ร้อยเอกสมญา มาลาศรี อนุศาสนาจารย์ในกองทัพสหรัฐ และ จุฬา พิทยาภินันท์ ในกองพลต่างด้าวฝรั่งเศส

ล่าสุดมีการเชิญศาลพระภูมิไทยนำไปตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นถิ่นของ "สตีฟ จ็อบส์"
และสถานที่ตั้งนั้นก็พิเศษสุดเนื่องจากตั้งอยู่ในศูนย์ฝึกหน่วยรบพิเศษหรือที่เรียกว่าหน่วยซีล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกในแผนปฏิบัติการปลิดชีพ "บิน ลาเดน"

             และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือว่า ทหารที่เป็นคนไทยในหน่วยซีลทำหน้าที่เป็นผู้ตั้งศาลพระภูมิดังกล่าวด้วย เพราะทหารไทยคนนี้มีตำแหน่งเป็นถึงอนุศาสนาจารย์คนแรกที่ประจำในกองทัพสหรัฐนามว่าร้อยเอกสมญา มาลาศรี

             การตั้งศาลพระภูมิในศูนย์ฝึกหน่วยรบพิเศษหรือซีลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2555 ที่ผ่านมาโดยประกอบพิธีตามตำราไทยทุกประการ

             ร้อยเอกสมญาเปิดเผยว่า  ได้ไปทำพิธีตั้งศาลพระภูมิให้กับหน่วยรบพิเศษ (Special Forces Group) ในค่ายเดียวกัน หน่วยนี้ไปฝึกกับกองทัพไทย ที่เรียกว่าCobra Gold แล้วได้นำศาลพระภูมิมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย จึงทำพิธีให้ เขาดีใจมากๆที่ตนไปทำพิธีให้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังให้ทหาร

             นับได้ว่าศาลพระภูมิไทยก้าวไกลถึงประเทศสหรัฐแล้วศิษย์เก่า"มจร"สู่อนุศาสตร์คนแรกกองทัพสหรัฐ

ร้อยเอกสมญา มาลาศรี เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มีชีวิตวัยเด็กเหมือนชาวบ้านทั่วไปและค่อนข้างจะเกเรนิดๆ เคยเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯตามโรงงาน พออายุ 17 ปี แม่ป่วยมากจึงตั้งใจบวชเณรเพื่อให้แม่สบายใจ

             สามเณรสมญาได้ท่องไปตามจังหวัดต่างๆขึ้นเหนือล่องใต้ถึงเมืองหาดใหญ่ เรียนนักธรรมบาลีที่วัดในวัง อ.นาทวี จ.สงขลา สอบได้เปรียญธรรมหรือประโยค 3  เข้ากรุงเทพฯอยู่ที่วัดโพธินิมิตรตลาดพลูสอบได้ประโยค 4 เรียนเตรียมอุดมศึกษาที่วัดมหาธาตุฯท่าพระจันทร์ และกศน.ควบคู่ไปด้วย

             หลังจากนั้นได้มีโอากาสไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศพม่าปี2535  เรียนได้ 1 ปีกลับมาเรียนต่อหลักสูตรปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย "มจร"  วิทยาเขตเชียงใหม่ ที่วัดสวนดอก  แต่เรียนได้เพียงเทอมเดียว เศรษฐีชาวพม่าที่เคยเป็นโยมอุปัฏฐากถวายทุนให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศศรีลังกา

             เพราะความไม่ชอบจึงเรียนได้เพียง 1 ปี จึงกลับเมืองไทยเรียนต่อที่ มจร วัดศรีสุดาราม คณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ จนจบรุ่นที่ 46 รุ่นเดียวกับพระมหาสมปอง ตาลปุตโต แล้วสมัครสอบเป็นพระธรรมทูตเดินทางไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จำพรรษาที่วัดพุทธวราราม เมืองเด็นเวอร์ และวัดสันติธรรมาราม รัฐโคโลราโด

             และได้ย้ายจากวัดสันติธรรมมารามไปอยู่ทีวัดธรรมคุณาราม เมืองเลซี่ย์ รัฐยูทาห์ ได้ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษ ที่ Davis Apply Technology college  ช่วงนั้นมีทหารมาไห้วพระที่วัดก่อนที่จะไปสงครามที่ประเทศอิรัค คิดอยากจะเป็นทหารบ้างตามที่เคยตั้งความฝันไว้ตอนเป็นเด็ก จึงกลับมาลาสิกขาบทที่ประเทศไทยแล้วกลับไปอยู่ที่วัดป่าพุทยานันทาราม เมืองลาสเวกัส และได้ตัดสินใจสมัครเป็นทหาร

             ร้อยเอกสมญาได้ไปฝึกครั้งแรกที่ Fort Jackson รัฐเซาท์ แคโรไล่น่า แล้วเรียนต่อวิชาชีพต่อที่ Fort Lee รัฐเวอร์จิเนีย ได้ยศเป็นสิบเอก หลังจากนั้นถูกส่งไปประจำการที่ Hawaii หน่วยที่ประจำการอยู่นั้นถูกเรียกให้ไปปฏิบัติหน้าที่อิรัค และร้อยเอกสมญาก็ได้รับคำสั่งให้ไปอิรัคด้วย

             ร้อยเอกสมญา กล่าวว่า เมื่อตอนสมัครเป็นทหารใหม่ๆนั้น ก็สมัครเป็นอนุศาสนาจารย์ด้วย และได้ติดยศร้อยตรีเหมือนกับประเทศไทย ขณะเดียวกันได้เดินเรียนต่อด้านเทววิทยา-อนุศาสนาจารย์แบบพุทธ (Master of Divinity in Buddhist Chaplaincy) ที่ University of the West in Los Angeles, California. และได้ไปเรียนโรงเรียนนายทหารที่ Fort Jackson, South Carolina. หลังจากจบแล้วได้มาประจำการที่ Joint Base Lewis-McChord เมือง Tocoma รัฐวอชิงตัน ในเดือนตุลาคม 2010  และได้ยศเป็นร้อยเอก  

             "ผมเป็นอนุศาสนาจารย์ชาวพุทธคนแรกที่เป็นทหารกองประจำการ โดยมีอนุศาสนาจารย์ชาวพุทธคนหนึ่งเขาเข้าเป็นหทารก่อนผมสองปี แต่ว่าเขาเป็น Army National Guard ถ้าบ้านเราก็คือ นักเรียน รด. แต่ว่าเขาได้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่อิรัคหนึ่งปี เขาเพิ่งจะเข้ามาเป็นทหารกองประการเมื่อปีที่แล้วนี้ ซึ่งเป็นหลังผมหนึ่งปี"  ร้อยเอกสมญา กล่าว

             นับได้ว่าร้อยเอกสมญา มาลาศรี นับเป็นคนไทยคนหนึ่งที่พัฒนาตัวเองจากเด็กบ้านนอกยากจน และพลิกชีวิตตัวเองจากการได้เข้ามาบวชในพุทธศาสนาเรียนจบประโยค 4 ปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิตที่ มจร เป็นพระธรรมทูต เพราะความอยากเป็นทหารจึงผันตัวเองเป็นทหารที่ประเทศสหรัฐและได้เป็นอนุศาสนาจารย์ครูสอนทหารคนไทยคนแรกของกองทัพสหรัฐ  นับเป็นเกียรติประวัติที่น่ายกย่องเผยแพร่เป็นแบบอย่างของคนดี

..................

http://www.iseehistory.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=1318617

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378086718
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่