อยากจะระบายถึงความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น ...
เมื่อก่อนดิฉันแบบงี่เง่ามาก เอาแต่ใจ ไม่ฟังเหตุผล ไม่มีเหตุผลเลย ไม่พอใจอะไรก็ทะเลาะ แต่ตอนนี้นิสัยพวกนั้นมันหายไปเพราะดิฉันเปลี่ยนเพื่อความสุข ดิฉันเปลี่ยนตัวเองแบบจนไม่เป็นตัวเอง เปลี่ยนพื่อนคนที่ฉันรักมากขนาดนี้เลยหรอ เหตุการณ์เกิดจากวันนี้แฟนดิฉันมีเรื่องงานเครียดๆเข้ามา ดิฉันก็ได้แต่พูดเป็นกำลังใจ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ พอตกเย็นเกือบ6โมงจะทุ่มแล้วค่ะ ดิฉันโทรหาแฟนจะถามว่าอยู่ไหน เค้ารับสาย ดิฉันคิดคงว่าคุยโทสับอีกตามเคย เพราะแฟนดิฉันเวลาขับรุกลับบ้านชอบโทคุยเรื่องงานกับพี่ๆที่ทำงาน แต่เส้นทางที่แฟนดิฉันขับมันเปนถนนสวนทางกัน ไม่มีไฟเลยค่ะ นอกจากไฟรถ ต้องขับเส้นทางแบบนี้เกือบทุกวัน อีกมือถือโทสับ อีกมือจับพวงมาลัย ประเด็นนี้ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกโมโห แล้วทักไปในไลน์ว่า "คุยโทสับระหวาางขับรถอีกแล้ว ทำไม่ไม่จอดคุยหรือกลับมาคุยที่บ้าน ก็รู้ว่าเรื่องงานแต่นี้มันหมดวันแล้วควรพักบ้างนะ เป็นห่วงเรื่องขับรถ" แล้วดิฉันก็ลองโทหาอีกสายค่ะ เค้ารับก็สวนมาเลยว่สก็คุยโทสับกับพี่ที่ทำงานอยู่ ดิฉันก็เลยบอกไปว่า แล้วขับรถอยู่กลับมาคุยที่บ้านหรือจอดดิ มันมืด อันตราย ... แต่เหตุผลเค้าก็บอกึำเดียวว่า งาน งาน ดิฉันเลยบอกว่า ทุกวันที่ขับรถกลับบ้านเห็นคุยแต่โทสับทุกวัน พอเราเตอหน้ากันประโยคแรกที่เค้าบอกคือ ขอคุยไรด้วยหน่อย ตัด้รื่องงานไป แยกประเด็น เค้าบอกก็โทสับก็คุยระหว่างจับรถมานานแระ มันจะอารายอีก ดิฉันก็บอกไปว่า เปนห่วงเรื่องขับรถ เหนวันๆต้องขับแต่รถ แล้วมันมืดอันตราย วางบูทูลให้ก็ไม่เคยเอาไปใช้ เค้าก็พูดมาทันทีว่า งาน ก็คุยงาน ดิฉันเบื่อกับเหตุผลนี้ค่ะ ดิฉันใกล้ชิดเค้าดีสุดและจะรู้ว่าเวลาเค้าคุยกับพี่ที่ทำงานจะคุยแบบไหน คุยงานจริงแต่มันไม่มีอะไร เอาไว้คุยตอถึงบ้านก็ได้... เราทะเลาะกันบนีถจนถึงบ้าน เค้าเดินเข้าบ้านไปแต่ดิฉันไม่ทราบหลอกนะค่ะว่าเค้าไปบอกแม่เค้าว่าอะไร ดิฉันเลยนั่งคิดทบทวนเรื่องราวบนรถว่าเจตนาดิฉัน คือ เป็นห่วง มันผิด

อค่ะ แต่เค้าคิดว่าดิฉันวุ่นวาย ดิฉันนั่งมองการกระทำตัวเองว่ามันเหนื่อยเกินไปหรือป่าวกับการพยามทำเพื่อคนๆนึงมากไปแบบนี้ ภาพเหตุการณ์ใันย้อนมาดิฉันซื้อเคเอฟซีมารอเค้า เห็นเค้าหิว ดิฉันให้กำลังใจเค้า คอยช่วยเค้าเป็นที่ระบายให้เค้า ย้อนกลับไปมะวานเห็นเค้าเหนีอย เอาย้ำอุ่นมาแช่เท้าเค้าให้ นวดฝ่าเท้า นวดตัวเค้า ที่ทำไปก็เพราะอยากทำให้เค้า แต่พอเจอเรื่องราววันนี้ ดิฉันกลับมามองตัวเองว่าดิฉัน ผิดอะไร ทำไมนิสหน่อย ความเป็นห่วง หวังดีเค้ากลับมองข้ามไป ...... เค้ามองแต่ตัวเอง คนอื่นมายุ่งกับเค้าไม่ได้เลย แต่เค้ามีสิดไปยุ่งกับคนอื่น
ดิฉันเหนื่อย ดิฉันทำดีที่สุดแล้ว และไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนได้ขนาดนี้
เค้ามองข้ามจุด ความเป็นห่วงที่เราให้ ....
เมื่อก่อนดิฉันแบบงี่เง่ามาก เอาแต่ใจ ไม่ฟังเหตุผล ไม่มีเหตุผลเลย ไม่พอใจอะไรก็ทะเลาะ แต่ตอนนี้นิสัยพวกนั้นมันหายไปเพราะดิฉันเปลี่ยนเพื่อความสุข ดิฉันเปลี่ยนตัวเองแบบจนไม่เป็นตัวเอง เปลี่ยนพื่อนคนที่ฉันรักมากขนาดนี้เลยหรอ เหตุการณ์เกิดจากวันนี้แฟนดิฉันมีเรื่องงานเครียดๆเข้ามา ดิฉันก็ได้แต่พูดเป็นกำลังใจ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ พอตกเย็นเกือบ6โมงจะทุ่มแล้วค่ะ ดิฉันโทรหาแฟนจะถามว่าอยู่ไหน เค้ารับสาย ดิฉันคิดคงว่าคุยโทสับอีกตามเคย เพราะแฟนดิฉันเวลาขับรุกลับบ้านชอบโทคุยเรื่องงานกับพี่ๆที่ทำงาน แต่เส้นทางที่แฟนดิฉันขับมันเปนถนนสวนทางกัน ไม่มีไฟเลยค่ะ นอกจากไฟรถ ต้องขับเส้นทางแบบนี้เกือบทุกวัน อีกมือถือโทสับ อีกมือจับพวงมาลัย ประเด็นนี้ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกโมโห แล้วทักไปในไลน์ว่า "คุยโทสับระหวาางขับรถอีกแล้ว ทำไม่ไม่จอดคุยหรือกลับมาคุยที่บ้าน ก็รู้ว่าเรื่องงานแต่นี้มันหมดวันแล้วควรพักบ้างนะ เป็นห่วงเรื่องขับรถ" แล้วดิฉันก็ลองโทหาอีกสายค่ะ เค้ารับก็สวนมาเลยว่สก็คุยโทสับกับพี่ที่ทำงานอยู่ ดิฉันก็เลยบอกไปว่า แล้วขับรถอยู่กลับมาคุยที่บ้านหรือจอดดิ มันมืด อันตราย ... แต่เหตุผลเค้าก็บอกึำเดียวว่า งาน งาน ดิฉันเลยบอกว่า ทุกวันที่ขับรถกลับบ้านเห็นคุยแต่โทสับทุกวัน พอเราเตอหน้ากันประโยคแรกที่เค้าบอกคือ ขอคุยไรด้วยหน่อย ตัด้รื่องงานไป แยกประเด็น เค้าบอกก็โทสับก็คุยระหว่างจับรถมานานแระ มันจะอารายอีก ดิฉันก็บอกไปว่า เปนห่วงเรื่องขับรถ เหนวันๆต้องขับแต่รถ แล้วมันมืดอันตราย วางบูทูลให้ก็ไม่เคยเอาไปใช้ เค้าก็พูดมาทันทีว่า งาน ก็คุยงาน ดิฉันเบื่อกับเหตุผลนี้ค่ะ ดิฉันใกล้ชิดเค้าดีสุดและจะรู้ว่าเวลาเค้าคุยกับพี่ที่ทำงานจะคุยแบบไหน คุยงานจริงแต่มันไม่มีอะไร เอาไว้คุยตอถึงบ้านก็ได้... เราทะเลาะกันบนีถจนถึงบ้าน เค้าเดินเข้าบ้านไปแต่ดิฉันไม่ทราบหลอกนะค่ะว่าเค้าไปบอกแม่เค้าว่าอะไร ดิฉันเลยนั่งคิดทบทวนเรื่องราวบนรถว่าเจตนาดิฉัน คือ เป็นห่วง มันผิด
ดิฉันเหนื่อย ดิฉันทำดีที่สุดแล้ว และไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนได้ขนาดนี้