ถ้าบริษัทคุณบังคับให้คุณทำงาน 36 ชั่วโมง ต่อเนื่องกัน เดือนละ 10 ครั้ง...คุณจะเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ (ใหม่)

ในที่นี้ รายละเอียดคือ
ต้องทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์
วันธรรมดา 8-16น.
วันเสาร์อาทิตย์ 8-12น.
และต้องทำโอที 16-8น. ทุกๆสามวัน
ถ้าตกวันเสาร์อาทิตย์ ก็คือทำต่อจาก 12-8 ไปเลย

คืองานในสายของคุณเองเลยนะครั ถ้าบอกสายงานได้ยิ่งดี

อยากทราบความคิดเห็น

คุณจะพอใจที่เงินเดือนเท่าไหร่?

ปล.มาโพสแล้วแทกใหม่จากกะทู้นี้http://pantip.com/topic/32189881
มือใหม่หัดโพส ติดแทกไม่ตรงเป้า ขออภัยครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
.
.
.
ขอซัก 7 แสนต่อเดือนครับ
น้อยกว่านี้ไม่ทำเด็ดขาด
(ในสายงานผมนะ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
คห 16  
ผมอ่านทันพอดี แต่แคปไม่ทัน
ประมาณว่า คนไข้มารอตั้งแต่7โมงเช้า  กว่าหมอจะมาก้สาย 9-10โมง  ไปนั่งอู้ เบียดเบียนเวลาราชการในคลินิค

ผมขอถามหน่อยแล้วกันครับ  ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำยังไง

1 คุณต้องมาทำงานทุกวัน จ-ศ 8โมงเช้า ถึง4โมงเยน

2 ถ้าคุณอยู่เวร หมายความว่า คุณต้องทำงานต่อหลัง4โมงเยนจนถึง8โมงเช้าอีกวัน  คุณเป็นหมอคนเดียว แต่ต้องดูคนไข้ทั้ง รพ ทั้งที่นอน   ในตึกและผู้ป่วยที่มานอกเวลาตลอดเวลา  และทำงานต่อจนถึง4โมงเย็นของอีกวัน  รวมการทำงานเป็น32ชั่วโมงต่อเนื่อง

3 ถ้าอยู่เวรวันหยุด หรือเสาร์อาทิต หมายความว่า คุณต้องทำงานตั้งแต่8โมงเช้า ถึง8โมงเช้าของอีกวัน และเป็นหมอคนเดียวดูแลคนไข้ทั้ง รพ ทั้งที่นอนในตึกและผู้ป่วยที่มานอกเวลาตลอดเวลา  และถ้าเป็นวันจันทร์หมายความว่า คุณต้องทำงานต่อจน4โมงเยน รวมการทำงานเป็น32ชั่วโมงต่อเนื่อง  

4 คุณจะต้องอยู่ทำงานและอยู่เวรแบบบนี้ทุกๆ3-4วัน   แน่นอนว่าไม่ได้ยุ่งตลอดเวลา  มีเวลาว่างเมื่อไหร่ขอแอบงีบหน่อย

5 8โมงเช้าของอีกวันคุณจะไปไหน นอกจากวิ่งไปอาบน้ำ  ข้าวเช้าไม่เคยกินมานานแล้ว นม1กล่อง ขนมปัง1ก้อนพอ  ไม่มีเวลากินข้าวเช้า

6 หลังจากอาบน้ำ กินอะไรรองท้อง  คุณต้องไปตรวจผู้ป่วยที่ admitt นอน รพ ก่อน เพราะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนักในระดับนึงที่ต้องนอนรักษาใน รพ  มีประมาณหลายสิบคน บาง รพ ก้เป็นหลักร้อย

7 ทำไมพวกคุณชอบคิดว่า  ผู้ป่วยที่มา รพ มีแค่คนที่มาตรวจที่ห้องตรวจ คุณมารอนานแล้วโวยวายหงุดหงิด  แล้วคนไข้ที่นอน รพ ใครจะเป็นคนตรวจรักษา  ถ้าไม่ใช่หมอคนเดิมที่คุณกำลังบ่นว่าอู้ มาสาย (ทั้งที่ทำงานติดต่อกันแทบไม่ได้นอน ข้าวเช้ายังไม่ได้กิน ต้องไปตรวจผู้ป่วยในตึกที่รับการรักษานอน รพ บางที9-10โมง ยังตรวจไม่เสร็จเลย)

8 หลังจากตรวจผู้ป่วยในตึกเสร็จ จึงมาตรวจคนไข้ที่มาห้องตรวจนอก สภาพหน้าตาแต่ละคนเริ่มหงุดหงิดรอนาน เพราะคิดว่าหมออู้ มาสาย ตื่นสาย

9 แน่นอนว่าขณะตรวจผู้ป่วยนอกอยู่  ถ้าผู้ป่วยในตึกอาการทรุดลง จะรีบวิ่งไปดูเพื่อช่วยชีวิตขณะนั้นก่อน  และคนไข้ที่รอห้องตตรวจต้องรอต่อไป  ตรงนี้คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ และเริ่มด่าทอต่อว่าหมอ ว่าหายตัวไปอู้ ปล่อยให้คนไข้รอ(อีกแล้ว)

10 คนไข้ที่มาตรวจที่ห้องตรวจใน รพ ของผม(ที่มีหมออยู่5คน และมีคนไข้นอนในตึก40-60คน) คือ 300-400คนต่อวัน!!!

11 ถ้าสมมติคิดง่ายๆ หมอคนนึงไม่ต้องอยู่เวร ไม่ต้องตรวจผู้ป่วยใน เริ่มทำงาน8โมงเช้า ออก4โมงเย็น  
    (ซึ่งในความเป็นจริงๆ หมอต้องอยู่เวรจนถึงเช้า  หมอต้องตรวจผู้ป่วยที่นอนในตึกก่อน หมอต้องดูผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉินด้วย)
    คนไข้300คน/หมอ5คน/8ชม
    จะเท่ากับ  คนไข้คนนึงจะเจอหน้าหมอแค่คนละ10นาทีซึ่ง  แต่บางคนเจ็บป่วยซับซ้อนต้องใช้เวลามากกว่า10นาที
    เพราะฉะนั้น ถ้าตรวจเร็วก้บ่นว่า   มารอเป็นชั่วโมงได้เจอหน้าหมอไม่ถึง5นาที  แต่ถ้าหมอใช้เวลาตรวจนาน คนอื่นก้จะยิ่งรอนานมากกว่า
    เดิม

12 เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย  ถ้าวันไหนคนไข้มาห้องตรวจเยอะจริงๆ  ถึงคุณมาเช้า  คุณก้มิสิทธิที่จะได้ตรวจตอนบ่าย ไม่ใช่เพราะคุณโดนลัดคิว  แต่เพราะว่าคุณกำลังรอตรวจตามคิวต่างหาก

13 แน่นอนว่าถ้ามีคนไข้อาการหนักเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมาที่ห้องฉุกเฉิน จะต้องมีหมอ1คนที่นั่งในห้องตรวจ วางมือจากการตรวจ แล้ววิ่งไปช่วยชีวิตคนไข้ใน ER

14 โอ้ ถึง4โมงเย็นแล้ว  วันนี้คุณต้องอยู่เวร  ให้คุณกลับไปข้อ1ใหม่



15 ว่าจะพิมแค่10ข้อ  ไหงมาถึงข้อ15ได้
16 สุดท้าย ใครเป็นคนคิดระบบบ้าๆนี้ขึ้นมาเนี่ย   จริงๆระบบนี้เป็นระบบโบราณในยุคสมัยที่คนไข้ต้องขายที่นาเพื่อมารักษาโรคภัย  จิงๆแ้ววันนึงคนไข้ไม่เกิน30-50คนต่อวันหรอก
    แต่ในยุคสมัยที่คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมโดยแทบไม่ต้องเสียตังสักบบาท (แน่นอนว่ายาที่ใช้ คือยาที่เป็นมาตรฐานที่สุดในราคาที่ถูกที่สุด)   ทำให้วันๆนึงมีคนมา รพ 300-400 คน/วัน  (บาง รพ เล็กๆอาจไม่เกิน100  แต่ รพ ใหญ่ๆ คือ>1000คน)


ถึงได้บอกว่าคนภายนอกไม่รู้ว่าเราทำงานกันยังไง เหนื่อยขนาดไหน  เขาขอแค่ว่า หมออยู่ไหน หมอต้องมาเดี๋ยวนี้  กูรอนานแล้ว
แต่ใน รพ จังหวัด คุณอาจจะเห็นหมอใหญ่ไปนั่งตรวจคนไข้คลินิคในเวลาราชการ  เหตุเพราะ บางคนก้พอมีเวลาว่าง แต่บางคนก้ใช้หมอน้องแพทย์ใช้ทุนทำงาน ส่วนตัวเองเอาเวลาไปนั่งคลินิคก้มี (แต่มีเป็นส่วนน้อยนะครับ ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหมอ รพ รัฐ ส่วนใหญ่ ยังพอมีอุดมการณ์ในการรักษาคนไข้อยู่  ไม่งั้นลาออกกันหมดแล้วครับ)
ความคิดเห็นที่ 53
มันเป็นความผิดพลาดของการเปลี่ยนแปลงระบบสาธารณสุขครับ

จะบอกว่าเป็นเพราะนโยบาย บัตรทอง บัตร 30 บาท หรือตอนนี้ ฟรีเลย ก็ว่าได้

ไม่ได้จะบอกว่า นโยบายไม่ดีนะครับ แต่ออกมาไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ ไม่ดูเลยว่าทรัพยากรมันพร้อมแค่ไหน
ไม่ได้ประเมินเลยว่า ถ้าทำแบบนี้ คนไข้จะเพิ่มแค่ไหน แล้วที่เป็นอยู่ รพ รองรับคนได้กี่คน มีหมอกี่คน

เอาแต่ทำนโยบายเอาใจประชาชน หาเสียง ไม่รับผิดชอบ ไม่รอบคอบ ไม่คิดรอบด้าน มันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ
ผมไม่ได้ว่ารัฐบาลไหนนะครับ เอาเป็นว่า ทุกรัฐบาลไม่เคยแก้ปัญหานี้จริงจังเลย เพราะไม่อยากเสียคะแนน

ปัญหามันก็จะเป็นวงจรอุบาทก์ แล้วหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ
มา รพ ง่าย ฟรี > คนไข้ไม่ดูแลตัวเองก่อน > อะไรๆก็มา รพ > คนไข้ล้น > หมอไม่พอ > หมอทำงานหนัก > หมอไม่ได้พักผ่อน > หมอทนไม่ไหว > หมอลาออก > หมอไม่พอเข้าไปอีก > หมอที่เหลือทำงานหนักขึ้นอีก > ลาออกอีก > หมอที่เหลือเหนื่อย > ประสิทธิภาพลด > ตรวจไม่ทัน > คนไข้บ่นด่า(เพราะไม่เข้าใจ ไม่ได้ว่าคนไข้หรอกครับ) > หมอน้อยใจ เบื่อหน่าย > ลาออกดีกว่า > หมอที่เหลือโคตรเหนื่อย > พักผ่อนไม่พอ > เวลาตรวจก็น้อย > รักษาผิดพลาด > คนไข้มีปัญหา > คนไข้ฟ้องร้อง > หมอคนนั้นเครียด > หมอคนอื่นก็กลัว > คนไข้รับรู้ว่าฟ้องร้องได้ง่าย > บางคนก็จ้องจะฟ้อง > หมอนอกจากเหนื่อย เวลาน้อย ไม่ได้พัก แล้วยังแหย่ขาเข้าคุกทุกครั้งที่รักษา > ใครจะมีความสุขล่ะครับ

เอาแค่เรื่องมา รพ ง่าย เพราะฟรีนี่ ตัวอย่างง่ายๆ
1. เป็นไข้ มีน้ำมูก มาครึ่งวัน ไม่กินยา มารพ ก่อน
2. ท้องเสียห้าครั้ง ปวดท้อง ไปกินส้มตำมา แต่ยังกินได้ อย่างอื่นสบายดี ก็มารพ ก่อน
3. เวียนหัว เป็นมาหลายรอบ มาหลายปี ก็ต้องมารพ เอายาฉีด ไม่นอนพัก
4. ปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว ปวดที่เดิม ปวดเหมือนเดิม ก็มารพ จะเอายา (ซื้อเองก็ได้ครับ) แต่ว่าไม่ปรับพฤติกรรมการกินเลย
5. เดินล้ม ขาแพลง เดินได้ แต่มันเจ็บ ไม่พัก ไม่หยุดใช้งาน มารพ คิดว่ายาช่วยได้ทุกอย่าง
6. ตะคริว ฝันร้าย นอนไม่หลับ ไม่อยากกินข้าว สิวขึ้น และอื่นๆอีกมากมาย

จะบอกว่า การเข้าถึง รพ ง่าย ทำให้เราไม่ดูแลตัวเอง เป็นนิดหน่อย (แบบที่ถ้า มา รพ ต้องเสียเงิน จะไม่มาน่ะครับ) ก็มา รพ หมด
ส่วนโรคที่เป็นอยู่แล้ว ก็คิดว่ามาหาหมอแล้วจะช่วยได้หมด ไม่ว่าเราจะปฏิบัติตัวเกี่ยวกับโรคนั้นยังไง ยังไงก็มาหาหมอได้ง่ายๆ (ไม่ดูแลตัวเอง มันไม่หายหรอกครับ)

ผมว่าน่าจะประมาณเกือบ 50 เปอร์เซนต์ ที่ถ้าอยู่บ้าน ดูแลตัวเอง กินยาสามัญประจำบ้าน หายเองในสองสามวัน

ถ้าเคสเหล่านี้ มาในเวลาราชการ ก็ไปอัดแน่นที่ผู้ป่วยนอก เวลาเฉลี่ยต่อคนก็ลดลง ตรวจไม่ทันหรอกครับ 50-80 คน สามชั่วโมง ต่อหมอ 1 คน ได้คนละ 2-3 นาทีก็หรูละครับ

แย่ไปกว่านั้น คือมานอกเวลาราชการ ก็ต้องไปตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ขอย้ำว่า "ห้องฉุกเฉินนะครับ" ด้วยอาการที่รออีกวันสองวันหายเองได้
ก็ไปอัดแน่นที่ห้องฉุกเฉิน จะดีหน่อยที่ห้องฉุกเฉินไม่เรียงคิว แต่เรียงตามความฉุกเฉิน

หมอบอกไม่ได้นะครับ ว่าไม่ตรวจ ต้องตรวจหมด แต่อาจจะรอนานหน่อย บางทีสองสามชั่วโมง เพราะหมอดูเคสฉุกเฉินอยู่
คนไข้ก็จะเริ่มบ่น เริ่มโวยวายว่าตรวจช้าละครับ (ผมเคยเจอ บางทีรอไม่ไหว ก็เลยกลับไปเลย... บอกแล้วว่าจริงๆถ้าเสียตัง รอนาน คงไม่มา)

อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งครับ ที่แพทย์ไทยเจออยู่ พยาบาลก็ไม่ต่างกัน เพราะทำงานด้วยกัน เจอปัญหาคล้ายๆกัน
ปัญหาภายใน รพ ยังมีอีกมากมาย

ส่วนปัญหานอก รพ ก็เยอะที่ไม่ได้พูดถึง ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ให้คนใกล้ชิด อยู่ไกลกัน บลาๆๆๆ

ผมมองว่า ระบบสาธารณสุขไทย กำลังจะล่มจมลงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีใครคิดจะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
มันจะแย่ลงๆ ทั้งๆที่คนในระบบอยากจะพัฒนาให้มันดีขึ้น ให้ได้มาตรฐาน
แต่ในเมื่อผู้ที่กำหนดนโยบาย ไม่ได้ดูความเป็นจริง และยังเพ้อฝัน ไม่สนใจและหลอกตัวเองว่าระบบมันยังไปได้อยู่ อีกไม่นานระบบมันจะล้มครืนลงมา แล้วจะแก้ไม่ได้อีกเลย

ปล.ขออภัย หากทำให้บางท่าน อ่านแล้วไม่ค่อยพอใจ ท่านอาจจะเคยเป็นคนไข้เหล่านั้น แต่ผมพูดไปตามที่ระบบมันเป็นอยู่ ไม่ได้มีเจนตาพุ่งเป้าไปที่คนไข้ครับ
ปล2.ประเทศอื่นที่ระบบดีๆ แพทย์ห้ามทำงานเกินสัปดาห์ละ 40-50 ชั่วโมง (ผมจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ครับ) เพราะเค้าไม่อยากให้แพทย์ล้า จะรักษาผิดพลาด แต่แพทย์ไทย ทำงานสัปดาห์ละราวๆ 80-90 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
(วันธรรมดา 5 วัน 40 ชม. + เวรวันธรรมดา 2 วัน 32 ชม. + วันหยุด 2 วัน 4 ชม. (ละกัน) + เวรวันหยุด 1 วัน 16 ชั่วโมง (ละกัน) ครับ)
ปล3.คงมีคนเคยเรียกร้องแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ใหญ่ไม่ฟัง อย่างที่บอกไป
ส่วนคนไข้ไม่ค่อยเข้าใจ เพราะความคิดที่ว่า หมอจะต้องมากับคำว่า เสียสละ และเป็นหมอมันสบาย ร่ำรวย
ผมว่าทุกคนมีลิมิตครับ เสียสละมากเกินไป จนต้องขอไปทางอื่นที่ดีกว่า ไม่ได้เรียกว่าเห็นแก่ตัวหรอกครับ
ปล4.ผมยังอยู่ในระบบนะครับ ที่ที่ผมอยู่อาจจะดูดีหน่อย ปัญหาเดิมๆ แต่อาจจะเบาบางกว่าที่อื่นนิดนึง

ปล5.ขอเพิ่มอีกนิด OT หมอนี่ ไม่เหมือน OT ทั่วไป เป็นรายได้พิเศษนอกเวลา ที่หมอจะไม่รับทำ ก็ไม่ได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่