(บางส่วน)
เธอ
ครั้นละนิวรณ์ ๕ ประการ อันเป็นเครื่องทำใจให้เศร้าหมอง ทำปัญญาให้ถอยกำลังนี้ได้แล้ว
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกาย
มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ...
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิต ...
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรม
มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่ ฯ
[๓๙๗] ดูกรอัคคิเวสสนะ
เปรียบเหมือนควาญช้างฝังเสาตะลุงใหญ่ลงในแผ่นดินล่ามคอช้างป่าไว้มั่นคง เพื่อแก้ไขปรกติของสัตว์ป่า
แก้ไขความดำริพล่านของสัตว์ป่า แก้ไขความกระวนกระวาย ความลำบากใจ และความเร่าร้อนใจของสัตว์ป่า
เพื่อให้ช้างป่าเชือกนั้นอภิรมย์ในแดนบ้าน ให้บันเทิงในปรกติที่มนุษย์ต้องการ ฉันใด
ดูกรอัคคิเวสสนะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล
สติปัฏฐาน ๔ นี้ ชื่อว่าเป็น
หลักผูกใจของอริยสาวก
เพื่อแก้ไขปรกติ ชนิดอาศัยบ้าน
แก้ไขความดำริพล่านชนิดอาศัยบ้าน
แก้ไขความกระวนกระวาย
ความลำบากใจ และ
ความเร่าร้อนใจชนิดอาศัยบ้าน เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง ฯ
[๓๙๘]
ตถาคตจึงแนะนำเธอให้ยิ่งขึ้นไปว่า
ดูกรภิกษุ มาเถิด
เธอจงเป็นผู้พิจารณาเห็น
กายในกายอยู่
แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับกาย
จงเป็นผู้พิจารณาเห็น
เวทนาในเวทนาอยู่
แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับเวทนา
จงเป็นผู้พิจารณาเห็น
จิตในจิตอยู่
แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับจิต
จงเป็นผู้พิจารณาเห็น
ธรรมในธรรมอยู่
แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับธรรม
เธอย่อมเข้าทุติยฌานมีความผ่องใสแห่งใจภายใน มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น
เพราะสงบวิตกและวิจารไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ ย่อมเป็นผู้วางเฉยเพราะหน่ายปีติ
มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกายเข้าตติยฌาน ... ย่อมเข้าจตุตถฌานอันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ ฯ
-------------
ทันตภูมิสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๕๓๗๕ - ๕๖๐๘. หน้าที่ ๒๒๘ - ๒๓๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=5375&Z=5608&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=388
เธอครั้นละนิวรณ์ ๕ ประการ อันเป็นเครื่องทำใจให้เศร้าหมอง ทำปัญญาให้ถอยกำลังนี้ได้แล้ว
เธอครั้นละนิวรณ์ ๕ ประการ อันเป็นเครื่องทำใจให้เศร้าหมอง ทำปัญญาให้ถอยกำลังนี้ได้แล้ว
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกาย
มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติกำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ...
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิต ...
ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรม
มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่ ฯ
[๓๙๗] ดูกรอัคคิเวสสนะ
เปรียบเหมือนควาญช้างฝังเสาตะลุงใหญ่ลงในแผ่นดินล่ามคอช้างป่าไว้มั่นคง เพื่อแก้ไขปรกติของสัตว์ป่า
แก้ไขความดำริพล่านของสัตว์ป่า แก้ไขความกระวนกระวาย ความลำบากใจ และความเร่าร้อนใจของสัตว์ป่า
เพื่อให้ช้างป่าเชือกนั้นอภิรมย์ในแดนบ้าน ให้บันเทิงในปรกติที่มนุษย์ต้องการ ฉันใด
ดูกรอัคคิเวสสนะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล สติปัฏฐาน ๔ นี้ ชื่อว่าเป็นหลักผูกใจของอริยสาวก
เพื่อแก้ไขปรกติ ชนิดอาศัยบ้าน แก้ไขความดำริพล่านชนิดอาศัยบ้าน แก้ไขความกระวนกระวาย
ความลำบากใจ และความเร่าร้อนใจชนิดอาศัยบ้าน เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง ฯ
[๓๙๘] ตถาคตจึงแนะนำเธอให้ยิ่งขึ้นไปว่า
ดูกรภิกษุ มาเถิด
เธอจงเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับกาย
จงเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับเวทนา
จงเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับจิต
จงเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ แต่อย่าตรึกวิตกที่เข้าประกอบกับธรรม
เธอย่อมเข้าทุติยฌานมีความผ่องใสแห่งใจภายใน มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น
เพราะสงบวิตกและวิจารไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ ย่อมเป็นผู้วางเฉยเพราะหน่ายปีติ
มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกายเข้าตติยฌาน ... ย่อมเข้าจตุตถฌานอันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ ฯ
-------------
ทันตภูมิสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๕๓๗๕ - ๕๖๐๘. หน้าที่ ๒๒๘ - ๒๓๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=5375&Z=5608&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=14&i=388