เรื่องมันมีอยู่ว่าแอร์ที่ใช้
จขกท.ใช้แอร์ซัมซุงรุ่นAS18U ค่ะแต่พื้นที่ห้องไม่ใหญ่นะคะ(คือปรกติเปิดแค่27-28ก็หนาวจะแย่ละ)
แต่เป็นคนที่ใส่ใจค่ะล้างแอร์ที่ให้ช่างข้างนอกมาล้างครั้งละ400-500บาทมาล้างให้ปี1สองหนค่ะคือพยายามดูแลจนเมื่อไม่นานมานี้
เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์2557ได้ให้ช่างแอร์มาล้างครบเวลาน่ะค่ะ เค้าก็ล้างๆเราก็เห็นความสกปรกคือน้ำดำปี๋เลย
แล้วก็จ่ายเงินค่าน้ำยาขาดไป ล้างได้ยังไม่ถึงสองเดือนแอร์ก็มีเสียงลมตันๆแบบฟู้วววๆๆๆแบบลมกรงกระรอกมันหาที่ออกน่ะค่ะ เอ่ะ!!
เราเองพึ่งล้างไปทำไมตันไวจังต้องลดอุณหภูมิจน25องศาที่ที่แอร์18000BTUมันไม่น่าจะต้องลดต่ำขนาดนั้นแอร์พึ่งอายุสองปีกว่าเอง
ส่วนตัวฟิวเตอร์กรองฝุ่นดิฉันล้างอยู่ตลอดๆจนแล้ววันที่20พค.ก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากแอร์(คล้ายเสียงน้ำแข็งมันลั่น)แล้วลมก็ไม่ออกเลย
ตอนนั้นตกใจมากเลยจะเรียกช่างที่ล้างประจำมาตัดล้างตกลงกัน1500บาท
แต่ จขกท.รู้สึกใจไม่ดีค่ะกลัวเค้ามารื้อยิ่งจะทำให้แอร์พัง เลยตัดสินใจเรียกศูยน์ทางคอลเซนเตอร์
เจ้าหน้าที่ถามแค่ซีรี่นัมเบอร์บอกถ้าได้คิวช่างจะติดจ่อกลับค่ะไม่เกินสองวันช่างแผนกตรวจเช็คเข้ามาตรวจไม่เสียเงินซักบาทน้องเค้าเชคบอกกลัวแอร์รั่วแต่เชคแล้วบอกลมกรงกระรอกตันแค่ล้างก็หายแล้ว เลยนัดวันอาทิตย์เข้ามาล้างให้ค่าบริการเพียง700บาทเค้าล้างละเอียดมากเชคแล้วเช็คอีก
จากนั้นก็บอกว่าน้ำยาแอร์ถ้าไม่รั่วก็ไม่มีการเติมเปรียบดังกับตู้เย็นที่ไม่ต้องเติมน้ำยาและบอกว่าช่างข้างนอกจะเรียกเราเอาเครื่องวัดให้ดูว่าน้ำยาขาด
แต่จริงๆแล้วน้ำยาไม่มีทางขาดหรอกนอกจากจะรั่ว่เพราะเครื่องวัดมันต้องวัดสักพักมันถึงจะเด้งระดับให้ดู
แต่ช่างทั่วไปมักจะเรียกเราไปดูตอนที่เครื่อวัดยังไม่เด้งเลยทำให้เราเห็นว่าขาด
ตั้งแต่เรียกช่างล้างจากศูนย์ซัมซุงมาล้างเราดีใจมากเหมือนได้แอร์เครื่องใหม่มาเลยเพราะใช้27-28องศาก็หนาวจะตายอยู่ละ
เรียนมาเพื่อทราบค่ะเผื่อมีใครเจอปัญหาเดียวกันเรื่องศูนย์เถอะไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ