ลาก่อน มะเร็งที่รัก



โลกของครอบครัวเราเหมือนถูกยักษ์ร้ายพังทลาย เมื่อได้ข่าวว่าแม่เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 ซึ่งเป็นโรคร้ายที่ฆ่าผู้หญิงเป็นอันดับต้นๆของโลก พวกเราทำใจแล้วว่าการรักษาโรคของแม่นั้นเต็มที่คงทำได้แค่ประคับประคองอาการ เราจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตอยู่กับนาฬิกาที่เดินถอยหลังอย่างดีที่สุด อาจจะ 2 ปี 4 ปี หรือถ้าโชคเข้าข้างอาจจะ 10 ปี อย่างน้อยเราก็ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น

แต่บนโลกนี้มีเรื่องไม่คาดฝันเสมอ เมื่อการรักษาผ่านไป 1 ปีเต็ม ในวันที่กระบวนการรักษาทุกอย่างถูกงัดออกมาใช้อย่างเต็มที่ หลังจากตรวจครั้งล่าสุด คุณหมอแจ้งข่าวกับครอบครัวเราว่า “มะเร็งของคุณแม่ หายแล้วนะคะ ในร่างกายคุณแม่ ไม่มีเนื้อร้ายอีกต่อไปแล้ว” วินาทีที่ผมได้ยินแทบทรุด ถึงแม้โลกจะพังทลายกลายเป็นเศษซากขนาดไหน แต่มนุษย์เก่งกว่าเสมอ เราเอาชนะความตายไม่ได้ แต่โรคร้ายก็ถูกปราบให้ศิโรราบได้ด้วยวิทยาศาสตร์การการแพทย์ สงครามสู้ชีวิตระหว่างแม่กับมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 จบลงแล้ว กรรมการตัดสินอย่างเด็ดขาดว่าใครเป็นผู้ชนะในวันนี้

ขอบพระคุณคุณหมอและพยาบาลจากโรงพยาบาลศิริราช ผมรู้ว่าพวกท่านทำงานกันเหนื่อยมากๆ เสียสละสุดๆ แต่ท่านก็ยังทำสุดความสามารถ ยิ้มแย้มและช่วยเหลือคนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน ผมขอกราบขอบพระคุณจากใจจริงๆครับ ครอบครัวเราเป็นหนี้บุญคุณโรงพยาบาลแห่งแผ่นดินนี้แล้ว

ใช่ครับ แม่ผมรักษาแล้วหายขาด แต่รอยยิ้มของแม่ มันทำให้ผมคิดถึงรอยยิ้มที่แสนเศร้าของพี่ผู้หญิงคนนึง

ตอนที่แม่ของผมเริ่มรักษา ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งคาดด้วยสายตาน่าจะเป็นรุ่นน้องแม่ผมราวๆ 10 ปี เธอป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเหมือนกัน ตำแหน่งเดี่ยวกัน ระยะเดียวกัน รักษาพร้อมกัน แต่ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน…!!! แม่ผมหายดีในขณะที่พี่ผู้หญิงอีกคนทรุดเอาทรุดเอา แน่นอน ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แน่ชัด แต่จากที่ผมได้อยู่กับแม่ และคุยกับพี่ผู้หญิง ผมค้นพบว่าความเชื่อมั่นในอนาคต และทัศนคติระหว่างแม่ผมกับพี่ผู้หญิงต่างกันชัดเจน

กำลังใจแม่ผมเหมือนปรอทที่วิ่งจนเต็มพิกัด ในขณะที่พี่ผู้หญิงพูดแต่เรื่องที่สะท้อนความหดหู่ของตัวเอง

แม่ผมเชื่อมั่นว่ายังไงก็ต้องหาย ยังไงก็ต้องรอด ยังไงก็ต้องชนะโรคร้าย ส่วนพี่ผู้หญิงไม่มีความเชื่อมั่นใดๆ ผมอยากช่วยเธอเหลือเกิน ผมเลยเล่าเรื่องคนที่หายจากมะเร็งมาให้ฟังหวังว่ามันจะทำให้เธอมีกำลังใจ เปล่าเลย ผมเหนื่อยเปล่า ทุกครั้งที่เล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับคนที่หายด้วยมะเร็ง พี่ผู้หญิงก็มักจะหาเหตุผลโต้แย้งกลับมาด้วยหลักการที่เหนือว่าทั้งวิทยาศาสตร์และความเชื่อใดๆทั้งนั้น เธอมีเป็นร้อยเหตุผลที่จะบอกว่ายังไงเธอก็คงไม่รอด ใช่แล้ว เธอพูดแต่เรื่องรักษาไม่หาย เธอไม่มีแม้แต่ความหวังอันสวยงามในจินตนาการของเธอ

ทุกคนต่างลุ้นเอาใจช่วยให้เธอหายจากมะเร็ง ยกเว้นตัวเธอเพียงคนเดียว…!!!

ตอนที่การรักษาของแม่ผมดำเนินไป แม่ผมใช้ชีวิตเหมือนปรกติเหมือนคนที่ไม่ได้ป่วย กิน เที่ยว อ้วก เล่นหวย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอมีคนมานำเสนอยาสมุนไพรรักษามะเร็งราคาแพง แม่ผมก็ปฏิเสธลูกเดียว บางครั้งเจอคำขู่จากพวกฉวยโอกาสหวังฟันเงินจากคนที่อ่อนแอด้วยยาที่ราคาสุดโหด ว่าถ้ารักษาแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียวตายนะ ถ้าไม่กินยาของเขาไม่รอดนะ แต่แม่ผมก็ใจแข็ง และขอเดิมพันชีวิตทั้งชีวิตไว้ที่การรักษาแผนปัจจุบันเพียงอย่างเดียว ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมเลยตัดสินใจถามหมอเจ้าของไข้ของแม่ว่าไอ้ยาที่ว่านั้นมีด้วยเหรอ มันสามารถรักษามะเร็งได้จริงๆหรือเปล่า ทันทีที่หมอฟังคำถามจบ หมอหัวเราะก๊าก พร้อมกับพูดว่า “ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นแม่หมอ หมอไม่ให้กิน” คำตอบของหมอเป็นอันจบปริศนาเรื่องยาสมุนไพร

ผมขอฟันธงและยินยันว่าแม่ผมหายจากการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน 100% แต่แพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียวคงไม่อาจพิฆาตมะเร็งได้ กำลังใจจากเจ้าตัวและคนรอบข้างนี่เเหละ ที่มะเร็งโครตกลัว ที่ผ่านมาแม่ผมมีสภาพจิตใจพร้อมสู้เต็มเปี่ยม ต้องขอบคุณเสียงหัวเราะจากญาติๆของเรา มันมีความหมายพอๆกับกระบวนการรักษาทางการแพทย์เลยทีเดียว

ผมไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกแพทย์แผนโบราณ ผมไม่อยากเถียงว่าการรักษาแบบไหนเจ๋งกว่ากัน แต่จากประสบการณ์ของผม คนที่ใช้สมุนไพรรักษา ส่วนใหญ่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ที่ศิริราชก็เคยเปรยๆให้แม่ผมฟัง ว่าบางคนไม่เชื่อใจหมอ ไม่ยอมให้หมอรักษาเพราะมีความเชื่อผิดๆว่ามันจะกระจาย ก็ตัดสินใจรักษาด้วยยาสมุนไพร สุดท้ายอาการทรุดลง มาหาหมออีกทีก็เกินจุดที่จะรักษาได้แล้ว พอคนไข้เสียชีวิต ก็กลายเป็นว่าความผิดทั้งหมดอยู่ที่แพทย์แผนปัจจุบัน ในขณะที่บางคนก็รักษาด้วยยาสมุนไพรควบคู่กับแผนปัจจุบัน แต่พอรักษาหายขาดก็กลายเป็นความดีความชอบของยาหม้อไป เฮ้อ…

โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใกล้ตัวเราขึ้นมาทุกขณะ จากที่ผมคาดเดา โรคมะเร็งเหมือนไข้หวัดไม่มีผิด คล้ายๆกับว่าใครก็สามารถเป็นได้ ต่อให้ระวังตัวมากขนาดไหนก็ไม่มีทางป้องกันได้เลย ถ้ายมบาลจะส่งมะเร็งมาเล่นเรา ผมว่าท่านไม่พลาดแน่ๆ ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะผมเชื่อมั่นว่าเมื่อมะเร็งเกิดขึ้นกับคนที่คุณรัก คุณย่อมหาสิ่งที่ดีที่สุดมารักษาคนที่คุณรักอย่างแน่นอน แม่ของผมพิสูจน์มาแล้วว่าแพทย์แผนปัจจุบันสามารถรักษามะเร็งได้ ขอแค่ใจถึง แน่วแน่ และมีกำลังใจที่ดีเยี่ยม ทั้งผู้ป่วยและคนรอบข้างต้องหนักแน่น อย่าปล่อยให้ตัวเองเขวจากการรักษาที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วเด็ดขาด การแพทย์แผนปัจจุบันก้าวหน้าไปมากแล้ว อย่ายอมให้ความศรัทธาที่ไม่มีหลักฐานมาทำให้คุณพลาดโอกาสเดียวที่มี…!!!

ถ้าตอนนี้ คุณยังไม่มีใครใกล้ตัวเป็นมะเร็ง ขอให้อ่านบทความนี้และจำไว้ เมื่อถึงคราวที่คุณจะได้พบเจอคนใกล้ตัวคุณเป็น จงเอาประสบการณ์ของผมเล่าให้คนๆนั้นฟัง แต่ถ้าคนใกล้ตัวของคุณมีแล้ว และเกิดความลังเลสงสัยว่าการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียวจะเพียงพอหรือเปล่า ผมสามารถเอาคนที่หายจากมะเร็งด้วยการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันเพียวๆมาให้คุณได้คุยหลายสิบคนเลยครับ บางคนหายขาดมาสิบปีแล้วด้วย อิอิ ดังนั้นผมขอสรุปอีกครั้ง แพทย์แผนปัจจุบันมีพลังมากพอที่จะรักษามะเร็งได้ ที่เหลืออยู่ที่คุณแล้ว ว่าคุณจะเชื่ออะไร…!!! ภาวนาให้คุณโชคดี ชีวิตนี้ขออย่าให้คนรอบตัวคุณเป็นมะเร็ง

วิชญ์

ปล ใครที่อยากได้ข้อมูลการรักษามะเร็งด้วยแพทย์แผนปัจจุบันอย่างการผ่าตัด คีโม ฝังแร่ และฉายแสงแล้วหายเพิ่มเติม นี่คือเเหล่งรวบรวมคนที่หายด้วยแพทย์แผนปัจจุบันครับ http://www.saiyai.net/

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ www.Vittarot.com ห้ามนำไปเผยแพร่เพื่อการพาณิชย์โดยเด็ดขาด แต่ถ้าเผยแพร่เพื่อช่วยเหลือคนทุกข์ที่กำลังหมดกำลัง เชิญเผยแพร่ได้เต็มที่ครับ ไม่ต้องลง Credit ยังได้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่