บอร์ด ตลท.เล็งเสนอตั้งคณะศึกษาแผนปฎิรูปภาษีตลาดทุนไทยต้น ก.ค.

กระทู้สนทนา
นายกิติพงษ์ อุรพีพัฒนพงษ์ กรรมการบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับประธาน ตลท.เพื่อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาแผนปฎิรูปภาษีตลาดทุนไทย เพื่อศึกษาแนวทางทั้ง 1.การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงหรือไม่ควรจัดเก็บเกินอัตรา 25% จากเดิม 28% 2.ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลงเหลือ 25% จากเดิม 35% และ 3.พิจารณาให้เก็บภาษี Capital Gain ของบุคคลที่ถือหุ้นน้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยเก็บภาษีในอัตราต่ำ 5-10% แต่หากมีผลขาดทุนให้หักไปได้ โดยเก็บภาษีผ่านโบรกเกอร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวได้ในช่วงต้นเดือน ก.ค.57 และจะใช้เวลาในการศึกษาราว 3 เดือน หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อตัวแทนทั้ง 7 องค์กรภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาตลาดทุนไทย เพื่อเป็นแกนนำในการดำเนินการปฎิรูป โดยเบื้องต้นจะมีการนำเสนอต่อ ตลท.เป็นแห่งแรกภายในเดือน ก.ค.นี้

จากนั้นจะนำเสนอเป็นร่างกฎหมาย ซึ่งใช้กรอบระยะเวลาอีก 3 เดือน โดยจะต้องเสนอต่อคณะรักษารักความสงบแห่งชาติ(คสช.)หรือหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะนำเสนอเพื่อส่งต่อไปยังรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายและมีการบังคับใช้ต่อไป

"จากที่ได้มีการเขียนหนังสือในเรื่องของแผนปฎิรูปให้ลดอัตราภาษี ทั้งลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลดภาษีบริษัท ลดภาษีเงินปันผล เพื่อให้ภาษีไทยแข่งขันกับต่างประเทศไทย โดยปัจจุบันประเทศไทยเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ 28% ในขณะที่สิงคโปร์อยู่ที่ 17% สิงคโปรไม่มีภาษีเงินปันผลและไม่มีการเก็บภาษีที่ได้จากกำไรในการซื้อขายหุ้น (Capital Gain) ซึ่งก็ได้ระบุไปว่าอาจจะต้องมีการพิจารณาเก็บภาษี Capital Gain ของบุคคลที่ถือหุ้นน้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ 5-10%

ประเด็นดังกล่าวที่เสนอผ่านบทความในหนังสือมีระยะเวลาผ่านมาแล้ว 10 ปี และก็ได้มีการเสนอไปยัง 7 องค์กรภาคเอกชนแต่เรื่องก็เงียบไป ซึ่งเมื่อวานก็ได้มีการหารือกับประธานตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับแรื่องดังกล่าวว่าควรมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาแผนปฎิรูปขึ้น เพื่อศึกษาเรื่องข้อกฎหมายภาษีว่าจะทำอย่างไรได้บ้างในระยะเวลาที่เหลือนี้ซึ่งยังอยู่ในภายใต้การดำเนินงานของคสช. ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นโอกาสเดียวที่เราจะทำได้" นายกิติพงษ์ กล่าว

ขณะที่เมื่อมีการเสนอขอความร่วมมือให้ลดอัตราภาษีดังกล่าว จะต้องมีการเพิ่มภาษีอย่างอื่นให้กับรัฐบาลด้วย อย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ควรที่จะยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ให้กับบริษัทที่ขอสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนว่าควรจะเป็นบริษัทเฉพาะหรือไม่ เนื่องด้วยปัจจุบันประเทศไทยมีบริษัทข้ามชาติที่ไม่เสียภาษีเป็นระยะเวลา 8 ปีเป็นจำนวนมาก


.........................................................................................


แต่ยังมีอีกหนึ่งความหวังครับ......และขอขอบคุณผู้จัดส่งข้อมูลทางหลังไมค์นี้ให้ผมด้วยนะครับ

ประธาน ตลท.ค้านแนวคิดเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้น
ฐานออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2014 เวลา 14:39 น

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึง กระแสข่าวแนวคิดการเก็บภาษีกำไรจาการขายหุ้น (capital gain)ว่า ยังไม่ควรนำแนวคิดดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาเนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงสร้างความเชื่อมั่นทั้งตลาดเงินและตลาดทุน อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนที่เป็นนักลงทุนรายย่อยมากกว่า 50% ด้วยเหตุนี้การเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นจะกระทบต่อผุ้ลงทุนรายย่อยจำนวนมาก ขณะที่ตลาดทุนมีนโยบายส่งเสริมนักลงทุนทั่วไปให้รู้จักการออมและเข้ามาลงทุนโดยส่วนหนึ่งจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

"เรื่องภาษีกำไรจากการขายหุ้นยังเป็นแนวคิดที่แตกต่างว่าควรเก็บหรือไม่ควรเก็บ ซึ่งในช่วงนี้ที่ประเทศต้องการสร้างความเชื่อมั่นทุกๆ ด้าน รวมทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ควรจะชะลอแนวคิดนี้ไว้ก่อน เพราะปัจจุบันการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ใช่การลงทุนเฉพาะกลุ่มบุคคลเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แต่เป็นการลงทุนที่แพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนรายย่อยสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 50 ดังนั้น หากมีการเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้นจากกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก และจะกระทบต่อการส่งเสริมการออมเพื่อการลงทุนที่หลายภาคส่วนกำลังสนับสนุนอยู่ในขณะนี้"นายสถิตย์กล่าว

นอกจากนี้ ควรจะมีการศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสภาพแวดล้อมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกับประเทศอื่นๆ ด้วย เพราะแต่ละประเทศมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่