สงสัยว่าการพิมพ์เงินแต่ละครั้งเราต้องใช้ทองคำไปค้ำประกัน
จึงสามารถพิมพ์เงินออกมาได้ตามมูลค่าของทองคำณเวลานั้นๆ
เท่ากับว่าเราได้ผูกค่าเงินไว้กับทองคำในปริมาณหรือน้ำหนักในเวลานั้นแล้วไม่ใช่หรือครับ
ตามที่มันควรจะเป็นก็คือ ทองคำ 1 กิโลกรัมก็น่าจะเป็น 1กิโลกรัมตลอดไป
ทำไมหลังจากพิมพ์เงินแล้ว ค่าของเงินจึงเป็นอิสระจากทองคำ
โดยสำหรับเงินสกุลที่ค่าแข็งขึ้นด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม
เมื่อนำกลับไปซื้อทองคำจะได้ทองคำมากกว่าตอนที่นำไปค้ำประกัน
ส่วนเงินสกุลที่ค่าอ่อนลง เมื่อนำกลับไปซื้อทองคำกลับได้ทองคำน้อยกว่าตอนนำไปพิมพ์
ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ถูกหลักการเท่าไหร่
เพราะตอนพิมพ์ใช้ทองคำเท่ากัน ไม่ได้นำปัจจัยทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆมาพิจารณาด้วย
ต่อมาเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งอ่อนแอลงทำให้ค่าเงินอ่อนไปด้วยตามอัตราแลกเปลี่ยน
ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับมูลค่าของทองคำเลย
ซึ่งทองคำเป็นราคาเดียวกันทั่วโลก
แต่ค่าเงินแต่ละสกุลกลับเคลื่อนไหวเป็นอิสระจากกัน
ผมว่ามันไม่ใช่แล้วอะครับ
ทำไมเราไม่ใช้ทองคำกระดาษแทนเงินไปเลยโดยกำหนดน้ำหนักทองคำลงในธนบัตรไปเลยเป็นมิลลิกรัม
ราคาทองคำในตลาดโลกก็ขึ้นลงได้ตามปกติ
เมื่อเทียบกับปริมาณสินค้าที่ซื้อได้
เวลาไปซื้อทองก็ใช้น้ำหนักทองตามธนบัตรไปเลยบวกด้วยค่ากำเหน็จและกำไร
ราคาสินค้าก็ขึ้นลงได้ตามปกติตามดิมานซัพพลายเช่นเดิม
เมื่อเมื่อเรานำทองไปค้ำประกันเพื่อพิมพ์เงินณเวลานั้นๆจำนวนเท่าไหร่
ค่าของเงินจะเท่ากับปริมาณทองคำตามน้ำหนักนั้นตลอดไป
แบบนี้ผมว่าจึงจะสมเหตุสมผลในการนำทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์เงิน
ระบบการเงินของโลกที่ใช้อยู่ในปัจจุบันผมว่ามันมั่วๆอย่างเป็นระบบยังไงไม่รู้ครับ
รู้แต่ว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมอ่ะครับ
เรียนถามนักเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับการพิมพ์เงินและค่าเงินครับ
จึงสามารถพิมพ์เงินออกมาได้ตามมูลค่าของทองคำณเวลานั้นๆ
เท่ากับว่าเราได้ผูกค่าเงินไว้กับทองคำในปริมาณหรือน้ำหนักในเวลานั้นแล้วไม่ใช่หรือครับ
ตามที่มันควรจะเป็นก็คือ ทองคำ 1 กิโลกรัมก็น่าจะเป็น 1กิโลกรัมตลอดไป
ทำไมหลังจากพิมพ์เงินแล้ว ค่าของเงินจึงเป็นอิสระจากทองคำ
โดยสำหรับเงินสกุลที่ค่าแข็งขึ้นด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม
เมื่อนำกลับไปซื้อทองคำจะได้ทองคำมากกว่าตอนที่นำไปค้ำประกัน
ส่วนเงินสกุลที่ค่าอ่อนลง เมื่อนำกลับไปซื้อทองคำกลับได้ทองคำน้อยกว่าตอนนำไปพิมพ์
ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ถูกหลักการเท่าไหร่
เพราะตอนพิมพ์ใช้ทองคำเท่ากัน ไม่ได้นำปัจจัยทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆมาพิจารณาด้วย
ต่อมาเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งอ่อนแอลงทำให้ค่าเงินอ่อนไปด้วยตามอัตราแลกเปลี่ยน
ซึ่งมันไม่เกี่ยวข้องกับมูลค่าของทองคำเลย
ซึ่งทองคำเป็นราคาเดียวกันทั่วโลก
แต่ค่าเงินแต่ละสกุลกลับเคลื่อนไหวเป็นอิสระจากกัน
ผมว่ามันไม่ใช่แล้วอะครับ
ทำไมเราไม่ใช้ทองคำกระดาษแทนเงินไปเลยโดยกำหนดน้ำหนักทองคำลงในธนบัตรไปเลยเป็นมิลลิกรัม
ราคาทองคำในตลาดโลกก็ขึ้นลงได้ตามปกติ
เมื่อเทียบกับปริมาณสินค้าที่ซื้อได้
เวลาไปซื้อทองก็ใช้น้ำหนักทองตามธนบัตรไปเลยบวกด้วยค่ากำเหน็จและกำไร
ราคาสินค้าก็ขึ้นลงได้ตามปกติตามดิมานซัพพลายเช่นเดิม
เมื่อเมื่อเรานำทองไปค้ำประกันเพื่อพิมพ์เงินณเวลานั้นๆจำนวนเท่าไหร่
ค่าของเงินจะเท่ากับปริมาณทองคำตามน้ำหนักนั้นตลอดไป
แบบนี้ผมว่าจึงจะสมเหตุสมผลในการนำทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์เงิน
ระบบการเงินของโลกที่ใช้อยู่ในปัจจุบันผมว่ามันมั่วๆอย่างเป็นระบบยังไงไม่รู้ครับ
รู้แต่ว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมอ่ะครับ