(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับแนวคิดต่อการลงโทษผู้ข่มขืน

บนโลกของเรา นักข่มขืนเป็นภัยต่อสังคมรูปแบบหนึ่ง แต่ก็เอาเถอะว่า โลกของเรามันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่พวกเราคิดกันหรอก แม้ว่านักข่มขืนจะยังอยู่เพื่อหาเหยื่อที่เป็นผู้หญิงกับผู้ชายบางคน มันก็ต้องมีการใช้แนวคิดต่อการลงโทษมาตรการต่อผู้ที่ข่มขืนกันสักหน่อย เพื่อที่จะได้ทำให้โลกของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น จะมีแนวคิดอะไรบ้างนั้น ลองมาดู 10 อันดับกัน














10.จะต้องขับออกจากสังคมออกไป


พวกเราเองก็ล้วนมีความกดดันทางสังคมบ้าง ความจริงแล้วก็ถือเป็นแนวคิดที่ดีเหมือนกัน ที่บ่อยครั้งจะผู้ข่มขืนมักจะเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม ซึ่งก็ถือเป็นอันตรายอย่างหนึ่งสำหรับภัยใกล้ตัวของพวกเรา ในกรณีตัวอย่างคดีข่มขืนเอง ผู้หญิงล้วนมีความอับอายทางสังคมจนไม่อยากที่จะทำอะไร แล้วทำไมพวกเราถึงไม่ยอมให้ผู้ที่ข่มขืนมีความอับอายต่อสังคมยิ่งกว่าผู้เสียหายบ้างล่ะ













9.จำกัดพื้นที่ทางด้านการงานและอาชีพ


ฟังดูแล้วอาจจะไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับผู้ที่ข่มขืนมากเท่าไร แต่หากผู้ที่ข่มขืนสามารถปรับปรุงตัวเองจนกลายเป็นพลเมืองดีได้ อันนี้เราก็ต้องสนับสนุนเต็มที่ในเรื่องการงานและอาชีพ แต่หากว่าคนที่ยังไม่ยอมปรับปรุงตัวและมีแนวโน้มที่จะกระทำความผิดต่อนี่สิ แล้วเราจะให้โอกาสกับพวกเขาในด้านการงานและอาชีพอย่างนั้นหรือ? จะให้เขามีชีวิตที่ดีกว่าพลเมืองดีทั่วๆไปอย่างนั้นหรือ? ฟังดูแล้วมันไม่ยุติธรรมสำหรับพลเมืองใช่ไหมล่ะ? เราก็ต้องปิดกั้นพื้นที่กับคนเหล่านี้เพื่อที่จะให้พลเมืองดีมีโอกาสทางด้านการงานและอาชีพจะดีกว่า













8.กักขังให้อยู่โดดเดี่ยว


มนุษย์ถือเป็นสัตว์สังคม ซึ่งการอยู่โดดเดี่ยวเป็นเวลานานจะทำให้เรามีปัญหาทางด้านสภาพจิตใจ ฟังดูเหมือนจะเป็นการลงโทษที่ดีต่อผู้ที่ข่มขืนใช่ไหมล่ะ การกักขังอยู่โดดเดี่ยวเป็นอีกทางหนึ่งที่ไม่ทำให้ผู้ต้องหากลับเข้าสู่สังคมได้ ซึ่งเป็นการลงโทษทางด้านจิตใจไปในตัวจากการที่พวกเขาได้กระทำต่อเหยื่อให้อับอาย เสียศักดิ์ศรี













7.ใช้มาตรการลงโทษอย่างแข็งกร้าว


ในประเทศอเมริกานั้น ความผิดต่อการลงโทษผู้ข่มขืนเองก็มีโทษทั้งจำและปรับ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลด้วยว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมอย่างไร มีธรรมชาติในการดำรงชีวิตอย่างไร ซึ่งเป็นการลงโทษในลักษณะที่ยืดหยุ่นและมีช่องโหว่ในเรื่องกฎหมายอยู่พอสมควร ที่ไม่อาจทำให้ผู้ต้องหารู้สึกสำนึกได้ บางทีพวกเราก็ต้องหาแนวคิดที่ใช้มาตรการลงโทษเรื่องนี้แข็งกร้าวบ้างก็ดีเหมือนกัน













6.ลงทะเบียนตราหน้าไปเลยว่า “ผมมันเป็นนักข่มขืนครับ”


ผมคิดว่าแนวคิดนี้ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน ที่ผู้เสียหายเองก็ล้วนอับอายกับการกระทำของผู้ข่มขืน และก็ต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจกันอีกยาว แต่สำหรับนักข่มขืนบางคนก็อาจจะไม่รู้สึกหลาบจำนัก และมีความเป็นไปได้ว่าจะทำพฤติกรรมแบบนี้อีก ก็ลองเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งสำนักลงทะเบียนตราหน้าไปเลยว่า ผมมันเป็นนักข่มขืนครับ ที่ช่วยให้เรารู้ว่าคนนี้เป็นนักข่มขืนและจะทำให้เราระมัดระวังตัวมากขึ้นด้วย













5.เดินแก้ผ้าโชว์ไปเลยดีไหม


จริงๆแล้วพฤติกรรมของนักข่มขืนนั้น จะไม่ค่อยสนใจหรอกว่าผู้หญิงนั้น จะแต่งตัวหวาบหวิวยังไง แต่พวกเขามีแรงขับทางด้านอารมณ์ทางเพศสูงที่ครอบงำให้พวกเขาอยากจะปลดปล่อยความใคร่ตัวเองออกมา ซึ่งพวกเราทุกคนเองก็อยากให้บทเรียนกับคนเหล่านี้ใช่ไหมล่ะ งั้นก็ลงโทษด้วยการเดินแก้ผ้าโชว์ (เป็นแก้ผ้าแบบใส่กางเกงในล่อนจ้อนตัวเดียวนะครับ) เพื่อที่จะได้รู้ว่าคนที่แก้ผ้าเป็นนักข่มขืนแน่ๆ และทำให้สังคมระวังตัวได้ง่ายขึ้น แก้ผ้าขนาดนี้คงวิ่งหนีกันเป็นแถวๆแน่













4.สักบนหน้าผากไปเลยว่า “ผมมันเป็นนักข่มขืนครับ”


แนวคิดนี้เกิดขึ้นจริงในช่วงปี 2006 ที่มีชายคนหนึ่งได้ทำการฆาตกรรมเด็กหญิง 10 ขวบ ซึ่งทางครอบครัวเขาก็ให้ทางเจ้าหน้าที่สักบนหน้าผากว่า “เด็กที่ฆ่าจะทำการแก้แค้นแน่ๆ” ซึ่งทำไมเราไม่ลองเอาแนวคิดนี้ไปใช้บ้างล่ะ สักให้เห็นบนหน้าผากไปเลยว่า ผมมันเป็นนักข่มขืนครับ เพื่อให้สังคมระวังตัวมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม แล้วก็จะทำให้พวกเขาไม่กระทำผิดอีก













3.ติดเครื่องมือสื่อสารบริเวณขาสำหรับนักข่มขืนโดยเฉพาะ


ก็ดีเหมือนกันหากมีการติดเครื่องมือสื่อสารบริเวณขาสำหรับนักข่มขืนโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ใช้กับการข่มขืนเท่านั้น แต่รวมไปถึงอาชญากรรมอื่นๆด้วย เพื่อที่จะทำให้พวกเขากลัวว่าตัวเองกำลังถูกทางการจับตาดูทุกฝีก้าวอยู่ ซึ่งก็พอที่จะช่วยเหลือสังคมสำหรับผู้หญิงได้ดีเหมือนกัน และก็อาจจะบรรเทาปัญหาการข่มขืนสังคมในแต่ละประเทศได้ดี แม้ว่าอาจจะดูมีความซับซ้อนพอสมควรสำหรับการใช้เครื่องมือสื่อสาร แต่เชื่อว่าผลที่ออกมาจะต้องคุ้มค่าแน่ๆ













2.จำคุกตลอดชีวิต


ผมได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศอินเดียแล้วก็น่าตกใจอยู่เหมือนกันว่า นักข่มขืนประมาณ 97 คนจากทั้งหมด 100 คนแทบไม่มีการลงโทษหรือไม่ลงโทษผู้กระทำผิดอะไรเลย เหมือนกับว่าประเทศนี้แทบจะมีการให้ผู้คนสามารถข่มขืนได้อย่างเสรีอยู่แล้วงั้นเหรอ? ก็ไม่ใช่หรอก เพียงแต่กฎหมายเรื่องข่มขืนเขาก็ไม่ได้จริงจังกับการปฏิรูปกฎหมายตรงนี้สักเท่าไร ก็เหมือนกับกฎหมายบ้านเราบางข้อก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องการดำเนินการเอาผิดหรือการลงโทษบ้าง แต่ก็ยังไม่มีใครที่คิดปฏิรูปกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งวิธีง่ายๆหากจะไม่ลงโทษอะไรเลย ก็จำคุกไปตลอดชีวิตเลยจะง่ายกว่า เพราะไม่ต้องตัดสินอะไรมากความ และยิ่งไม่มีการลงโทษอะไรด้วยแล้ว โอกาสที่จะทำอีกครั้งที่ 2 มีสูงมาก













1.ประหารชีวิตสถานเดียว


หากเรามองในเรื่องของความเป็นมนุษย์ก็อาจจะดูโหดร้ายไปสักหน่อย แต่การประหารชีวิตก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นบทลงโทษสูงสุดและก็น่าจะลองใช้กับนักข่มขืนดูบ้าง ซึ่งผมเชื่อว่า ผู้หญิงน่าจะทุกๆคน สนับสนุนให้มีการประหารชีวิตต่อผู้ที่ข่มขืนสถานเดียว จากการทำให้ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหายกระทบกระเทือนทางด้านความคิดจิตใจมากจนถึงขนาดอาจจะฆ่าตัวตายเลยก็ได้ และอาจจะไม่สามารถลืมความเจ็บปวดทางด้านจิตใจนี้ได้ ก็น่าจะลองดูว่า การใช้บทลงโทษสูงสุดอย่างประหารชีวิต จะลดจำนวนอาชญากรรมข่มขืนได้หรือเปล่า


ผู้เขียน Mr.lawrence10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่