เรื่องเล่าจากผู้หญิงที่เคยเป็นเมียน้อย

สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้ข้อคิด
สำหรับคนที่กำลังตกที่นั่ง หรือกำลังคิดอยากจะเป็น "เมียน้อย"

ฉันรู้จักกับเขา โดยผ่านทางอินเตอร์เนต
ผ่านทางเวบไซต์ ที่ไม่ดีเวบหนึ่ง
ตอนนั้นฉันเพิ่ง22 ฉันหน้าตาไม่ถึงกับสวยมาก
แต่ก็มีหลายๆคนจีบ และชมว่าฉันน่ารัก
ฉันมีการศึกษามหาวิทยาลัยที่ดี
แต่ฉันก็เลือกทางเดินบางอย่างที่ไม่เข้าท่า
อาจด้วยเพราะหลายๆเหตุผล ซึ่งฉันจะไม่พูดถึง
และไม่ขอพาดพิงใครๆทั้งสิ้น

เขาอายุเป็นพ่อฉันได้ เขาใจดีและดูแลฉันในทุกๆเรื่อง
แน่นอนต้องมีเรื่องเงินด้วย
แต่นอกเหนือจากเรื่องเงิน เขาก็ให้คำปรึกษาฉันได้ดีเช่นกัน
เราเข้ากันดีในทุกๆเรื่อง

เขามีเมียแล้ว และมีลูก2คน
เขาบอกฉันว่า อยู่กับเมียแบบเพื่อน
ไม่ค่อยได้นอนด้วยกัน บางวันแทบไม่คุยกัน
ฉันไม่เชื่อทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
เพราะสิ่งต่างๆที่ฉันได้จากเขา มันทำให้มีความสุขมาก
จนไม่อยากจะคิดเรื่องอื่น
เวลาที่ฉันอยู่กับ รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
จนบางครั้งฉันแอบคิด เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้

เราคบกันแบบแฟน เจอกันอาทิตย์ละ2-3ครั้ง
มีอะไรกันบ้าง บางทีไปเที่ยวเฉยๆ
ฉันได้ทุกอย่างที่อยากได้ ไม่ว่าจะทะเลาะอะไร
เขายอมฉันทุกอย่าง แค่ฉันบอกว่าอยากไปที่ไหน เขาพาฉันไปทุกครั้ง
เขายอมให้ฉันเชคโทรศัพท์ อีเมล
เราคุยโทรศัพท์กัน ทุกวัน เช้ากลางวันเย็นก่อนนอน
จนฉันเผลอคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเค้าคงรักฉันจริงๆ
และอาจมีสักวันที่เขาพร้อมจะจัดการกับเรื่องที่บัาน
และมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

จากที่ไม่ค่อยคิดอะไรมาก
ฉันเริ่มคิดเยอะขึ้น กลับบ้านไปเขาจะมีอะไรกับเมียเขาไหม
วันที่บอกไปธุระ กำลังมีความสุขอยู่กับครอบครัวเขาอยุ่หรือเปล่า
บางครั้งที่ฉันน้อยใจร้องไห้ เค้าจะพยายามให้เวลาฉันมากขึ้น
เอาใจฉันมากขึ้น แน่นอนยิ่งทำให้ฉันรักเขา
แต่สิ่งที่เขาไม่สามารถให้ฉันได้คือ
การนอนค้างกับฉันในตอนกลางคืน
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องกลับบ้าน เขาโกหกเมียไม่ได้
เขาไม่สามารถพาฉันไปแนะนำให้เพื่อนๆญาติพี่น้องของเขาได้
ฉันอยู่แบบไม่มีตัวตน
เพื่อนฉันรับรู้ว่าฉันมีแฟน. แต่ไม่เคยเจอแฟนของฉัน
ฉันจะให้เจอได้ยังไง  พวกเขารุ้แน่ว่าฉันอยุ่ในฐานะอะไร

ทุกครั้งที่ฉันเห็นเพื่อนๆมีความสุขกับแฟน
ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน มอบเพลงรักหวานๆ
พวกเขาไม่สวยไม่หล่อ ไม่ได้มีเงินมากมาย
แต่ดูมีความสุขกันมากมายเหลือเกิน

ฉันเหรอ..? ฉันก็มีความสุข
แต่แบบครึ่งๆกลางๆไม่เต็มหัวใจ
ฉันแต่งตัวสวยทุกวัน กินอาหารดีๆตลอด
แต่เมื่อกลับบ้านมามันอ้างว้างจนบอกไม่ถูก
หลายครั้งฉันถามเขาว่ารักฉันไหม เขาตอบว่ารัก
ฉันถามว่า. รักแล้วทำไมมาใช้ชีวิตด้วยกันไม่ได้
เขาก็จะเงียบทุกครั้ง
ทุกครั้งที่ฉันบอกรักออกมาจากหัวใจ
แม้เขาจะได้ยินแต่มันคงไม่ถึงหัวใจของเขา

ฉันอยู่กับความสัมพันธ์แบบนี้4ปี
สบายกายแต่ไม่สบายใจ
ไม่เคยเรียกเขาว่าแฟนได้อย่างเต็มปาก
ไม่เคยฟังเพลงแลัวซึ้งกับคำว่ารักได้อย่างล้นหัวใจ
ไม่เคยเห็นภาพในอนาคตร่วมกัน
ฉันเพิ่งเข้าใจสิ่งที่คนเขาพูดกันว่า
ตกนรก คืออะไร
มันคือนรกในใจ มองเผินๆฉันเป็นผู้หญิงที่ดูเพียบพร้อมด้วยสิ่งดีๆ
แต่ความจริงไม่มีใครรู้

ปัจจุบันฉันจบกับเขาแล้ว ซึ่งเหตุผลอะไรฉันไม่ขอพูดถึง
อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้จะไม่พาดพิงใครๆทั้งสิ้น
ฉันอยากเล่าในมุมมองของฉัน และอยากบอกหลายๆคน
ที่กำลังเป็นเหมือนกัน
แรกๆฉันก็ไม่ได้คิดจริงจังกับเขามาก
แต่พออยู่ๆไป มันมีความรัก ความผูกพัน สิ่งดีๆร่วมกัน
ที่นอกเหนือจากเรื่องเงินและเรื่องเซ็กส์
แต่เมื่อจุดเริ่มต้นไม่ดี มันไม่มีทางจบสวย
ฉันรู้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ดีมาก และยังรู้สึกผิดต่อเมียเขาจนถึงตอนนี้

สุดท้ายฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง ที่อยากจะมีความรักดีๆ
พร้อมที่จะมอบหัวใจให้ใครสักคนที่เขาคอยดูแลเรา
แต่ด้วยความโง่และเห็นแก่ตัวของตัวเอง
มันย้อนกลับมาทำร้ายหัวใจตัวฉันเอง
ฉันไม่โทษใครแม้แต่ตัวเขา
ฉันไม่ได้คิดว่าที่เล่ามาจะเรียกร้องให้ใครเห็นใจ
หรือใครอยากจะคิดเกลียดชังฉัน มันก็คงถูกแล้ว
ฉันแค่อยากบอกว่า
ไม่ว่าผู้ชายจะมีใคร สุดท้ายเขาจะเลือกครอบครัว
ถ้าเขาคิดเลือกคุณ เขาจะให้เกียรติคุณ
เขาจะภูมิใจกับการบอกใครต่อใคร ว่านี่คือแฟนผม

ยกตัวอย่าง คุณเอ๋-เจนี่
ฉันไม่รู้ว่าเรื่องจริงก่อนหน้าของพวกเขาคืออะไร
แต่ฉันชื่นชมคุณเอ๋ เขาให้เกียรติเจนี่
เขาทนไม่ได้ถ้าคนอื่นๆต้องมาดูถูกเจนี่
ก่อนหน้านี้เรื่องของเขาคือยังไงฉันไม่ทราบ
แต่ฉันคิดว่าผู้ชายที่ดีเมื่อตัดสินใจแล้วควรทำทุกอย่างให้ถูกต้องชัดเจน

อย่าเชื่อคำพูดผู้ชาย เขาพูดว่า อยู่กับเมียแบบเพื่อนไม่ค่อยคุยกัน
อยู่เพื่อลูก ฯลฯ แน่นอนถ้าเขาพูดว่าครอบครัวเขารักกันปกติดี
คุณคงหมดหวังในตัวเขาแต่แรก และไม่อดทนคบกับเขาหรอก
อย่าฟังคำพูดแต่ให้ดูการกระทำ
อย่าให้เขาหลอก หรือแม้แต่คุณหลอกตัวเอง
ว่าทุกๆวันนี้คบกันแบบนี้ก็มีความสุขมากแล้ว
คุณแน่ใจหรือเปล่าล่ะ..?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
จะสงสารมันก็ไม่สุด เหมือนคุณทำตัวเองส่วนนึง
สมน้ำหน้านิดหน่อยด้วย รู้ว่าเค้ามีลูก มีเมียยังจะเอาอีก
แต่ทั้งหมดทั้งปวงช่างมัน เรื่องมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ชีวิตต้องก้าวต่อไปข้างหน้า
ขออวยพรให้ไปมีชีวิตใหม่ที่ดีๆ แล้วอย่าเดินพลาดแบบนี้อีก

ส่วนเรื่องเอ๋-เจนนี่เราขอเห็นต่างนิดนึงนะ
เราสงสารลูกคุณเอ๋กับคุณตู่ที่สุด โดนคนใกล้ตัวลอบกัด
ให้ไปชื่นชมผู้ชายที่ทำร้ายลูก-เมียนี่ทำไม่ได้จริง จะอ้วก
ความคิดเห็นที่ 4
นานมาแล้ว ผมเคยไปนั่งคุยงานกับลูกค้าที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง..
ลูกค้าก็พาเมียน้อยของเขามาด้วย ฝั่งผมไปกับเพื่อนร่วมงานสองสามคน  เพื่อนผมก็คุยเอ็นเตอร์เทนลูกค้าไป
ผมนั่งติดอยู่กับเมียน้อยของลูกค้า  ก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรด้วยมาก เพราะไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาชวนเธอคุยดี  
เธอก็ทำหน้าที่ชงเหล้า ดูแลอาหารการกินให้ลูกค้าของผมไป

ผ่านไปสามสองสามชั่วโมง จนเช็คบิลเพื่อจะแยกย้ายกันกลับ
ก็เริ่มลุกขึ้นยืนและทะยอยเดินออกจากโต๊ะอาหารกันไป  
ลูกค้าผม เดินออกไปโดยไม่ได้หันมาดู หรือหันมาเทคแคร์อะไรเมียน้อยของเขา
ผมก็ลุกขึ้น และผายมือบอกให้เธอเดินออกไปก่อน  ระหว่างที่เธอกำลังเดินผ่านหน้าผมไปนั้น

ประโยคหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมเลยก็คือ เธอพูดขึ้นมาลอยๆคนเดียว เบาๆ ขณะที่กำลังเดินผ่านผมออกไปว่า..

"ชีวิตนี้นอกจากนั่งชงเหล้า และให้มันเอาแล้ว  จะได้มีโอกาสได้เป็นภรรยาออกหน้าออกตา เหมือนกับที่ผู้หญิงดีๆเค้าได้กันหรือไม่ ก็ไม่รู้"

เธอเดินผ่านผมไปด้วยสีหน้าและแววตาแบบที่เศร้ามากๆ

แต่ก็นั่นแหละ  สุดท้ายทุกคนทุกชีวิตล้วนมีทางเลือก
เพียงแต่ เลือกที่จะเลือก หรือ เลี่ยงที่จะไม่เลือก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่