กระทู้สาระ สำหรับกรณีศึกษา...การโดนคนกัด(หรือกัดคนอื่น) อันตรายอย่างไร
เพื่อให้น้องๆหนูๆเยาวชนคนดูบอล ได้สาระไปบ้าง(หลังจากที่อิ่มท้องกันถ้วนหน้าจากมาม่าชามโตไปแล้ว)
ผมขอนำสาระมาให้บ้าง เพื่อเป็นข้อคิดดีๆ ก่อนที่เราจะกัดใครซักคน(เอ๊ยยย !!! ไม่ใช่) ว่าถ้าเราโดน"คนกัด"แล้วมันน่ากลัวอย่างไร
1.การกัด/โดนกัด เสี่ยงติดเชื้ออะไรได้บ้าง
1.1 HIV ...
ข้อเท็จจริงคือ ในน้ำลายคนนั้น มีเชื้อHIVอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่แล้ว มันไม่สามารถติดกันง่ายๆ(โอกาสน้อย)จากการสัมผัสน้ำลาย หรือโดนกัด ยกเว้นว่าคนที่กัดมีเชื้อHIVอยู่ แล้วบังเอิญว่าในช่องปากเค้าคนนั้น มีเลือดออก ปนน้ำลายมาด้วย โอกาสติดHIVก็จะมากขึ้นหลายเท่าตัว เลือดออกยังไง ก็เช่น ฟันหักอยู่แล้วมีเลือดออก / มีแผลในช่องปากแล้วมีเลือดออก หรือในกรณีที่พิสดารที่สุดก็เช่นการทำoral sexให้คู่นอน แล้วยังมีอสุจิ หรือ สารคัดหลั่งจากคู่นอนอยู่ในปาก แล้วไปกัดคนอื่นต่อ อันนี้โอกาสติดเชื้อจะสูงกว่าน้ำลายpureๆแน่นอน...ดังน้ัน ถ้าโดนคนกัด ต้องระวังติดHIV
1.2 Hepatitis B ...
ไวรัสตับอักเสบB เชื้อตัวนี้สามารถถ่ายทอดติดต่อกันทางน้ำลายกับเลือดได้ โดยเชื้อจะมากับน้ำลาย(หรือเลือด)แล้วติดเข้าไปที่เยื่อบุทางเดินอาหาร หรือไม่ก็เข้าไปที่แผลที่โดนกัด(หนังฉีกขาด)โดยตรงเลย
1.3 Rabies ...
พิษสุนัขบ้า เชื้อrabiesสามารถติดต่อทางน้ำลายเข้าไปสู่แผลคนที่โดนกัดครับ เชื้อพิษสุนัขบ้านี้ ไม่เฉพาะสุนัขนะครับ แต่มันสามารถติดต่อกันได้หมดถ้าสัตว์ตัวที่กัดนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม(สุนัข แมว คน หรืออื่นๆที่เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นโรคนี้ได้หมด) ... พิษสุนัขบ้าเนี่ย ถ้าติดเชื้อแล้ว ตาย100%เลยนะครับ
1.4 เชื้อbacteria
อีกหลาย10หลาย100ชนิดที่อยู่ในช่องปากคนเรา เมื่อกัดคนอื่นเกิดแผลแล้ว มันก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อbacteriaได้
1.5 บาดทะยัก
อันนี้ก็ติดได้ครับ ถ้าในปากคนกัดมีเชื้ออยู่
อันนี้มองในแง่คนกัดเป็นโรคนะครับ แล้วถ้าคนกัดไม่มีโรค แต่คนโดนกัดเป็นโรคอยู่ เช่น คนโดนกัดเป็นHIV HepB 9ล9 มันก็มีโอกาสที่คนกัด จะได้รับเชื้อเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายได้ครับ โดยเฉพาะถ้าเยื่อบุช่องปากได้สัมผัสกับเลือดโดยตรง ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะติดโรค แล้วถ้าสมมติว่าคนกัดมีฟันผุ มีแผลในปากอยู่ด้วย ยิ่งต้องบอกว่าโอกาสสูงขึ้นอีกหลายเท่า อย่างนี้ต้องบอกว่า อยู่ดีไม่ว่าดี ไปกัดเค้า ก็สมควรนะ ถ้าจะได้รับเชื้ออะไรจากคนอื่นมา แกว่งปากหาโรคโดยแท้
2.เมื่อโดนกัด แล้วต้องทำอย่างไร ...
ประเด็นนี้แหล่ะที่ผมว่า fifaควรให้ความใส่ใจหน่อย (ถึงเวลาของการreplayภาพ เพื่อประกอบการตัดสินหรือยัง?) คนโดนกัด ต้องรีบออกมาปฐมพยาบาลครับ คิเอลลินี่ ต้องรีบออกมาล้างแผลด้วยน้ำเกลือ(normal saline)หรืออย่างน้อยๆก็น้ำสะอาด เพื่อล้างเอาสิ่งสกปรกออกให้มากที่สุด (เป็นmechanicalไงครับ ให้น้ำชะล้างออก) แล้วฟอกสบู่ด้วย เพราะสบู่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้หลายอย่าง และต้องทำความสะอาดด้วยalcohol (alcoholสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้หลายชนิดนะครับ) ...ขั้นตอนการล้างแผลจะช่วยลดเชื้อโรคไปได้มากเลยครับ(แต่ไม่ได้แปลว่า มันจะไม่ติดโรคเลยนะ)
จากนั้น ต้องตรวจเลือดคนโดนกัด และคนกัด เพื่อดูว่า เค้าคนนั้น มีเชื้อดังกล่าวข้างต้นในร่างกายหรือไม่ และสำหรับHIVแม้ว่าตอนแรกตรวจไม่เจอ แต่จะต้องมีการนัดตรวจติดตาม อีก1-2เดือนนะครับ เพราะอาจจะเป็นช่วงwindow periodคือมีเชื้ออยู่ แต่ยังไม่มากพอจะdetectเจอได้
3.การป้องกันและรักษา โดยทั่วไปแล้ว ก็น่าฉีดvaccineกันบาดทะยัก กันพิษสุนัขบ้า ส่วนยาปฎิชีวนะนั้นก็แล้วแต่ดุลยวินิจของแพทย์ครับ
สรุปนะครับ ถ้าน้องๆหนูๆเล่นบอลแล้วโดนกัด ต้อง..
1.เลิกเล่น แล้วรีบออกมาล้างแผลด้วยน้ำสะอาด สบู่ แอลกอฮอล์(ถ้ามี) แล้วไปรพ.
2.ลากไอ้คู่กรณีไปรพ.ด้วยครับ เพราะต้องตรวจเลือดกันทั้งคู่
3.อย่าให้มันตายภายใน3เดือน เพราะ
3.1 ถ้ามันเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ มันที่กัดเราจะมีอาการใน7-10วัน ดังนั้นต้องสังเกตอาการมัน ซัก10วัน ถ้ามันไม่เป็นโรค แสดงว่าเรารอดแระ(ไม่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแน่ๆ)
3.2 ถ้าผลHIVวันที่กัดเป็นลบ อาจมีความเป็นไปได้ว่า บางทีมันก็อาจเป็นHIVแต่อาจเป็นระยะต้นๆ เชื้อไม่มากพอจะdetectเจอ ให้เราตรวจเลือดมันใหม่ในอีก1-3เดือนให้หลัง ถ้ายังลบอยู่ก็เบาใจ แล้วเราก็ตรวจของเราซ้ำด้วย ถ้าเป็นลบ ก็สบายใจได้
โดนคนกัดแขน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครับ
เพื่อให้น้องๆหนูๆเยาวชนคนดูบอล ได้สาระไปบ้าง(หลังจากที่อิ่มท้องกันถ้วนหน้าจากมาม่าชามโตไปแล้ว)
ผมขอนำสาระมาให้บ้าง เพื่อเป็นข้อคิดดีๆ ก่อนที่เราจะกัดใครซักคน(เอ๊ยยย !!! ไม่ใช่) ว่าถ้าเราโดน"คนกัด"แล้วมันน่ากลัวอย่างไร
1.การกัด/โดนกัด เสี่ยงติดเชื้ออะไรได้บ้าง
1.1 HIV ...
ข้อเท็จจริงคือ ในน้ำลายคนนั้น มีเชื้อHIVอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่แล้ว มันไม่สามารถติดกันง่ายๆ(โอกาสน้อย)จากการสัมผัสน้ำลาย หรือโดนกัด ยกเว้นว่าคนที่กัดมีเชื้อHIVอยู่ แล้วบังเอิญว่าในช่องปากเค้าคนนั้น มีเลือดออก ปนน้ำลายมาด้วย โอกาสติดHIVก็จะมากขึ้นหลายเท่าตัว เลือดออกยังไง ก็เช่น ฟันหักอยู่แล้วมีเลือดออก / มีแผลในช่องปากแล้วมีเลือดออก หรือในกรณีที่พิสดารที่สุดก็เช่นการทำoral sexให้คู่นอน แล้วยังมีอสุจิ หรือ สารคัดหลั่งจากคู่นอนอยู่ในปาก แล้วไปกัดคนอื่นต่อ อันนี้โอกาสติดเชื้อจะสูงกว่าน้ำลายpureๆแน่นอน...ดังน้ัน ถ้าโดนคนกัด ต้องระวังติดHIV
1.2 Hepatitis B ...
ไวรัสตับอักเสบB เชื้อตัวนี้สามารถถ่ายทอดติดต่อกันทางน้ำลายกับเลือดได้ โดยเชื้อจะมากับน้ำลาย(หรือเลือด)แล้วติดเข้าไปที่เยื่อบุทางเดินอาหาร หรือไม่ก็เข้าไปที่แผลที่โดนกัด(หนังฉีกขาด)โดยตรงเลย
1.3 Rabies ...
พิษสุนัขบ้า เชื้อrabiesสามารถติดต่อทางน้ำลายเข้าไปสู่แผลคนที่โดนกัดครับ เชื้อพิษสุนัขบ้านี้ ไม่เฉพาะสุนัขนะครับ แต่มันสามารถติดต่อกันได้หมดถ้าสัตว์ตัวที่กัดนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม(สุนัข แมว คน หรืออื่นๆที่เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นโรคนี้ได้หมด) ... พิษสุนัขบ้าเนี่ย ถ้าติดเชื้อแล้ว ตาย100%เลยนะครับ
1.4 เชื้อbacteria
อีกหลาย10หลาย100ชนิดที่อยู่ในช่องปากคนเรา เมื่อกัดคนอื่นเกิดแผลแล้ว มันก็เสี่ยงที่จะติดเชื้อbacteriaได้
1.5 บาดทะยัก
อันนี้ก็ติดได้ครับ ถ้าในปากคนกัดมีเชื้ออยู่
อันนี้มองในแง่คนกัดเป็นโรคนะครับ แล้วถ้าคนกัดไม่มีโรค แต่คนโดนกัดเป็นโรคอยู่ เช่น คนโดนกัดเป็นHIV HepB 9ล9 มันก็มีโอกาสที่คนกัด จะได้รับเชื้อเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายได้ครับ โดยเฉพาะถ้าเยื่อบุช่องปากได้สัมผัสกับเลือดโดยตรง ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นที่จะติดโรค แล้วถ้าสมมติว่าคนกัดมีฟันผุ มีแผลในปากอยู่ด้วย ยิ่งต้องบอกว่าโอกาสสูงขึ้นอีกหลายเท่า อย่างนี้ต้องบอกว่า อยู่ดีไม่ว่าดี ไปกัดเค้า ก็สมควรนะ ถ้าจะได้รับเชื้ออะไรจากคนอื่นมา แกว่งปากหาโรคโดยแท้
2.เมื่อโดนกัด แล้วต้องทำอย่างไร ...
ประเด็นนี้แหล่ะที่ผมว่า fifaควรให้ความใส่ใจหน่อย (ถึงเวลาของการreplayภาพ เพื่อประกอบการตัดสินหรือยัง?) คนโดนกัด ต้องรีบออกมาปฐมพยาบาลครับ คิเอลลินี่ ต้องรีบออกมาล้างแผลด้วยน้ำเกลือ(normal saline)หรืออย่างน้อยๆก็น้ำสะอาด เพื่อล้างเอาสิ่งสกปรกออกให้มากที่สุด (เป็นmechanicalไงครับ ให้น้ำชะล้างออก) แล้วฟอกสบู่ด้วย เพราะสบู่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้หลายอย่าง และต้องทำความสะอาดด้วยalcohol (alcoholสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้หลายชนิดนะครับ) ...ขั้นตอนการล้างแผลจะช่วยลดเชื้อโรคไปได้มากเลยครับ(แต่ไม่ได้แปลว่า มันจะไม่ติดโรคเลยนะ)
จากนั้น ต้องตรวจเลือดคนโดนกัด และคนกัด เพื่อดูว่า เค้าคนนั้น มีเชื้อดังกล่าวข้างต้นในร่างกายหรือไม่ และสำหรับHIVแม้ว่าตอนแรกตรวจไม่เจอ แต่จะต้องมีการนัดตรวจติดตาม อีก1-2เดือนนะครับ เพราะอาจจะเป็นช่วงwindow periodคือมีเชื้ออยู่ แต่ยังไม่มากพอจะdetectเจอได้
3.การป้องกันและรักษา โดยทั่วไปแล้ว ก็น่าฉีดvaccineกันบาดทะยัก กันพิษสุนัขบ้า ส่วนยาปฎิชีวนะนั้นก็แล้วแต่ดุลยวินิจของแพทย์ครับ
สรุปนะครับ ถ้าน้องๆหนูๆเล่นบอลแล้วโดนกัด ต้อง..
1.เลิกเล่น แล้วรีบออกมาล้างแผลด้วยน้ำสะอาด สบู่ แอลกอฮอล์(ถ้ามี) แล้วไปรพ.
2.ลากไอ้คู่กรณีไปรพ.ด้วยครับ เพราะต้องตรวจเลือดกันทั้งคู่
3.อย่าให้มันตายภายใน3เดือน เพราะ
3.1 ถ้ามันเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ มันที่กัดเราจะมีอาการใน7-10วัน ดังนั้นต้องสังเกตอาการมัน ซัก10วัน ถ้ามันไม่เป็นโรค แสดงว่าเรารอดแระ(ไม่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแน่ๆ)
3.2 ถ้าผลHIVวันที่กัดเป็นลบ อาจมีความเป็นไปได้ว่า บางทีมันก็อาจเป็นHIVแต่อาจเป็นระยะต้นๆ เชื้อไม่มากพอจะdetectเจอ ให้เราตรวจเลือดมันใหม่ในอีก1-3เดือนให้หลัง ถ้ายังลบอยู่ก็เบาใจ แล้วเราก็ตรวจของเราซ้ำด้วย ถ้าเป็นลบ ก็สบายใจได้