว่าง่ายๆคือ เป็นครอบครัวที่อาศัยนอกบ้าน กินข้าวข้างนอก ใช้ชีวิตข้างนอกทั้งวันว่างั้นเถอะ จนมาถึงช่วง ม5 ช่วงเวลาที่เด็กๆทุกคนเริ่มมองหาว่าอยากเข้าคณะอะไร
เราก็คิดเลย อยากเป็นเชฟนี่แหละ เราก็ไปบอกพ่อว่า พ่อ..อยากเรียนเชฟอ่ะ สิ่งที่พ่อตอบกลับมาคือ เราชอบทำอาหารขนาดนั้นเลยหรอ ครัวก็ไม่ค่อยเข้า แล้วจะไปเรียนได้ไง ถ้าอยากเรียนก็ จบ ปตรีก่อน แล้วค่อยเรียนเพิ่ม ... เราก็คิดพ่อพูดก็ถูกนะ แต่เราก็ยังอยากเรียนทางด้านนี้โดยตรง ถ้าจบ ปตรีสาขาอื่นเราก็มีเวลาเรียนเชฟน้อย กว่าจะหาประสบการณ์อีก อายุก็ปาไปเท่าไหร่แล้ว เราอยากทำในโรงแรม ร้านอาหาร อยากสั่งสมประสปการณ์เยอะๆ เราก็มองวิทยาลัยดุสิตที่ร่วมกับเลอกองดองเบลอ ราชภัฎสวนสุนันทา พอบอกพ่อ พ่อเซโนมากถึงมากที่สุด พ่อไม่โอเคกับราชภัฎ บอกว่าจบมาจะทำงานอะไร แต่เราก้ไม่ได้พูดอะไร เถียงไม่ได้ พ่อไม่ยอม เราก็เลยลองมองหาอีกว่าเราทำอะไรได้ดี ทำอะไรแล้วชอบ ..นั่นก็คือการวาดรูป เราวาดมาตั้งแต่เด็ก แล้วทุกคนก็ชมเราว่า เราวาดรูปได้ดี
เรามีพี่คนนึง วาดรูปเก่ง และพี่เค้าก็อยากเข้าคณะสถาปัตย์ ซึ่งการสอบเข้านั้นต้องมีการสอบฟิสิกส์ เลข อังกฤษ และ ปฎิบัติ(การวาดภาพ ออกแบบโลโก้ perspective) พี่เราก็ไปเรียนพิเศษเพิ่ม(พี่เราอยู่ ม6ตอนนั้น เราอยู่ ม5) แม่ก็บอกว่าให้เราไปเรียนด้วยสิ จะได้รู้ว่าอยากเข้าคณะนี้มั้ย เราก็แบบเอ้อ ไหนๆก็ชอบวาดรูปไปลองเรียนดูก็ได้ เราก็เรียนมาตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงม6 ช่วงใกล้สอบ (เราติววาดรุปมาสองปี ตอนแรกพ่อแม่จะให้เลิกติวเพราะการบ้านเยอะ วาดรูปไม่ได้นอน โทรม อยากให้เข้าบัญชีมากกว่า เราก็ยังดื้อจะเรียนต่อ พูดไปเลยว่าคณะไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บัญชี เกลียดมาก สอบวิชาการงานบัญชีได้0เต็ม10 คือแบบ..5555555 ยังไงก็เซย์โน ) ตอนช่วงรอผล พ่อแม่ขอว่าถ้าติดทั้งบัญชีกับสถาปัตย์2อย่าง ให้เลือกบัญชีนะ เพราะงานมันมั่นคงกว่า เราก็ไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าบัญชีไม่ติดอยู่แล้ว ผลออก เราไม่ติดบัญชี....เราติดคณะสถาปัตย์มหาลัยรัฐแห่งนึง ตอนแรกก็ดีใจมากกกก กรี๊ดๆๆๆ จบชีวิตเด็กเอนท์ละ นอนตีพุงงงงง สบายใจ......นั่งดูยูทูป ดูfood travel สอนทำอาหาร นั่งเล่นพันทิปสบายใจเฉิบ
แต่แล้วความสบายใจนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน....เมื่อเราสอบติด เราก็ได้ไปเรียนคอสสำหรับปูพื้นฐานปี1มหาลัย เราเรียนได้ซักพัก...
เราก็พึ่งรู้ว่า...การสอบติดนั้นว่ายากแล้ว การเรียนให้รอดนั้นยากยิ่งกว่า การเรียนสถาปัตย์นั้นมันพูดได้เลยว่า ไอวาดรูปที่เราชอบนักหนาน่ะ มันแทบไม่ได้ใช้ งานสถาปัตย์จะออกมาดีได้อยุ่ที่การครีเอต ไม่ได้อยู่ที่วาดสวยรึเปล่า คอสปูพื้นฐานนั้นเราไม่อยากเรียนเลย เราดองงาน ตัดโมเดลค้างไว้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิคก็ไม่เป็น....เพื่อนๆเราที่ติดด้วยก็เริ่มฝึกใช้คอมในการออกแบบ กดไลค์เพจสถาปัตยกรรม ส่วนเรา...เพจเฟซบุ๊คมีแต่อาหาร ยูทูปมีแต่แชแนลสอนทำอาหาร ง่ายๆคือไม่มีไรเกี่ยวกับถาปัตเลย ...พอหมดคอสปูพื้นฐาน เราได้ไปเรียนทำอาหาร เรียนตั้งแต่เช้าจนเย็นทุกวัน...ความรู้สึกอยากเรียนเชฟมันมากขึ้น มันสนุก ถึงเหนื่อยก็สนุก กลับมาบ้านเราก็นั่งเปิดสูตรอ่าน ความรู้สึกมันแต่งต่างกับตอนที่เรียนคอสสถาปัตย์ ตอนนี้สับสนมาก อยากเรียนเชฟที่วิทยาลัยดุสิตไม่ก็ที่ไหนก็ได้ ขอให้เรียนเชฟ เราก็ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะพ่อแม่ไม่ยอมรับทางอาชีฟเชฟเลยบอกทำอาหารฝึกทำเองก้ได้ ทำไมต้องเรียน ปตรีทางด้านนี้
เราอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆว่าเราควรจะทำยังไง พ่อไม่โอเคกับอาชีพนี้มากๆเลยT^T บอกว่าจะมีงานทำหรอ เงินเดือนน้อยมากนะ เราก็บอกว่าถ้าเป็นเชฟในโรงแรมพ่อไม่โอเค แล้วลูกจะเปิดร้านเองล่ะ พ่อก็พูดอีก ร้านอาหารมีเยอะแยะเกลื่อนกลาด ถ้าไม่ดีจริงก็เจ๊ง อย่างอื่นไม่ดีกว่าหรอ เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง ใจก็อยากเรียนด้านนี้โดยตรง สถาปัตย์กลับกลายเป็นคณะที่เราไม่อยากเรียน พ่อแม่ก็ไม่โอเคกับเอาชีฟเชฟ เราก้เริ่มปลงแล้ว ตอนนี้ก็ได้แค่เรียนทำอาหารระหว่างรอมหาลัยเปิดเทอม T^T
สองเส้นทาง กับสายอาชีพที่ไม่เกี่ยวเนื่องกันเลย
ปี2557นี้เป็นปีที่เราต้องสอบเข้ามหาลัย เด็กๆบางคนก็ยังหาตนเองไม่เจอ บางคนก็ยังลังเลว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร เราเคยมีความฝันหลายอย่าง คุณครู นางพยาบาล แอร์โฮสเตส และ 1ในนั้น คือ การเป็นเชฟ..เป็นเชฟในโรงแรม หรือร้านอาหาร...เราชอบดูการแข่งขันทำอาหาร มาสเตอร์เชฟ เชฟกระทะเหล็ก เฮลคิทเช่น ทีวีแชมเปี้ยน เราอยากลองทำอาหาร อยากทำทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยมีโอกาศได้ทำ เพราะว่า ตื่นมาตอนเช้า พ่อแม่เราก็ทำงานนอกบ้าน ส่งเราไป รร ไปกินข้าวที่นั่น เรียนจากรรเสร็จ ไปเรียนพิเศษต่อ เลิกสองทุ่ม พ่อแม่มารับกลับบ้าน แวะกินข้าวร้านข้างนอก ถึงบ้านอาบน้ำนอน ว่าง่ายๆคือ เป็นครอบครัวที่อาศัยนอกบ้าน กินข้าวข้างนอก ใช้ชีวิตข้างนอกทั้งวันว่างั้นเถอะ จนมาถึงช่วง ม5 ช่วงเวลาที่เด็กๆทุกคนเริ่มมองหาว่าอยากเข้าคณะอะไร
เราก็คิดเลย อยากเป็นเชฟนี่แหละ เราก็ไปบอกพ่อว่า พ่อ..อยากเรียนเชฟอ่ะ สิ่งที่พ่อตอบกลับมาคือ เราชอบทำอาหารขนาดนั้นเลยหรอ ครัวก็ไม่ค่อยเข้า แล้วจะไปเรียนได้ไง ถ้าอยากเรียนก็ จบ ปตรีก่อน แล้วค่อยเรียนเพิ่ม ... เราก็คิดพ่อพูดก็ถูกนะ แต่เราก็ยังอยากเรียนทางด้านนี้โดยตรง ถ้าจบ ปตรีสาขาอื่นเราก็มีเวลาเรียนเชฟน้อย กว่าจะหาประสบการณ์อีก อายุก็ปาไปเท่าไหร่แล้ว เราอยากทำในโรงแรม ร้านอาหาร อยากสั่งสมประสปการณ์เยอะๆ เราก็มองวิทยาลัยดุสิตที่ร่วมกับเลอกองดองเบลอ ราชภัฎสวนสุนันทา พอบอกพ่อ พ่อเซโนมากถึงมากที่สุด พ่อไม่โอเคกับราชภัฎ บอกว่าจบมาจะทำงานอะไร แต่เราก้ไม่ได้พูดอะไร เถียงไม่ได้ พ่อไม่ยอม เราก็เลยลองมองหาอีกว่าเราทำอะไรได้ดี ทำอะไรแล้วชอบ ..นั่นก็คือการวาดรูป เราวาดมาตั้งแต่เด็ก แล้วทุกคนก็ชมเราว่า เราวาดรูปได้ดี
เรามีพี่คนนึง วาดรูปเก่ง และพี่เค้าก็อยากเข้าคณะสถาปัตย์ ซึ่งการสอบเข้านั้นต้องมีการสอบฟิสิกส์ เลข อังกฤษ และ ปฎิบัติ(การวาดภาพ ออกแบบโลโก้ perspective) พี่เราก็ไปเรียนพิเศษเพิ่ม(พี่เราอยู่ ม6ตอนนั้น เราอยู่ ม5) แม่ก็บอกว่าให้เราไปเรียนด้วยสิ จะได้รู้ว่าอยากเข้าคณะนี้มั้ย เราก็แบบเอ้อ ไหนๆก็ชอบวาดรูปไปลองเรียนดูก็ได้ เราก็เรียนมาตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงม6 ช่วงใกล้สอบ (เราติววาดรุปมาสองปี ตอนแรกพ่อแม่จะให้เลิกติวเพราะการบ้านเยอะ วาดรูปไม่ได้นอน โทรม อยากให้เข้าบัญชีมากกว่า เราก็ยังดื้อจะเรียนต่อ พูดไปเลยว่าคณะไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บัญชี เกลียดมาก สอบวิชาการงานบัญชีได้0เต็ม10 คือแบบ..5555555 ยังไงก็เซย์โน ) ตอนช่วงรอผล พ่อแม่ขอว่าถ้าติดทั้งบัญชีกับสถาปัตย์2อย่าง ให้เลือกบัญชีนะ เพราะงานมันมั่นคงกว่า เราก็ไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าบัญชีไม่ติดอยู่แล้ว ผลออก เราไม่ติดบัญชี....เราติดคณะสถาปัตย์มหาลัยรัฐแห่งนึง ตอนแรกก็ดีใจมากกกก กรี๊ดๆๆๆ จบชีวิตเด็กเอนท์ละ นอนตีพุงงงงง สบายใจ......นั่งดูยูทูป ดูfood travel สอนทำอาหาร นั่งเล่นพันทิปสบายใจเฉิบ
แต่แล้วความสบายใจนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน....เมื่อเราสอบติด เราก็ได้ไปเรียนคอสสำหรับปูพื้นฐานปี1มหาลัย เราเรียนได้ซักพัก...
เราก็พึ่งรู้ว่า...การสอบติดนั้นว่ายากแล้ว การเรียนให้รอดนั้นยากยิ่งกว่า การเรียนสถาปัตย์นั้นมันพูดได้เลยว่า ไอวาดรูปที่เราชอบนักหนาน่ะ มันแทบไม่ได้ใช้ งานสถาปัตย์จะออกมาดีได้อยุ่ที่การครีเอต ไม่ได้อยู่ที่วาดสวยรึเปล่า คอสปูพื้นฐานนั้นเราไม่อยากเรียนเลย เราดองงาน ตัดโมเดลค้างไว้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิคก็ไม่เป็น....เพื่อนๆเราที่ติดด้วยก็เริ่มฝึกใช้คอมในการออกแบบ กดไลค์เพจสถาปัตยกรรม ส่วนเรา...เพจเฟซบุ๊คมีแต่อาหาร ยูทูปมีแต่แชแนลสอนทำอาหาร ง่ายๆคือไม่มีไรเกี่ยวกับถาปัตเลย ...พอหมดคอสปูพื้นฐาน เราได้ไปเรียนทำอาหาร เรียนตั้งแต่เช้าจนเย็นทุกวัน...ความรู้สึกอยากเรียนเชฟมันมากขึ้น มันสนุก ถึงเหนื่อยก็สนุก กลับมาบ้านเราก็นั่งเปิดสูตรอ่าน ความรู้สึกมันแต่งต่างกับตอนที่เรียนคอสสถาปัตย์ ตอนนี้สับสนมาก อยากเรียนเชฟที่วิทยาลัยดุสิตไม่ก็ที่ไหนก็ได้ ขอให้เรียนเชฟ เราก็ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะพ่อแม่ไม่ยอมรับทางอาชีฟเชฟเลยบอกทำอาหารฝึกทำเองก้ได้ ทำไมต้องเรียน ปตรีทางด้านนี้
เราอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆว่าเราควรจะทำยังไง พ่อไม่โอเคกับอาชีพนี้มากๆเลยT^T บอกว่าจะมีงานทำหรอ เงินเดือนน้อยมากนะ เราก็บอกว่าถ้าเป็นเชฟในโรงแรมพ่อไม่โอเค แล้วลูกจะเปิดร้านเองล่ะ พ่อก็พูดอีก ร้านอาหารมีเยอะแยะเกลื่อนกลาด ถ้าไม่ดีจริงก็เจ๊ง อย่างอื่นไม่ดีกว่าหรอ เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง ใจก็อยากเรียนด้านนี้โดยตรง สถาปัตย์กลับกลายเป็นคณะที่เราไม่อยากเรียน พ่อแม่ก็ไม่โอเคกับเอาชีฟเชฟ เราก้เริ่มปลงแล้ว ตอนนี้ก็ได้แค่เรียนทำอาหารระหว่างรอมหาลัยเปิดเทอม T^T