เป็นมากอะไรกับ... (ว่าที่)แม่ผัว กับ ลูกสะใภ้

กระทู้คำถาม
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่สองค่ะ มีอะไรผิดพลาดขออภัยล่วงหน้าด้วยนะค่ะ

ก่อนอื่น เริ่มด้วยคำถามที่ว่า
"แม่ผัวเป็นอะไรกับลูกสะใภ้มากมายไหมค่ะ ทำไมต้องจิกต้องไม่ถูกกันด้วย"

เราเป็นว่าที่ลูกสะใภ้เขาค่ะ เริ่มต้นด้วยตอนแรกเลย เจอกันแรกๆ เขาก็คุยดีค่ะ เพียงแต่ตอนนั้นเรายังแค่เริ่มต้นคบๆกับลูกชายเขาอยู่
   ถ้าตัดเรื่องที่จะแต่งงานกันนะค่ะ ว่าที่แม่สามีไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเราเลยค่ะ เทคแคร์เราดีตลอด เรื่องมาพีคตอนแต่งงานกระทันหันนี้แหละค่ะ

เริ่มก่อนว่า คบกับแฟนไม่นานค่ะ แล้วเกิด accident ขึ้น (คงรู้นะค่ะว่าอะไร) เลยบอกพ่อแม่ฝ่ายชายก่อน วันแรกที่ท่านรู้ พ่อแม่ฝ่ายชายก็ให้คำปรึกษาดีมากค่ะ โดยเฉพาะแม่ฝ่ายชาย เสนออะไรที่เข้าท่าหมดเลย ทำให้เราเบาใจไปเยอะมาก แถมเขายังเข้าไปคุยกับพ่อแม่เราให้เองอีก ตอนนั้นรู้สึกขอบคุณเขามากค่ะ
     แต่แล้วพอเริ่มดำเนินการจัดงาน เรื่องเงินเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ทีนี้แหละ... ปัญหาเกิดเลยค่ะ
ทางฝั่งเราไม่ได้เรียกจำนวนสินสอดอะไรค่ะ แล้วแต่ทางฝั่งนั้นจะให้ แต่มีเงื่อนไขคือพ่อแม่อยากให้เราแยกไปอยู่ต่างหากเพราะกลัวเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้จะทำให้จิตใจเราย่ำแย่ค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่า ไม่นะ แม่ฝ่ายชายออกจะใจดีกับเรา ไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วมันก็เกิดค่ะ
     ฝ่ายชายตกลงว่าจะให้เราย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านแม่สามีที่มีอยู่แล้ว แต่เรื่องดีเทลค่าใช้จ่ายๆต่างๆในการแต่งงานกับการรีโนเวทบ้านทำให้เริ่มผิดใจกันกับทั้ง 2 ครอบครัว และพอเราต้องเขาบ้านเขา ไปเจอเขา ปรากฏว่าหน้าเราเขายังไม่มองเลยค่ะ แถมเอาเรื่องเราไปว่าให้แม่กับพี่สาวเราฟังในทางไม่ดีค่ะ ครอบครัวเราแท้ๆ เขายังสามารถพูดนั้นพูดนี้ได้ คนอื่นก็ไม่ต้องห่วงค่ะ ตามๆกันไป เราเคยนั่งคิดนะค่ะ ว่าเราไปทำอะไรให้เขารึเปล่า ก็ไม่เคยนะค่ะ เพราะเราอ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ค่ะ
    ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย สินสอดจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนไม่มาก และตกลงกันว่าค่าจัดงานแต่งฝ่ายชายออกค่ะ เขาจะมีงบให้มาจำนวนหนึ่งรวมถึงค่าแต่งบ้านใหม่ พอเอาเข้าจริง ทางฝั่งนั้นถึงบอกว่างบบาน อ้างนู่นอ้างนี้ ก็แอบส่งบิลบางอย่างมา แล้วเขียนหัวว่า "เจ้าสาวรับผิดชอบ"  เรื่องนี้ทำเอาฝั่งเรางงมาก แต่ไม่กล้าคุยกับเจ้าบ่าวค่ะ
    แถมเรื่องงานแต่ง ทางฝั่งนั้นอยากให้มีหน้ามีตา เลือกเอาโรงแรมห้าดาว แต่ดีเทลในงานจะขอถูกที่สุด ซึ่งบางอย่างถูกก็จริง แต่ไม่สวย พอถามฝั่งเจ้าสาว เราก็บอกว่าชอบแบบนี้ เอาแบบนี้ได้ไหม เขากับบอกว่า แต่นี้มันราคาXXX ถ้าเลือกอันนี้ถูกกว่าเยอะ (แต่แบบไม่สวยอย่างแรง) ฝั่งเราเลยงงว่าให้เราเลือกทำไม ถ้าคิดว่าจะเอาแบบถูกที่สุดอยู่แล้ว เลยตอบไปว่า "'งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาแบบไหนก็ได้ที่ถูกที่สุดค่ะ" ฝั่งนั้นเลยเริ่มรู้ตัว ยอมเอาตามเราแต่โดยดี เราก็ได้แต่คิดว่า เขาคิดจะประหยัดงบที่สุด แถมยังไปเกริ่นกับฝั่งเราว่า ซองทั้งหมด เขาจะขอด้วย (แต่ส่งบิลบางอย่างมาให้เราจ่าย)

พูดได้อย่างเดียวว่าน่ารักค่ะ    เดี๋ยวนี้เลยแทบไม่อยากมองหน้ากันแล้ว
ไม่ใช่ว่าเราไม่มองหน้าเขานะค่ะ นั่งกินข้าวด้วยกัน เขายังทำเหมือนเราเป็นอากาศเลยค่ะ เสียความรู้สึกมาก

นี้ขนาดยังไม่ได้แต่งนะค่ะ เราไม่อยากคิดเลยว่าถ้าแต่งแล้วจะแย่กว่านี้แค่ไหนค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่