จากกระทู้
http://www.pantip.com/topic/32158643
ความเดิมจากตอนที่แล้ว หลังเจอสุนัขตาบอดสำรวจถนนอยู่นานหน้าปากซอยสุดสงวน ราชวัตร และพากลับบ้านมาหาหมอหมา เรารู้สึกว่าเจ้านี่ควรมีชื่อเรียก เลยตั้งชื่อนามสมมติว่า "กัสกัส"
แรกพบสบตา : สังเกตง่ายสุดคือตาบอดสนิททั้งสองข้าง เล็บเท้ายาวเหยียด ขาหลังอ่อนแรง ตามตัวเป็นขี้เรื้อนนิดๆ ฉี่เป็นเลือด
หลังพบคุณหมอ : เกล็ดเลือดต่ำ 50% ของเลือดทั้งหมด เป็นโรคผิวหนังจนต้องโกนหมดตัว(อันนี้แอบรู้สึกผิดเล็กๆที่ทำน้องเสียโฉม

) เดาอายุประมาณ 5-8 ปี ส่วนฉี่เป็นเลือดคุณหมอบอกว่าไม่พบการผิดปกติของอวัยวะ อาจเพราะน้องติดสัด
ระหว่างช่วงเวลาตามหาบ้าน พวกเราต้องพาน้องไปหาคุณหมอทุกวันเพื่อรมยา เนื่องจากตัดขนแล้วเป็นหวัด เพราะนางเอาแต่นอนหงายท้องตากพัดลมทั้งวัน ติดแฟนพี่สาวมาก เดินตามตลอด และโกรธแมวตลอดเวลา ได้กลิ่นแล้วเห่ากระจาย วิ่งกระจุยลุยแหลก ลืมไปเลยว่าตาบอด
ผ่านไป 3 วันไร้เจ้าของโทรตาม ไร้วี่แวว เราเลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงกัสๆ ไว้เป็นหมาเราเอง เพราะเริ่มจะรักในความมารยาทงามกว่าสัตว์เลี้ยงทั้งปวงในบ้าน แต่อีกใจก็รู้สึกผิดชอบชั่วดีนิดๆ ที่จะตู่เอาหมาคนอื่นมาเป็นของตัวเอง เลยโทรไปหาพี่นัน พี่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าปากซอย พี่นันบอกว่าไม่มีใครมาตามหาชิสุอ้วนนี่เลย เดี๋ยวพี่นันจะพยายามเดินตามหาเจ้าของให้นะจ้ะ
จนวันศุกร์ที่ผ่านมา พี่นันโทรมาบอกเราว่าเจอเจ้าของกัสๆแล้ว อยู่ซอยถัดไป คืนนั้นเราเลยตัดสินใจบุก!!!!
แว้บแรกเจอเจ้าของที่แท้จริง
เจ้าของมีท่าทีระแวงเรามาก อาจเพราะ แฟนพี่สาวเป็นผู้ทอมร่างยักษ์ สักเต็มตัว ส่วนเราเป็นผู้หญิงหน้าเหวี่ยง แถมสักไม่ต่างกัน

เจราจากันพักใหญ่ ป้าปูและลุงโอยังไม่คลายความระแวง (นี่ไม่ได้มากรรโชกทรัพย์น๊าาา~)
เราเลยตัดสินใจอุ้มกัสๆมาให้ดูดีกว่า ผลตอบรับที่ได้คือ

คุณป้าและคุณลุงดีใจมาก และขอบคุณเรายกใหญ่ คุณป้าปูบอกกับเราว่า ป้าร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับสักคืนโดยเฉพาะลูกชาย เพราะแฟนเก่าของลูกชายเป็นคนซื้อ "เบนโตะ" (ชื่อแสนจะไฮโซว) ให้ตั้งแต่สมัยเรียน ม.6 (สรุปเจ้ากัสๆหรือเบนโตะอายุมากถึง 18 ปี!!!)
ป้าบอกว่าเบนโตะ งอน เพราะถูกลุงโอดุไม่ให้ตะกุยประตู นางเลยหนีออกจากบ้านดีกว่า และที่ไม่ไว้ใจเราเพราะว่าแกโดนมิจฉาชีพหลอกมาแล้วถึง 2 ครั้ง เดินลุยหาตามที่คนอื่นโทรมาบอกกว่า 10 กิโล และด้วยลุคของเรา ป้ายอมรับว่าป้าระแวงเรามาก พอรู้ว่าพวกเราไม่ได้หลอกเค้าจริงๆ ลุงกับป้าให้พรพวกเรายาวเหยียด ขอบคุณมากๆเลยค่าา
สรุปเจ้ากัสๆ หรือเบนโตะ ได้กลับสู่อ้อมอกเจ้าของอย่างปลอดภัย แม้พวกเราจะใจหาย และแอบคิดถึงมันมากแค่ไหน แต่เราก็ดีใจมาก ที่ได้คืนมันไปหาเจ้าของ และดีใจที่ป้าและลุงรักเบนโตะมาก (สงสัยว่ารู้ได้ยังไงละซิ๊ ที่รู้เพราะนางมีพี่เลี้ยงด้วยนะ คอยดูแล เช้ากินอาหารเม็ด เย็นกินอาหารเปียก ระหว่างวันมีขนมขบเคี้ยว และที่สำคัญนางนอนห้องแอร์ทั้งวัน สบายเชียววว~)
เป็นอันว่าการเดินทางของชิสุตาบอด จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ปิ๊ง

ปล.เค้าขอโทษเขียนยาวไปนิด แต่เค้าอยากเล่ามากกว่านี้อีกนะ พูดเลย

แถมท้ายด้วยรูป และ *ขอขอบคุณคุณหมอโรงบาลสัตว์ตรงข้ามโลตัสบางปะกอก คุณหมอน่ารักมาก ใจดีที่สุด *ขอบคุณพี่นัน พี่ยามหน้าซอยสุดสงวน พี่เป็นคนดีมาก ทั้งๆที่พี่มีสิทธิ์ที่จะละเลยความช่วยเหลือจากเราได้ แต่พี่ช่วยพวกเราเต็มที่ *ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกคำแนะนำ ทุกความช่วยเหลือช่วยแชร์ของเพื่อนๆ และลูกเพจกูลติ่ง ขอบคุณมากค่าาา
การเดินทางของชิสุตาบอด
http://www.pantip.com/topic/32158643
ความเดิมจากตอนที่แล้ว หลังเจอสุนัขตาบอดสำรวจถนนอยู่นานหน้าปากซอยสุดสงวน ราชวัตร และพากลับบ้านมาหาหมอหมา เรารู้สึกว่าเจ้านี่ควรมีชื่อเรียก เลยตั้งชื่อนามสมมติว่า "กัสกัส"
แรกพบสบตา : สังเกตง่ายสุดคือตาบอดสนิททั้งสองข้าง เล็บเท้ายาวเหยียด ขาหลังอ่อนแรง ตามตัวเป็นขี้เรื้อนนิดๆ ฉี่เป็นเลือด
หลังพบคุณหมอ : เกล็ดเลือดต่ำ 50% ของเลือดทั้งหมด เป็นโรคผิวหนังจนต้องโกนหมดตัว(อันนี้แอบรู้สึกผิดเล็กๆที่ทำน้องเสียโฉม
ระหว่างช่วงเวลาตามหาบ้าน พวกเราต้องพาน้องไปหาคุณหมอทุกวันเพื่อรมยา เนื่องจากตัดขนแล้วเป็นหวัด เพราะนางเอาแต่นอนหงายท้องตากพัดลมทั้งวัน ติดแฟนพี่สาวมาก เดินตามตลอด และโกรธแมวตลอดเวลา ได้กลิ่นแล้วเห่ากระจาย วิ่งกระจุยลุยแหลก ลืมไปเลยว่าตาบอด
ผ่านไป 3 วันไร้เจ้าของโทรตาม ไร้วี่แวว เราเลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงกัสๆ ไว้เป็นหมาเราเอง เพราะเริ่มจะรักในความมารยาทงามกว่าสัตว์เลี้ยงทั้งปวงในบ้าน แต่อีกใจก็รู้สึกผิดชอบชั่วดีนิดๆ ที่จะตู่เอาหมาคนอื่นมาเป็นของตัวเอง เลยโทรไปหาพี่นัน พี่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าปากซอย พี่นันบอกว่าไม่มีใครมาตามหาชิสุอ้วนนี่เลย เดี๋ยวพี่นันจะพยายามเดินตามหาเจ้าของให้นะจ้ะ
จนวันศุกร์ที่ผ่านมา พี่นันโทรมาบอกเราว่าเจอเจ้าของกัสๆแล้ว อยู่ซอยถัดไป คืนนั้นเราเลยตัดสินใจบุก!!!!
แว้บแรกเจอเจ้าของที่แท้จริง
เจ้าของมีท่าทีระแวงเรามาก อาจเพราะ แฟนพี่สาวเป็นผู้ทอมร่างยักษ์ สักเต็มตัว ส่วนเราเป็นผู้หญิงหน้าเหวี่ยง แถมสักไม่ต่างกัน
เราเลยตัดสินใจอุ้มกัสๆมาให้ดูดีกว่า ผลตอบรับที่ได้คือ
คุณป้าและคุณลุงดีใจมาก และขอบคุณเรายกใหญ่ คุณป้าปูบอกกับเราว่า ป้าร้องไห้ทุกวัน นอนไม่หลับสักคืนโดยเฉพาะลูกชาย เพราะแฟนเก่าของลูกชายเป็นคนซื้อ "เบนโตะ" (ชื่อแสนจะไฮโซว) ให้ตั้งแต่สมัยเรียน ม.6 (สรุปเจ้ากัสๆหรือเบนโตะอายุมากถึง 18 ปี!!!)
ป้าบอกว่าเบนโตะ งอน เพราะถูกลุงโอดุไม่ให้ตะกุยประตู นางเลยหนีออกจากบ้านดีกว่า และที่ไม่ไว้ใจเราเพราะว่าแกโดนมิจฉาชีพหลอกมาแล้วถึง 2 ครั้ง เดินลุยหาตามที่คนอื่นโทรมาบอกกว่า 10 กิโล และด้วยลุคของเรา ป้ายอมรับว่าป้าระแวงเรามาก พอรู้ว่าพวกเราไม่ได้หลอกเค้าจริงๆ ลุงกับป้าให้พรพวกเรายาวเหยียด ขอบคุณมากๆเลยค่าา
สรุปเจ้ากัสๆ หรือเบนโตะ ได้กลับสู่อ้อมอกเจ้าของอย่างปลอดภัย แม้พวกเราจะใจหาย และแอบคิดถึงมันมากแค่ไหน แต่เราก็ดีใจมาก ที่ได้คืนมันไปหาเจ้าของ และดีใจที่ป้าและลุงรักเบนโตะมาก (สงสัยว่ารู้ได้ยังไงละซิ๊ ที่รู้เพราะนางมีพี่เลี้ยงด้วยนะ คอยดูแล เช้ากินอาหารเม็ด เย็นกินอาหารเปียก ระหว่างวันมีขนมขบเคี้ยว และที่สำคัญนางนอนห้องแอร์ทั้งวัน สบายเชียววว~)
เป็นอันว่าการเดินทางของชิสุตาบอด จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ปิ๊ง
ปล.เค้าขอโทษเขียนยาวไปนิด แต่เค้าอยากเล่ามากกว่านี้อีกนะ พูดเลย
แถมท้ายด้วยรูป และ *ขอขอบคุณคุณหมอโรงบาลสัตว์ตรงข้ามโลตัสบางปะกอก คุณหมอน่ารักมาก ใจดีที่สุด *ขอบคุณพี่นัน พี่ยามหน้าซอยสุดสงวน พี่เป็นคนดีมาก ทั้งๆที่พี่มีสิทธิ์ที่จะละเลยความช่วยเหลือจากเราได้ แต่พี่ช่วยพวกเราเต็มที่ *ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกคำแนะนำ ทุกความช่วยเหลือช่วยแชร์ของเพื่อนๆ และลูกเพจกูลติ่ง ขอบคุณมากค่าาา