ควรทำตัวยังไงดีครับถ้าจำเป็นต้องอยู่กับคนที่เค้าไม่ชอบเรา

สวัสดีครับ กระทู้แรกของผมเลย เรื่องค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ ผมเป็นเด็กเวิร์ค ตอนนี้มาเที่ยวที่นิวยอร์คครับ ผมเป็นเกย์ครับ ผมมากับเพื่อนคนนึงซคชึ่งตอนนี้เค้าไม่สนใจใยดีกับผมเลย มันผิดที่ว่าผมกับเขาจองทริปเมื่อเดือนที่แล้วเมื่อตอนที่สนิทกันแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ

ผมมาเวิร์คคนเดียวครับ ตอนแรกผมนัดกันกับเพื่อนไว้อีก 3 คน รวมผมเป็น 4 คน ที่จะมา work ด้วยกัน แล้วคราวนี้เกิดอุบันิเหตุคือเพื่อนคนนึงพ่อเค้าไม่ยอมให้มา อีกคนคือทางบ้านเกิดอุบัติภัยน้ำท่วมพอดีทางบ้านจึงขอให้ไม่ไปเพราะต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ส่วนคนสุดท้ายมาตกม้าตายตอนจบคือทำเรื่องทุกอย่างเสร็จหมดแล้วแต่มาสัมภาษณ์วีซ่าไม่ผ่าน ทำให้ผมต้องมาคนเดียว

ช่วงที่มาถึงตอนแรกที่ต้องอยู่ในห้องคนเดียว ก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่นะครับ เพราะตอนอยู่ที่หอผมก็อยู่คนเดียวตลอด อีกทั้งมีเพื่อนต่างชาติอยู่เต็มไปหมดเลย ออกห้องมาก็มีโอกาสได้เจอเพื่อนที่มาเวิร์คด้วยกันอยู่แล้ว เพื่อนฟิลิปินก็ใจดีมากคือเค้ามาถึงเมกาก่อนเราประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ค่อนข้างมีพร้อมพอสมควรจึงชวนมากินข้าวที่ห้องบ่อยๆ เพราะกินอาหารอเมริกันทุกวันมันน่าเบื่อ เพื่อนฟิบิปินก็เล่าให้ฟังว่าจะมีเพื่อนผู้ชายอีก 2 คนจะตามมาด้วย เราก็คิดไว้แล้วว่าอาจจะต้องเป็น roommate กับอีก 2 คน

อยู่ๆมาวันนึงหลังเลิกงานกำลังกินข้าวอยู่ ก็มีคนมาเคาะประตูครับ ส่องตาแมวไปก็เห็นผู้ชาย 2 คนมาเคาะห้องเป็น asian เหมือนกัน ก็เลยนึกว่าเป็นฟิลิปินอีก 2 คนที่ตามมาก็เปิดประตูไปพร้อมทำหน้างงๆหน่อย ผู้ชายคนนึงก็บอกว่า "I'm your roommate" เราก็ถามไปว่า "Where are you come from?" พวกเค้าก็ตอบว่า "Thailand" เราก็แบบ "อ้าว เป็นคนไทยเหรอ" แล้วก็หัวเราะกัน ผมก็สังเกตอยู่นะว่ามีผู้ชายคนนึงน่ารักดี แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะยังไม่ลืมอีกคนนึงที่เพิ่งจะเลิกคุยกันก่อนมาอเมริกา แล้วอีกวันก็มีเพื่อนที่ไทยตามมาอีกคนนึง สรุปห้องผมตอนนี้รวมเป็น 4 คน

น้องที่ผมว่าน่ารักดีเนี่ยตอนแรกสนิทกันน้อยที่สุดไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอนานเข้าเรื่อยๆ ก็สนิทกันมากขึ้นกว่าคนอื่น เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกัน 2 คน เพราะเพื่อนอีก 2 คนขี้เกียจออกไปข้างนอกและพยายามเก็บเงิน เราทำอะไรด้วยกัน 2 คนเยอะมาก ไปลองผิดลองถูกสั่งอาหารข้างนอกทั้งถูกแพงปนกันไป ออกไปซื้อของ เดินห้าง น้องพยายามตามหาห้างมากเพราะอยากซื้อของ แบบผู้ชายบ้ายีน บ้านาฬิกา รองเท้า บางทีไปฟิตเนสด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่น้องจะไปอีกคน คือน้องตัวแห้งแต่อยากได้กล้าม แต่ผมไม่เล่น มีไปดูหนังบ้าง เพราะหนัก 3d ค่อนข้างถูก ตั๋วนักดรียนประมาณ 100 กว่าบาท เราตัวแทบจะติดกันเลย ผมก็สงสัยอยู่บ้างว่าเค้าไม่รู้เหรอที่เราเป็นแบบนี้ ทำไมถึงแบบไว้เนื้อเชื่อใจมาก จะให้ผมอยู่ๆไปบอกว่าเนี่ยพี่เป็นเกย์นะ ก็ยังไงๆอยู่ คือเราสนิทกันมาก อาจเป็นเพราะชอบอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน ทั้งผมและน้องรู้รหัสไอโฟนกันรู้ที่มาว่ามาจากไหน คล้ายกันมาก คือรู้ทุกอย่างและตัวติดกันเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย

ผมจำไม่ได้ว่าผมเริ่มไปชอบน้องตอนไหน เพราะตอนแรกพยายามมากว่าจะไม่ให้ชอบผู้ชายจริงๆ เพราะเราเป็นแบบนี้ไปชอบผู้ชายจริงๆยังไงก็ล่มจม เท่าที่จำได้คือตอนวันเกิดเพื่อนฟิลิปปิน เราก็กินเบียร์กัน ทั้งห้องมีคนประมาณ 15 คน มันเป็นห้องของโรงแรมเล็กๆเราก็เบียดกันนิดหน่อย ผมกับน้องก็นั่งติดกันตลอดจำได้ว่า selfie เรากับน้องใกล้กันมาก ผมเอาคางมาเกยบ่าน้องแล้วก็หน้าแดง ตื่นเช้ามาผมเขินๆ แต่น้องก็ยังเป็นเด็กน่ารักเหมือนเดิม คือเป็นคนเดิมทุกประการ คิดว่าคงเป็นตอนนี้แหล่ะที่เริ่มชอบ

มีอีกวันเราไปกินกันที่ห้องเพื่อนอีกคน กินเสร็จแล้วก็นอนห้องตรงนั้นเลย แล้วเตียงที่ผมกับน้องนอนเป็นเตียงสำหรับคนเดียว แต่คนนอนกันถึง 3 คน แนานอนครับเบียดกันมาก ตอนนั้นเมากันมากผมก็บอกห้องว่านอนไม่ได้ไม่มีที่วางแขนขอพาดหน่อยนะ สภาพน้องคือนอนตะแคงผมก็นอนตะแคงไปทางเดียวกันสภาพก็เหมือนกับกอดนอนแหล่ะครับ แต่ไม่ได้กอดแค่พาดมือไว้ตรงเอว คืนนั้นก็มีแค่นี้แหล่ะครับแต่ผมแทบไม่ได้นอนเลยทั้งๆที่เมามาก เพราะอยู่ใกล้กันเกินไป ยิ่งช่วงที่เห็นหน้าน้องชัดๆ ยิ่งสร่างเมาเลยครับ

วันที่คิดว่าเราสนิทกันที่สุดคือตอนไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันครับ ช่วงที่เดินทางไปเราเหมารุตู้ไปกันครับ เพราะต้องไปด้วยกันกับเพื่อนฟิบิปปินหลายคน จึงเหมารถตู้ไป ทำให้เด็กไทย 4 คน ต้องเบียดกันอยู่ข้างหลัง บวกกับของกินที่เอาไปปิกนิกด้วยครับ คือเนื่องจากที่ต้องเบียดกันผมก็บอกน้องว่ามันไม่มีที่วางแขน หากใครเคยนั่งแทกซีด้วยกันกับเพื่อนหลายๆคนเบาะหลัง จะเข้าใจได้เลยว่าแขนมันเบียดกันมันต้องมีคนที่ไม่ได้พิงถึงจะนั่งได้พอดี แต่ระยะทางเมืองของผมกับสวนสนุกมันค่อนข้างไกลกัน ผมเลยขอน้องเกาะบ่าครับเพื่อไม่ให้แขนชนกันและพิงได้กันครบทุกคน ผมก็โอบไหล่น้องมาตลอดทางเลยครับ ถ่ายรูปกันไปคุยกันไปสนุกมาก ส่วนตัวสวนสนุกเอง เครื่องเล่นสนุกมากครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุดคือเราไปด้วยกันตลอดทุกเครื่องเล่นเลย นั่งด้วยกันตลอด บางเครื่องหวาดเสียวมากและจะมีบางช่วงที่ลมตีมือครับ ผมรู้สึกได้ว่าเราจับมือกัน ตอนก่อนจะกลับก็ไปถ่ายรูปกัน ตอนนั้นผมถ่ายเดี่ยวอยู่ชูน้องนิ้วสุดแขนขึ้นไปข้างบน แล้วน้องก็จะมาถ่ายด้วย ก็เลยกอดคอพอดีน้องก็เลยกอดคอผมด้วย ตอนนี้แหล่ะครับยอมรับเลยว่ารักมาก ขากลับนี่แบบเหนื่อยมากเพราะเล่นตั้งแต่ บ่ายโมงถึง 4 ทุ่ม ข้างหลังเบาะไม่มีที่วางหัวผมเลยขอน้องพิงบ่า ทั้งกอดคอทั้งพิงบ่าครับ น้องก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ความรู้สึกนี้มันใกล้กันมากครับแบบ ผมพิงบ่าน้องน้องก็พิงหัวผม ได้ยินเสียงหายใจชัดมาก เหนื่อยจริงแต่ก็นอนไม่หลับเลยครับ

ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปด้วยดี เราสนิทกันขึ้นทุกวัน จนเพื่อนแซวว่าเป็นแฟนกัน เพื่อนฟิลิปินก็แซวแบบ best couble ever ผมกับน้องก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ฮาๆกันไป จนกระทั่งวันที่มีเพื่อนใหม่มาจากยูเครนและเช็ค ผมกับน้องก็ชวนกันจะเลี้ยงเบียร์ต้อนรับเพื่อนใหม่ ปาตี้วันนั้นมีคนอยู่กว่า 10 คน ก็เลยซื้อมาเยอะมากแต่เอาจริงๆมีคนกินแค่ 3 คน ผมกับน้องกินกันเยอะมาก ผมกินเยอะมากเป็นครั้งแรกที่กินแล้วอวกออกมาเลย ช่วงนึงที่เมาได้พอสมควรน้องก็หยิบกล้องมาเตรียม selfie ตอนนั้นผมอยู่ด้านข้างก็กอดคอน้องหน้าแนบหน้าแล้วเล่นแย่งกล้องกันนิดหน่อย ต่างคนต่างเมามากแย่งกล้องไม่ได้ มีจังหวะนึงที่น้องหันหน้ามาทางผม ไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่คือตอนนั้นเมามาก ผมก็จูบน้องจำได้ว่าค้างไว้นานมากน้องไม่หนีผมครับปต่ก็ไม่ได้แลกลิ้นกัน แข่ไว้เฉยๆ แล้วผมก็จำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นเป็นยังไง จำได้คร่าวๆว่าเพื่อนไล่เรา 2 คนกลับไปนอนที่ห้อง เช้าวันต่อมาผมต้องไปทำงานก็มีโอกาสเจอกันและพูดคุยกันบ้าวเพราะน้องชวนไปข้างนอก น้องก็ยังเป็นน้องของผมเหมือนเดิม แต่พอมาอีกวันไม่ใช่ครับน้องเป็นอะไรไม่รู้เดินหนีออกจากทุกคนดูมีท่าทางซึมไปนิดหน่อย ก็งงๆเพราะถ้าน้องรู้ว่าเราจูบเค้าไปเค้าคงมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเราตั้งแต่วันแรกแล้วต่นี่เพิ่งนอยวันที่ 2 เราก็เลยไปถามเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าก็บอกว่าไม่มีไร ผมแค่ร้องไห้ที่ซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อนๆ แล้วก็กอดทุกคนรวมทั้งน้องด้วย พอดีเพื่อนถ่ายคลิปมาให้ดู แต่ผมจำไม่ได้ว่ากอดน้องด้วย จำได้ว่ากอดทุกคน ยังงงๆอยู่ แต่ที่ตกใจคือไม่มีใครเห็นว่าผมจูบน้อง ถ้ามีคนเห็นเค้าก็ต้องล้อแล้วเพราะเค้าไม่รู้ว่าผมเป็น

เหตุการณ์วันต่อๆมา แล้วแต่อารมณ์น้องแล้วแหล่ะครับ บางวันจะนอยๆ ยางวันก็คุยเก่ง แต่พอมาปาตี้วันเกิดผม ผมบอกว่าวันเกิดพาพี่ไป Niagara Falls หน่อยแค่ 3 ชั่วโมงเอง นอนคืนนึงเพราะเราหยุดงาน 2 วันเหมือนกัน งงๆอยู่ครับอยู่ดีๆน้องก็ไปเฉยเลย เพราะหลังจากวันที่ผมจูบน้องน้องก็เริ่มไม่สนิทเหมือนเดิม แต่คราวนี้คือไปด้วยกัน 2 คนอีกแล้ว หลังจากจองตั๋วรถ ที่พัก ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็กินเลี้ยงวันเกิดผมครับ สิ่งที่ทำให้มรู้เลยว่าไม่เหมือนเดิมคือรอบนี้น้องไม่นั่งใกล้ผมเลยครับ คือพอผมไปนั่งด้วย สักพักก็จะแบบลุกไปที่อื่น และกินดบียร์น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ มีช่วงนึงเพื่อนชาวจีนเอาแตงโมมาให้ น้องก็เข้าไปกิน ปกติแล้วถ้าน้องกินอยู่ถ้าผมอ้าปากน้องก็จะเอาเข้าปากให้เลย แต่รอบนี้ให้บ้างไม่ให้บ้างแล้วบอกว่า "ตักเองเดะ"  แต่บางทีก็ตักให้ ก็เลยงงๆ วันเกิดผมไม่มีรูปคู่ผมกับน้องเลยครับเพราะน้องไม่ยอมให้ selfie แต่หลังจากที่ทุกคนกลับเหลือสมาชิกในห้องผม 4 คน 3 คนเป็นเพื่อนเรียนที่ธรรมศาสตร์ด้วยกันครับเค้าก็ดูรูปเพื่อนเค้าไปเรื่อยๆ ตอนนั้นผมนั่งข้างน้องครับ ตอนนั้นแหล่ะครับเหมือนน้องจะไม่รู้ตัวเพราะดูรูปในจอคอมอยู่ น้องก็มาซบผมครับผมก็กอดเอวน้องไว้ จากวันนั้นก็ไม่มีอะไรทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอนมีเพียงแค่วันนั้นมีสัญญานไฟไหม้ ทุกคนก็ลงมาข้างนอกโรงแรม ข้างนอกหนาวมาก ผมหยิบแค่เสื้อกันหนาวบางๆกับไอแพดลงมา น้องไม่อยู่ใกล้ผมเลยครับ คือวันหนาวๆจำได้ว่าถ้าออกมาด้วยกันจะเบียดกันมากเพราะมันหนาว แต่ว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครับผมนั่งข้างกับน้องอีกคนนึง เพราะน้องคนที่ผมชอบเริ่มหนีไป ง่วงมากเลยขอพิงไหล่หลับไป จนเหตุการณ์ปกติ วันนั้นไม่มีอะไรแหล่ะครับเหมือนมีคนสูบบุหรี่ผิดที่ แล้วฝรั่งนี่เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องแรเลยครับ

สรุปวันนั้นก็ไม่ได้นอนครับ เพราะรถออกไป niagara falls ตอน 8 โมง ผมต้องไปเอาบัตรก่อนชั่วโมงนึง อาบน้ำจัดของกันตอนตี 5 เพราะไม่ได้เตรียมตัวอะไรกันเลย เมื่อคืนเพิ่งปาตี้กัน ตอนเช้าตอนเดินทางน้องเงียบิดปกติครับ ถามคำตอบคำ ผมยีงตลกคำถามตัวเองที่คิดไว้ในใจอยู่เลยว่าน้องจะงอนผมเรื่องไปพิงเพื่อนอีกคนตอนเมื่อคืน น่าจะเพราะไม่ได้นอนมากกว่าก็เลยเอื่อยๆครับ ตอนไปรอบนี้น้องไม่ยอมให้ผมพิงบ่าครับ แต่ก็มีบางช่วงที่มขอน้องพิง แต่อีกประมาณ 5 นาทีต่อมาน้องก็ขยับตัวไปข้างหน้าให้หัวผมตก จนผมถอดใจอยู่ตัวคนเดียวก็ได้ ตอนลงรถลงผิดที่ครับ ทำให้ต้องเดินอีกประมาณชั่วโมงนึงไปโรงแรม เพราะไม่ทราบสายรถบีสท้องถิ่น จะหา wifi ก็หาลำบาก downtown niagara falls เป็นเมืองเล็กๆครับ เท่าที่เคยต่อ wifi ก็มีที่ casino ครับ หา mac ลำบากเหมือนกัน ความจริงก็คงมีแหล่ะแต่หากันไม่เจอ ที่เป็นปัญหาสำหรับผมก็เริ่มแล้วครับคือ ตอนเดินไปโรงแรมน้องเงียบมากและหยิบหูฟังมาฟังเพลง แล้วปล่อยตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัว สูบบุหรี่ โดยลืมว่ามากับอีกคนนึง แต่เราก็บอกว่าขอฟังด้วยได้มั้ย น้องก็ให้ครับ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ

แต่พอเข้าที่พักอาบน้ำทานข้าวเสร็จแล้ว ก็ออกไปเที่ยวครับ สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเราคือ outlet น้องอยากซื้อของมากก เป็นเด็กบ้าแบรนด์ครับ หลังจากทราบว่ามี outlet เค้าคงอารมณ์ดีครับ คุยกันสนุกมากตลอดเวลา 45 นาทีเข้าไป downtown niagara falls เป็นอีกครั้งที่ผมมีรูปคู่กับน้องตอนที่ไปน้ำตกนี่เอง บังเอิญเจอเพื่อนคนไทยเค้าบอกว่าให้ไปนั่งเรือรับน้กตกด้วย แต่ผมมาเย็นเกิด เรือปิดบริการไปแล้วครับ แล้วก็ให้ไปลองเล่น casino ดู ถ้าสมัครสมาชิกจะได้รับโบนัสให้เล่นฟรี $20 อีกวันที่ผมมีความสุขมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่