[CR] Vienna : ณ มหานครอันแสนสง่างาม

ตอนที่ 1: โมสาร์ท พระราชวังฤดูหนาว และทัวร์หมึกแดง

บนรถไฟจากกราซมุ่งสู่เวียนนา ฉันกับเพื่อน ผู้ซึ่งปกติพำนักอยู่ในเยอรมัน แต่เลือกที่จะมาใช้เวลาช่วงวันหยุดเทสกาลอีสเตอร์ในออสเตรีย นั่งชมวิวทิวทัศน์ของเขตชนบทข้างทาง ฉันพลางนึกถึงบทประพันธ์ Symphony no.6 หรือ The Pastoral Symphony ของคีตวีเอก Ludwig van Beethoven ที่บรรยายความงามของทิวทัศน์ในชนบท เมฆฝนสีเทาลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือท้องฟ้า เราได้แต่ภาวนาให้ฟ้าเปิดเมื่อไปถึง

สองชั่วโมงครึ่งไม่ขาดไม่เกิน เราลงจากรถไฟ แล้วมุ่งหน้าไปยังที่พักที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินมากนัก หลังจากจัดการเก็บสัมภาระเรียบร้อย เราจึงเริ่มต้นทริปด้วยการไปยัง Mozarthaus หรือพิพิธภัณฑ์บ้านโมสาร์ท เป็นที่ทราบกันดีว่า คีตกวีเอกชื่อก้องโลกอย่าง Wolfgang Amadeus Mozart นั้น ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่กรุงเวียนนา และใช้ชีวิตนักประพันธ์อยู่ที่นี่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต พิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ Mozart รวมถึงเรื่องราวของบุคคลผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา ห้องต่างๆในบ้าน บ่งบอกรสนิยม และวิถีชีวิตอันฟุ้งเฟ้อของเขา อันที่จริง ฉันเคยรับรู้เรื่องราวของโมสาร์ทมาบ้าง ผ่านหนังเรื่อง Amadeus (1984) จึงไม่แปลกใจเลยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะกล่าวถึงเรื่องความกะล่อน และเจ้าชู้ไม่เป็นรองใครของเขา ก่อนกลับ ฉันแวะซื้อ CD รวมเพลงบรรเลงของ Mozart ที่รวบรวมโดยพิพิธภัณฑ์ มาหนึ่งชุดเพื่อเป็นที่ระลึก



Figlmuller ร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดัง ถูกเลือกให้เป็นที่ฝากท้องในมื้อเที่ยงวันนั้น เนื่องจากร้านนี้เป็นต้นตำรับของ Wiener schnitzel เนื้อหมูทุบเป็นแผ่นแบนๆ แล้วชุบเกล็ดขนมปังทอด สไตล์เวียนนา ที่หน้าร้าน นักท่องเที่ยวต่างมารอเข้าคิวเพื่อลิมรสอาหารแบบดั้งเดิม ถึงแม้ร้านจะขยายออกมาอีกสาขาหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมาไม่ขาดสาย แต่ทุกคนก็ดูเต็มใจที่จะรอ และเมื่อได้ที่นั่งในที่สุด เมนูที่เราสั่งคือ Original Schnitzel และ Kartoffelsalat หรือสลัดมันฝรั่งอีก 1 จาน ส่วนรสชาตินั้นถือได้ว่าสมน้ำสมเนื้อ ไม่เสียชื่อร้านเก่าแก่ดั้งเดิม ส่วนเครื่องดื่มนั้น เมื่อคุณเพื่อนชิงสั่งน้ำองุ่นสดจากไร่องุ่นในออสเตรียไปแล้ว ฉันก็เลยลองสั่ง Mixed herb drink (ฟังดูเหมือนยาต้มสมุนไพรนะ) มากิน รสชาติใช้ได้ทีเดียว



เสร็จภารกิจชิมอาหาร ก็หันเข้าหาศาสนากันบ้าง โบสถ์ Stephansdom ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่ ฉันตื่นตะลึงในความใหญ่อลังการของตัวโบสถ์ ยอดโดมแหลม ศิลปะยุค Gothic แทงยอดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่วนซุ้มประตูใหญ่ยักษ์ ศิลปะแบบ Romanesque ก็เด่นสง่าอยู่ด้านหน้า และเมื่อเข้าไปข้างใน ฉันก็ต้องตะลึงอีกครั้งในความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบโกธิคภายในโบสถ์




ถัดมา ก็เป็นเวลาของการจิบน้ำชากินเค้กยามบ่าย ณ ร้านขนมชื่อดังแห่ง Hotel Sacher ซึ่งเป็นต้นตำรับของ torte แบบออสเตรีย เค้กชนิดหนึ่งที่นิยมในแถบยุโรป นอกจาก torte ในตำนานแล้ว ฉันยังสั่งขนม Apple strudel ขนมขึ้นชื่อของออสเตรียมากิน พร้อมกับจิบชาร้อนๆไปด้วย ถึงแม้ว่าร้านนี้คนจะค่อนข้างแน่น (อีกแล้ว) แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสุนทรีย์ในการกินของเราสองคนลดลงเลย



เมื่อภารกิจของว่างยามบ่ายจบสิ้นลง ก็ถึงเวลาของ Schloss Belvedere พระราชวังฤดูหนาวของ Prince Eugene of Savoy ผู้มีชื่อเสียงด้านการทหารในประวัติศาสตร์ของยุโรป เราเลือกซื้อตั๋วเข้าชมสองส่วน คือ Upper และ Lower Belvedere

ที่ Upper Belvedere นั้น เก็บรวบรวมงานศิลปะของออสเตรีย ไล่เรียงมาตั้งแต่ยุค บาโร้ก คลาสสิก โรแมนติก อิมเพรสชั่นนิส เอ็กซ์เพรสชั่นนิส มาจนถึงศิลปะร่วมสมัยในปัจจุบัน ซึ่งไฮไลท์นิทรรศการนั้น อยู่ที่ภาพวาด The Kiss ของจิตรกรหัวก้าวหน้าชาวออสเตรีย Gustav Klimt นอกจากนี้ยังมีห้องต่างๆที่มีการตกแต่งสวยงามให้เราได้ชม เช่น Sala Terrena ห้องโถงชั้นล่าง ที่มีการตกแต่งด้วยภาพปูนปั้น, Chapel หรือ ห้องภาวนาของ Prince Eugene เป็นต้น ส่วน Lower Belvedere นั้น เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยแบบหมุนเวียน ห้องที่น่าสนใจในส่วนนี้ ได้แก่ Marble Hall ห้องโถงต้อนรับแขกที่ประดับตกแต่งด้วยหินอ่อน และ Gold Cabinet ห้องที่ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ และมีผนังห้องเป็นสีทองอร่าม




ร้านอาหาร Salm Brau อยู่ถัดจากทางเข้าพระราชวังเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น เราสั่ง ขาหมูเยอรมันอันใหญ่ยักษ์มากินด้วยกัน สลัด 1 จาน พร้อมเบียร์คนละแก้ว และเมื่อจบการเดินทางหนึ่งวันในเวียนนา ฉันก็ชักไม่แน่ใจว่าเรากิน หรือเราเที่ยวมากกว่ากัน เพื่อนฉันถึงกับขนานนามว่าเป็น “ทัวร์หมึกแดง” เลยทีเดียว



ปล. เครดิตรูปอาหารต้องยกให้เพื่อนผู้ร่วมทริปนี้ค่ะ

NOTE:
1. ที่พักที่เราไปพักกันคือ KIBI rooms เป็น apartment เก่า ที่ดัดแปลงเป็น guesthouse ราคาไม่แพงเท่าไหร่ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก สามารถเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย U1 ได้ที่สถานี Rochusgasse
2. สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะห้ามถ่ายรูปด้านใน ยกเว้น Stephansdom ค่ะ รวบรวมเว็บไซต์ของแต่ละที่ไว้ให้ ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ
Mozarthaus: http://www.mozarthausvienna.at/en/
Stephansdom: http://www.stephanskirche.at/
Schloss Belvedere: http://www.belvedere.at/en
ชื่อสินค้า:   สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารในกรุงเวียนนา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่