ขออนุญาต นำมุมมองของผู้ที่อยู่ในวงการประวัติศาสตร์ ใช้นามแฝงว่า แอดมินลูกทุ่งคนยาก ใน FB: Asian Studies เอเชียศึกษา
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/photo.php?fbid=658416954233223&set=a.386706838070904.91189.385740758167512&type=1&theater
ดังนี้
"ละครอิงประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๓๑๐ ซึ่งผมประทับใจที่สุดมี ๒ เรื่อง
หนึ่งนั้นคือ “สายโลหิต” ออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘
อีกหนึ่งนั้นคือ “ฟ้าใหม่” ออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ทางช่อง ๗ ทั้งสองเรื่อง
สายโลหิต โดดเด่นและทำได้ดีมาก ในเชิง Romantic-drama อุปสรรคความรักของขุนไกร-ดาวเรือง
ทั้งจาก “ตัวโกง” อย่างหมื่นทิพและอุปสรรคจาก “บ้านเมือง” คือศึกสงคราม
ในเชิงของการเล่าเรื่องศึกสงครามก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกัน สายโลหิต “ขับเน้น” ให้เห็นถึง “ความเสื่อม” ของกรุงศรีอยุธยา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่ฉายให้เห็นชัดเจนที่สุดคือ ความอ่อนแอ เหลวไหล หมายเอาตัวรอด
และความคิดทรยศบ้านเมือง ของ “ขุนนางใหญ่น้อย” ในกรุงศรีอยุธยา
ความเป็นอมตะของละครสายโลหิตเวอร์ชั่นนี้อยู่ที่ความลงตัว ทั้งการดำเนินเรื่อง ฉาก บท การแสดง
เสื้อผ้าหน้าผม และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ดูลงตัวที่สุดสำหรับละครโทรทัศน์ในยุคสมัยนั้น
ส่วนฟ้าใหม่ เปิดเรื่องด้วยการปูพื้นให้เห็นถึงปัญหาความวุ่นวายในราชสำนักกรุงศรีอยุธยาแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เป็นการ “ยิงตรง” ถึงสาเหตุอีกประการหนึ่งของความอ่อนแอในกรุง ที่เริ่มมาจาก “โครงสร้างส่วนบน”
ความโดดเด่นอีกประการหนึ่งของฟ้าใหม่คือ หยิบเอาบุคคลสำคัญในสมัยต่อมา ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
มานำเสนอในรูปของตัวละคร คุณคนใหญ่ คุณคนกลางและคุณคนเล็ก แม้แต่พระเอกของเรื่องคือ “แสน”
ซึ่งในเรื่องกล่าวว่าเป็น “ลูกแขกเทศบ้านท่าตะเภาแขก” ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก “เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา” (บุนนาค)
ผู้เป็นคู่เขยกับรัชกาลที่ ๑ ในกาลต่อมา
นอกจากนั้น ฟ้าใหม่ยังนำเสนอภาพและแง่มุมของพระเจ้าเอกทัศ ตลอดจนบุคคลที่อยู่ “รายล้อม” พระองค์อย่างเด่นชัด
ว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเสียกรุงฯ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงความพ่ายแพ้ “ทางยุทธศาสตร์” ของกรุงศรีอยุธยา
ผ่านบทเจรจาของตัวละครหลัก คือคุณคนกลางและคุณคนเล็ก
ณ จุดนี้ ฟ้าใหม่ เด่นชัดกว่าในการนำเสนอภาพของโครงสร้างส่วนบนคือราชสำนักและขุนนาง
ส่วนสายโลหิต เด่นชัดกว่าในการนำเสนอภาพวิถีชีวิตประจำวันของครอบครัวตระกูลขุนนาง ที่มีทั้งขุนนางดีและขุนนางเลว
กล่าวโดยสรุป ละครทั้งสองเรื่องถือเป็น “เพชรน้ำเอก” ในบรรดาละครอิงประวัติศาสตร์ของไทย
ที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้ดูละครคุณภาพเช่นนี้อีก
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมพึงระมัดระวัง อย่าได้นำความรู้สึกที่ได้รับจากการชมละครอันเป็นเรื่องราวเหตุการณ์ในรัฐโบราณยุคจารีต
มา “ปะปน” กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันนะครับ"
ปล. พออ่านแล้ว มีภาพที่หลงเหลืออยู่ในสมอง แค่เพลงกับแอคติ้งตอนจะเสียกรุงฯ ของพระเจ้าเอกทัศ
ฟ้าใหม่ สายโลหิต ละครอิงประวัติศาสตร์ระดับ เพชรน้ำเอก
อ้างอิง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนี้
"ละครอิงประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๓๑๐ ซึ่งผมประทับใจที่สุดมี ๒ เรื่อง
หนึ่งนั้นคือ “สายโลหิต” ออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘
อีกหนึ่งนั้นคือ “ฟ้าใหม่” ออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ทางช่อง ๗ ทั้งสองเรื่อง
สายโลหิต โดดเด่นและทำได้ดีมาก ในเชิง Romantic-drama อุปสรรคความรักของขุนไกร-ดาวเรือง
ทั้งจาก “ตัวโกง” อย่างหมื่นทิพและอุปสรรคจาก “บ้านเมือง” คือศึกสงคราม
ในเชิงของการเล่าเรื่องศึกสงครามก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกัน สายโลหิต “ขับเน้น” ให้เห็นถึง “ความเสื่อม” ของกรุงศรีอยุธยา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่ฉายให้เห็นชัดเจนที่สุดคือ ความอ่อนแอ เหลวไหล หมายเอาตัวรอด
และความคิดทรยศบ้านเมือง ของ “ขุนนางใหญ่น้อย” ในกรุงศรีอยุธยา
ความเป็นอมตะของละครสายโลหิตเวอร์ชั่นนี้อยู่ที่ความลงตัว ทั้งการดำเนินเรื่อง ฉาก บท การแสดง
เสื้อผ้าหน้าผม และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ดูลงตัวที่สุดสำหรับละครโทรทัศน์ในยุคสมัยนั้น
ส่วนฟ้าใหม่ เปิดเรื่องด้วยการปูพื้นให้เห็นถึงปัญหาความวุ่นวายในราชสำนักกรุงศรีอยุธยาแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เป็นการ “ยิงตรง” ถึงสาเหตุอีกประการหนึ่งของความอ่อนแอในกรุง ที่เริ่มมาจาก “โครงสร้างส่วนบน”
ความโดดเด่นอีกประการหนึ่งของฟ้าใหม่คือ หยิบเอาบุคคลสำคัญในสมัยต่อมา ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
มานำเสนอในรูปของตัวละคร คุณคนใหญ่ คุณคนกลางและคุณคนเล็ก แม้แต่พระเอกของเรื่องคือ “แสน”
ซึ่งในเรื่องกล่าวว่าเป็น “ลูกแขกเทศบ้านท่าตะเภาแขก” ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก “เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา” (บุนนาค)
ผู้เป็นคู่เขยกับรัชกาลที่ ๑ ในกาลต่อมา
นอกจากนั้น ฟ้าใหม่ยังนำเสนอภาพและแง่มุมของพระเจ้าเอกทัศ ตลอดจนบุคคลที่อยู่ “รายล้อม” พระองค์อย่างเด่นชัด
ว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเสียกรุงฯ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงความพ่ายแพ้ “ทางยุทธศาสตร์” ของกรุงศรีอยุธยา
ผ่านบทเจรจาของตัวละครหลัก คือคุณคนกลางและคุณคนเล็ก
ณ จุดนี้ ฟ้าใหม่ เด่นชัดกว่าในการนำเสนอภาพของโครงสร้างส่วนบนคือราชสำนักและขุนนาง
ส่วนสายโลหิต เด่นชัดกว่าในการนำเสนอภาพวิถีชีวิตประจำวันของครอบครัวตระกูลขุนนาง ที่มีทั้งขุนนางดีและขุนนางเลว
กล่าวโดยสรุป ละครทั้งสองเรื่องถือเป็น “เพชรน้ำเอก” ในบรรดาละครอิงประวัติศาสตร์ของไทย
ที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้ดูละครคุณภาพเช่นนี้อีก
อย่างไรก็ตาม ผู้ชมพึงระมัดระวัง อย่าได้นำความรู้สึกที่ได้รับจากการชมละครอันเป็นเรื่องราวเหตุการณ์ในรัฐโบราณยุคจารีต
มา “ปะปน” กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันนะครับ"
ปล. พออ่านแล้ว มีภาพที่หลงเหลืออยู่ในสมอง แค่เพลงกับแอคติ้งตอนจะเสียกรุงฯ ของพระเจ้าเอกทัศ