หมั่นไส้พ่อ(ทูลหัว) ซะเต็มประดา คิดแล้วอยากจะเอาเหรียญไปกรีดให้รอบรถมันเลย
พอดีเฮียแกได้รถใหม่มา เรียกลูกๆๆๆๆๆ ทุกคำ ตอนแรกก็งงๆ ว่าเฮียแกไปมีลูกตอนไหนหว่า...
นอกใจชั้นรึ? ตกลงไอ้ลูกที่ว่า มันคือ Lexus IS 250 (หรือไอ้เล็กสัส) น่าน!! จำได้แม่นเลย (ทั้งที่ความจริงๆแล้วไม่เคยอยากจะจำ)
ตอนนี้ลูก (ไอ้เล็กสัสนั่นแหละ) เค้าชักจะสำคัญกว่าแฟน จริงๆเราไม่ใช่คนขี้บ่น ขี้วีน ขี้อิจฉาแม้กระทั่งรถหรอกนะ จริงจริ๊งงงงง บอกเลย
ลงเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ลามไปไอจี มีแต่รูป เล็กสัส! เอ้อออ แค่นั้นพอไหว รู้หรอกหน่า ว่าเห่อ เหอะ!!
นานๆไปชักจะเยอะ วันดีคืนร้ายเฮียแกก็กลายร่างเป็นพริตตี้ระดับไฮคลาส เต้นไป ล้างรถไป เอาตรูดถูกับกระจังหน้ารถ
เห็นแล้วอุจาดสายตาชะมัด ทำ..ไป..ได้
เฮียแกก็ออกลีลาทำหน้าที่พริตตี้อยู่ดีๆ เราก็ประชดไปอย่างหวังดีว่า
...
อิชั้น : เอาไปเคลือบแก้วสิ เวลาโดนฝน โดนขี้นก โดนยางมะตอย บลาๆๆๆๆ จะได้ล้างง่าย
พ่อทูลหัว : เออ เอาสิ พรุ่งนี้ฝากไปทำหน่อยละกัน ว่างไม่ใช่เหรอ เค้าต้องไปไซด์งานทั้งวันอ่ะ ไปส่งเค้าแล้วตะเองเอาลูก...ไปเคลือบนะ
อิชั้น : คิดในใจ เอาแล้วไง ไม่น่าเล้ยยยย

...
วันรุ่งขึ้น เราก็ไปส่งคุณพี่ท่านตามสัญญา แล้วก็เอาไอ้เล็กสัสไปเคลือบแก้ว เคลือบมาอย่างแพงมากกกกกกอ่ะ โห
เราก็อุตส่าห์ไปเคลือบมาให้อย่างดี ไม่เห็นเฮียแกจะสนใจเราเล้ยยยย สนแต่ ไอ้เล็กสัส
นัดกินข้าวก็ผิดนัด พอจะทำกับข้าวให้กินที่บ้านก็บอกจะไปกินนอกบ้าน ไม่ใช่ไรหรอก อยากพาลูกไปท่องราตรี
ขับรถซิ่งเกือบชนก็ไม่เข็ดหลาบ บอกห่วงแต่ลูกเล็กสัสอยู่นั่น ห่วงตัวเองบ้างมั้ย ฮึ่ยยยยย หมั่นไส้ๆๆๆๆๆ
และด้วยความที่หมั่นไส้เราก็เลยกะจะแกล้งให้หายซ่าสักหน่อย เราก็เลยแอบเอากุญแจรถ แล้วเอาถุงตด
ไปวางไว้ที่เบาะคนขับเลย ทีนี้ล่ะพ่อเอ๊ยยยย เน่าทั้งพ่อทั้งลูกแน่
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์ดราม่าอยู่ตอนนี้
...
พ่อทูลหัว : ทำไมทำแบบนี้ ไม่ตลกนะ รู้มั้ยว่า @$*^)(+::L*%$#$%@ (มาเป็นชุด แบบว่าโกรธมากกกก)
อิชั้น : ก็ไม่รู้อ่ะ ไม่ได้วางตรงนั้นซะหน่อย อยากไปนั่งทับเอง (แหม่ อินี้แถได้โล่)
พ่อทูลหัว : เออออ!! สงสัยมันมีขามั้ง ถึงเดินไปให้ผมทับได้ รู้มั้ยว่าน่ารำคาญที่สุดเลย ผมเกลียดผู้หญิงที่ชอบแถที่สุด
อิชั้น : เงียบ น้ำตาเริ่มคลอ ... ตลอดเวลาที่คบกันเค้าไม่เคยพูดแทนตัวเองว่า ผม นานแล้ว เค้าพูดซะห่างเหินเลย เราเสียใจ
พ่อทูลหัว : เฮ้ยยยย คิดว่าเงียบแล้วมันจะดีเหรอ?
อิชั้น : เงียบต่อ พูดไม่ออกแล้ว ขืนพูดนี่เราร้องไห้แน่
พ่อทูลหัว : งี่เง่า!!
เค้าลากเราขึ้นรถ เราก็เงียบตลอดทาง เค้าก็เงียบ เราไม่ไหวแล้ว ได้แต่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น เราก็เสียใจกับการกระทำของเรานะ
แต่เค้าก็รุนแรงกับเราเกินไป ทั้งที่แต่ก่อนเค้าไม่เคยขึ้นเสียงขนาดนี้ เค้าคงสงสารเลยปลอบเรา ยิ่งปลอบเราก็ยิ่งร้องไห้ งี่เง่าจริง
เค้าเห็นเราไม่หยุดร้องเค้าเลยร้องไห้ด้วยเลย เราเลยต้องเป็นฝ่ายปลอบเค้าอีก เฮ้ออออ
พอดีกันได้ไม่นาน คุณพี่ท่านก็เริ่มเข้าสู่โหมดเดิม อะไรๆก็ไอ้เล็กสัสเหมือนเดิม ลืมแฟนผู้แสนจะงี่เง่าเหมือนเดิม
แหม่...มันน่าเอาถุงตดไปวางไว้อีกรอบ เอาสักสิบถุงเลย ฮึ่มมมมม ชั้นเกลียดแก ไอ้เล็กสัส

ถ้ารู้ว่าเราเรียกลูกเค้าได้น่ารักขนาดนี้ คงมีดราม่าอีกรอบแน่ๆๆ บรึ๊ยยยยยย
เอะอะๆอะไรก็ "Lexus"... ร้องจะเอาๆแต่ "Lexus"... ฉันเกลียดแกไอ้ "Lexus"
พอดีเฮียแกได้รถใหม่มา เรียกลูกๆๆๆๆๆ ทุกคำ ตอนแรกก็งงๆ ว่าเฮียแกไปมีลูกตอนไหนหว่า...
นอกใจชั้นรึ? ตกลงไอ้ลูกที่ว่า มันคือ Lexus IS 250 (หรือไอ้เล็กสัส) น่าน!! จำได้แม่นเลย (ทั้งที่ความจริงๆแล้วไม่เคยอยากจะจำ)
ตอนนี้ลูก (ไอ้เล็กสัสนั่นแหละ) เค้าชักจะสำคัญกว่าแฟน จริงๆเราไม่ใช่คนขี้บ่น ขี้วีน ขี้อิจฉาแม้กระทั่งรถหรอกนะ จริงจริ๊งงงงง บอกเลย
ลงเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ลามไปไอจี มีแต่รูป เล็กสัส! เอ้อออ แค่นั้นพอไหว รู้หรอกหน่า ว่าเห่อ เหอะ!!
นานๆไปชักจะเยอะ วันดีคืนร้ายเฮียแกก็กลายร่างเป็นพริตตี้ระดับไฮคลาส เต้นไป ล้างรถไป เอาตรูดถูกับกระจังหน้ารถ
เห็นแล้วอุจาดสายตาชะมัด ทำ..ไป..ได้
เฮียแกก็ออกลีลาทำหน้าที่พริตตี้อยู่ดีๆ เราก็ประชดไปอย่างหวังดีว่า
...
อิชั้น : เอาไปเคลือบแก้วสิ เวลาโดนฝน โดนขี้นก โดนยางมะตอย บลาๆๆๆๆ จะได้ล้างง่าย
พ่อทูลหัว : เออ เอาสิ พรุ่งนี้ฝากไปทำหน่อยละกัน ว่างไม่ใช่เหรอ เค้าต้องไปไซด์งานทั้งวันอ่ะ ไปส่งเค้าแล้วตะเองเอาลูก...ไปเคลือบนะ
อิชั้น : คิดในใจ เอาแล้วไง ไม่น่าเล้ยยยย
...
วันรุ่งขึ้น เราก็ไปส่งคุณพี่ท่านตามสัญญา แล้วก็เอาไอ้เล็กสัสไปเคลือบแก้ว เคลือบมาอย่างแพงมากกกกกกอ่ะ โห
เราก็อุตส่าห์ไปเคลือบมาให้อย่างดี ไม่เห็นเฮียแกจะสนใจเราเล้ยยยย สนแต่ ไอ้เล็กสัส
นัดกินข้าวก็ผิดนัด พอจะทำกับข้าวให้กินที่บ้านก็บอกจะไปกินนอกบ้าน ไม่ใช่ไรหรอก อยากพาลูกไปท่องราตรี
ขับรถซิ่งเกือบชนก็ไม่เข็ดหลาบ บอกห่วงแต่ลูกเล็กสัสอยู่นั่น ห่วงตัวเองบ้างมั้ย ฮึ่ยยยยย หมั่นไส้ๆๆๆๆๆ
และด้วยความที่หมั่นไส้เราก็เลยกะจะแกล้งให้หายซ่าสักหน่อย เราก็เลยแอบเอากุญแจรถ แล้วเอาถุงตด
ไปวางไว้ที่เบาะคนขับเลย ทีนี้ล่ะพ่อเอ๊ยยยย เน่าทั้งพ่อทั้งลูกแน่
และนั่นก็เป็นสาเหตุที่นำไปสู่เหตุการณ์ดราม่าอยู่ตอนนี้
...
พ่อทูลหัว : ทำไมทำแบบนี้ ไม่ตลกนะ รู้มั้ยว่า @$*^)(+::L*%$#$%@ (มาเป็นชุด แบบว่าโกรธมากกกก)
อิชั้น : ก็ไม่รู้อ่ะ ไม่ได้วางตรงนั้นซะหน่อย อยากไปนั่งทับเอง (แหม่ อินี้แถได้โล่)
พ่อทูลหัว : เออออ!! สงสัยมันมีขามั้ง ถึงเดินไปให้ผมทับได้ รู้มั้ยว่าน่ารำคาญที่สุดเลย ผมเกลียดผู้หญิงที่ชอบแถที่สุด
อิชั้น : เงียบ น้ำตาเริ่มคลอ ... ตลอดเวลาที่คบกันเค้าไม่เคยพูดแทนตัวเองว่า ผม นานแล้ว เค้าพูดซะห่างเหินเลย เราเสียใจ
พ่อทูลหัว : เฮ้ยยยย คิดว่าเงียบแล้วมันจะดีเหรอ?
อิชั้น : เงียบต่อ พูดไม่ออกแล้ว ขืนพูดนี่เราร้องไห้แน่
พ่อทูลหัว : งี่เง่า!!
เค้าลากเราขึ้นรถ เราก็เงียบตลอดทาง เค้าก็เงียบ เราไม่ไหวแล้ว ได้แต่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น เราก็เสียใจกับการกระทำของเรานะ
แต่เค้าก็รุนแรงกับเราเกินไป ทั้งที่แต่ก่อนเค้าไม่เคยขึ้นเสียงขนาดนี้ เค้าคงสงสารเลยปลอบเรา ยิ่งปลอบเราก็ยิ่งร้องไห้ งี่เง่าจริง
เค้าเห็นเราไม่หยุดร้องเค้าเลยร้องไห้ด้วยเลย เราเลยต้องเป็นฝ่ายปลอบเค้าอีก เฮ้ออออ
พอดีกันได้ไม่นาน คุณพี่ท่านก็เริ่มเข้าสู่โหมดเดิม อะไรๆก็ไอ้เล็กสัสเหมือนเดิม ลืมแฟนผู้แสนจะงี่เง่าเหมือนเดิม
แหม่...มันน่าเอาถุงตดไปวางไว้อีกรอบ เอาสักสิบถุงเลย ฮึ่มมมมม ชั้นเกลียดแก ไอ้เล็กสัส
ถ้ารู้ว่าเราเรียกลูกเค้าได้น่ารักขนาดนี้ คงมีดราม่าอีกรอบแน่ๆๆ บรึ๊ยยยยยย