จริงๆ แล้วก็ไม่รู้จักหรอกว่า NGOs คือใคร เลยไม่รู้ว่าจะ นิยามคุณงามความดีของNGOs ว่า เป็นผู้ที่มีคุณค่าที่ดีต่อสังคมอย่างไร เพราะเท่าที่อ่านข้อมูลตามหน้าหนังสือพิมพ์ ติดตามดูจาก โซเชียลมีเดีย ดูเหมือนว่า อาการของ NGOs ส่วนใหญ่ในบ้านเรา ทั้งที่ออกสื่อบ้านเรา ปรากฏทางโซเชียลมีเดีย ดูเหมือนจะมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นคนดี คอยพิทักษ์ ปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชน
แต่พอเจอจากข่าว จากการเคลื่อนไหว จากการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมี สติ ระมัดระวังแล้ว ได้เห็นรูปแบบการทำงานของคนกลุ่มนี้แล้วมีความเป็นห่วง NGOsน้ำดี เพราะพฤติกรรมคนกลุ่มหนึ่งที่แสดงออกมานั้น พอประมวลได้ว่า ช่างเหมือนเครือข่ายโยงใยคล้ายใยแมงมุม และถ้าใครพลาดติดอยู่ในใยแมงมุมอันนี้แล้วโอกาสที่จะหลุดรอด เล็ดลอดออกไปดูเหมือนจะยาก เพราะใยแมงมุมที่เป็นกับดักตัวนี้จะจับเฉพาะ องค์กร บุคคลและธุรกิจ ที่อยู่ฝ่ายที่ตนเองเทิดทูนเท่านั้น โดย “ใช้” หรือ “สร้าง” องค์กรสื่อขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการทำลายคู่แข่งของ “ฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูน” แบบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด (นี่แหล่ะคือธุรกิจที่ข้างนอกสุกใสข้างในสีเทา)
และถ้าติดตามคนเหล่านี้ให้ดีจะเห็นว่า คนในเครือข่ายส่วนใหญ่บางคน(ขอย้ำว่าบางคน) ที่อยู่ในใยแมงมุมนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง หรือมีอาชีพที่ช่วยให้ก่อร่างสร้างตัว สร้างเม็ดเงินให้ร่ำรวยได้เป็นกอบเป็นกำได้ แต่ก็แปลกชวนให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมบางคน ถึงร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างผิดหูผิดตาไม่เชื่อลองแอบสังเกตคนใกล้ตัวคุณดูสิ มีพฤติกรรมการใช้จ่าย มีความเป็นอยู่อย่างไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"หรือเปล่า?
1.ถ้าเราจะสังเกตให้ดีจากข่าวแต่ละชิ้นที่มีคนกลุ่มนี้สื่อสารออกมาผ่านสาธารณชนในโลกออนไลน์ ตามสื่อ mass แล้วละก็เราจะไม่เคยเห็นพวกเขาเหล่านี้โจมตีธุรกิจที่ใกล้ตัวของคนที่ตัวเองเทิดทูนยกเว้นขัดผลประโยชน์กันหรือผิดพลาดทางเทคนิค ฝ่ายหนึ่งที่โดนโจมตีก็จะโดนอยู่อย่างนั้น จะคอยโจมตีหรือคอยทำลายธุรกิจที่เป็นคู่แข่งของฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูนอยู่อย่างนั้น และเรื่องที่สื่อสารออกมา จะมีลักษณะ bias หรือ อคติ มากกว่าการใช้เหตุผลสังเคราะห์ วิเคราะห์ หรือถ้าหากใช้เหตุผลสังเคราะห์ วิเคราะห์ เพื่อความน่าเชื่อถือก็จะทำออกมาในรูปแบบของ "ผลงานการวิจัย" ที่มีองค์กรรองรับ มีตำแหน่งทางสังคม ซึ่งเราจะเห็นองค์กรลักษณะนี้ คนมีตำแหน่งลักษณะแบบนี้มากมายในบ้านเรา และบางองค์กร ที่ถูกตั้งขึ้นมามีชื่อน่าฟังและสวยหรูทั้งนั้น แต่เนื้อแท้และเนื้อในนั้น ดูๆแล้ว จะมีกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นเจ้าขององค์กรนี้ที่มีรองรับไว้เพื่อเป็นเครือข่ายใยแมงมุม เพราะชื่อดูมี powerดีและน่าจะมีผลทางจิตวิทยาในสังคมได้และหวังผลการหยิบยกบอกต่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและชอบธรรมให้กับตัวเองได้ จริงหรือเปล่าต้องลองช่วยกันตรวจสอบดู
นอกจากนี้ต้นตอของการโจมตีส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าทำไม คนไทยเราถึงชอบเวลาที่ต่างชาติ ออกมาพูดเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดเชื่อได้เลยว่า มันใช่ มันจริง แล้วของจริงเป็นอย่างไร คนเสพข้อมูลอย่างเราๆ ก็ไม่เคยเห็น เลยทำให้เราอนุมาณได้ว่า มีการสร้างประเด็นที่น่าสนใจออกมาจากต่างชาติ จากนั้น NGOs บางคนที่เป็นคนไทยก็สวมบท เสือปืนไว หยิบมาขยายผลในประเทศไทยทันที โดยที่ข้อมูล ออกมาทั้ง 2 ด้าน คือ มีบวก ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบก็ออกมายืนยันด้วยหลักฐานและข้อมูลที่ตรวจสอบกลับได้ และก็มี ลบ ฝ่ายที่อ้างว่ามีข้อมูลของจริง แต่ผู้เสพข้อมูลไม่เคยเห็นของจริงว่า เก็บข้อมูลด้านเดียวหรือทั้งหมดรอบด้านแล้ว และถ้าตรวจสอบย้อนกลับเกิดไม่ใช่ ไม่ถูกต้องขึ้นมาก็เงิบ กันเลยซะทีนี้ แล้วคนเชื่อไปแล้วไม่ได้ตามต่อเนื่องจะว่าอย่างไร แล้วคนเสพข้อมูลแบบเราเราควรเชื่อใครดี เมื่อมีข้อมูลมา 2 ด้านแบบนี้ รู้แต่ว่า ต้องมีสติ รอบคอบ ระมัดระวัง อ่าน ฟังหลายๆด้านจากหลายๆคนมากกว่าที่จะฟัง อ่าน คนเดิมๆ รายงานซ้ำๆ ทุกวัน
2.นอกจากคนกลุ่มนี้ ในแง่ของ "ตัวบุคคล" คนกลุ่มนี้จะทำงานแบบ แฝงตัว แทรกซึม อยู่ในแทบจะทุกองค์กรไม่เว้นแม้แต่ "องค์กรสื่อ" บางคนทำตัวเป็น "สื่อสารมวลชน" เสียเอง ทั้งๆที่ อุดมการณ์ของ "สื่อ" ที่แท้จริงมีคุณค่าอยู่ที่ ความเป็น ฐานันดรที่ 4 (The Fourth Estate) ของประชาชน เรียกว่าเป็น "ที่พึ่งสุดท้ายให้กับประชาชน" แต่คนเหล่านี้หาใช่เห็นอุดมการณ์ของสื่อไม่ หากพวกเขามีอุดมการณ์ที่เป็นมากกว่าสื่อ แล้วจะเป็น "ที่พึ่งสุดท้ายให้กับประชาชน" ได้อย่างไร? คนกลุ่มนี้ที่แฝงตัวเป็นสื่อ จะคอยหยิบทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับ "ฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูน" และเป็นผลเสียกับ "ฝ่ายตรงข้ามที่ตัวเองเทิดทูน" แล้วสื่อออกมาให้ผู้คน ให้ประชาชนเกิด mislead มากที่สุด (mislead คำๆนี้ แปลศัพท์ตามพจนานุกรม ว่า "ชักนำไปในทางที่ผิด" ) ถ้าใครคนไหนเสพสื่อไม่ใช้สติ ไตร่ตรองให้รอบคอบ โอกาสที่จะตกเป็นเครื่องมือของคนเหล่านี้ได้สูงมากนานวันเข้าจะกลายเป็นถูก "ครอบงำ" สุดท้ายก็จะรอคอยว่าวันนี้คนเหล่านี้จะนำเรื่องอะไรมาบอกเราอีก และกว่าที่เราจะถอนตัวออกจากวังวนแห่งนี้ได้ก็ยากยิ่งนักเช่นกันเพราะว่ามันคือ เครือข่ายใยแมงมุมที่เป็นกับดักทางความคิดของเราให้คิดตามกลุ่มคนเหล่านี้
ตัวอย่างข่าวๆหนึ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราแต่ไม่ขอเอ่ยชื่อเพราะอาจถูกผลักไสให้ไปอยู่อีกฟากฝั่งได้โดยไม่ใช่เรื่อง เพียงแค่อยากนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมจริงมาตีแผ่ให้คนที่อ่านได้รู้ถึงขบวนการทำงานที่เป็นเครือข่ายแบบใยแมงมุมของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งใหญ่มาก อาจเรียกได้ว่า มีต่างชาติบางคนที่ไม่ประสงค์ดีกับคนไทย ธุรกิจคนไทย คอยทำหน้าที่ทำลายคนไทยด้วยกันเอง อาศัยคนไทยบางคนที่ยืนคนละฝั่ง มาทำลายล้างกันเอง เพราะคนต่างชาติบางคน หรือคนไทยหัวใจต่างชาติ บางคน อาจเห็นว่าคนไทย กว้างในที่แคบหรือเปล่าไม่ทราบได้แต่ที่แน่ๆ วันนี้เราเจอแบบนี้ ทำให้เราเกิดข้อสงสัยตามมาว่า "เขาทำงานกันอย่างไรในมุมมองของประชาชนอย่างเราที่เสพสื่อวันนี้" เราไม่ต้องการให้ใครเกลียดชังหรืออคติ คนกลุ่มนี้หรอก แต่ก็ไม่ต้องการห้ามใครเสพข้อมูลข่าวสารจากคนกลุ่มนี้เพราะ อยากให้รับรู้ข้อมูลหลายด้าน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ดี เหรียญยังมีสองด้าน ข้อมูลที่ออกมาก็มี 2 ด้านเช่นกัน
เราเพียงแต่ก็ไม่ต้องการ เห็นคนในสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ตกเป็นเครื่องมือของคนไทยบางคนที่มีหัวใจเป็นทาสต่างชาติ มาร่วมขบวนการทำลายคนอื่นจากต่างชาติบางคน โดยที่อาศัยช่องว่างจากความไม่รู้ของเราเป็นโอกาสสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง เพราะสักวันหนึ่ง เราอาจตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มนี้ก็เป็นได้เพราะใยแมงมุมที่เป็นกับดักตัวนี้จะดักจับเฉพาะ องค์กร บุคคลและธุรกิจที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามที่กลุ่มนี้เทิดทูนหรือมีความเห็นต่างจากพวกเค้า
การที่เราเห็นคนกลุ่มนี้มี ภาพลักษณ์ที่ดี เป็นคนดี คอยพิทักษ์ ปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชนอาจเป็นแค่เปลือกภายนอกก็ได้ ฉะนั้นการรู้เท่าทันจะมีข้อดีช่วยให้เราไม่หลงเข้าไปอยู่ในกับดักความคิดที่คนกลุ่มนี้ครอบงำ จะได้ช่วยให้สังคมไทยอยู่ได้ด้วยเหตุผลไม่มากก็น้อยฃ นี่คือความหวังดีครับ.
รู้ไหมว่าทำไม NGOs ถึงชอบโจมตีธุรกิจของคนไทยทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกันหรือว่าเป็น "คนไทยที่มีหัวใจเป็นทาสต่างชาติ"?
แต่พอเจอจากข่าว จากการเคลื่อนไหว จากการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมี สติ ระมัดระวังแล้ว ได้เห็นรูปแบบการทำงานของคนกลุ่มนี้แล้วมีความเป็นห่วง NGOsน้ำดี เพราะพฤติกรรมคนกลุ่มหนึ่งที่แสดงออกมานั้น พอประมวลได้ว่า ช่างเหมือนเครือข่ายโยงใยคล้ายใยแมงมุม และถ้าใครพลาดติดอยู่ในใยแมงมุมอันนี้แล้วโอกาสที่จะหลุดรอด เล็ดลอดออกไปดูเหมือนจะยาก เพราะใยแมงมุมที่เป็นกับดักตัวนี้จะจับเฉพาะ องค์กร บุคคลและธุรกิจ ที่อยู่ฝ่ายที่ตนเองเทิดทูนเท่านั้น โดย “ใช้” หรือ “สร้าง” องค์กรสื่อขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการทำลายคู่แข่งของ “ฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูน” แบบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด (นี่แหล่ะคือธุรกิจที่ข้างนอกสุกใสข้างในสีเทา)
และถ้าติดตามคนเหล่านี้ให้ดีจะเห็นว่า คนในเครือข่ายส่วนใหญ่บางคน(ขอย้ำว่าบางคน) ที่อยู่ในใยแมงมุมนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง หรือมีอาชีพที่ช่วยให้ก่อร่างสร้างตัว สร้างเม็ดเงินให้ร่ำรวยได้เป็นกอบเป็นกำได้ แต่ก็แปลกชวนให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมบางคน ถึงร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างผิดหูผิดตาไม่เชื่อลองแอบสังเกตคนใกล้ตัวคุณดูสิ มีพฤติกรรมการใช้จ่าย มีความเป็นอยู่อย่างไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ใช่ "ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"หรือเปล่า?
1.ถ้าเราจะสังเกตให้ดีจากข่าวแต่ละชิ้นที่มีคนกลุ่มนี้สื่อสารออกมาผ่านสาธารณชนในโลกออนไลน์ ตามสื่อ mass แล้วละก็เราจะไม่เคยเห็นพวกเขาเหล่านี้โจมตีธุรกิจที่ใกล้ตัวของคนที่ตัวเองเทิดทูนยกเว้นขัดผลประโยชน์กันหรือผิดพลาดทางเทคนิค ฝ่ายหนึ่งที่โดนโจมตีก็จะโดนอยู่อย่างนั้น จะคอยโจมตีหรือคอยทำลายธุรกิจที่เป็นคู่แข่งของฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูนอยู่อย่างนั้น และเรื่องที่สื่อสารออกมา จะมีลักษณะ bias หรือ อคติ มากกว่าการใช้เหตุผลสังเคราะห์ วิเคราะห์ หรือถ้าหากใช้เหตุผลสังเคราะห์ วิเคราะห์ เพื่อความน่าเชื่อถือก็จะทำออกมาในรูปแบบของ "ผลงานการวิจัย" ที่มีองค์กรรองรับ มีตำแหน่งทางสังคม ซึ่งเราจะเห็นองค์กรลักษณะนี้ คนมีตำแหน่งลักษณะแบบนี้มากมายในบ้านเรา และบางองค์กร ที่ถูกตั้งขึ้นมามีชื่อน่าฟังและสวยหรูทั้งนั้น แต่เนื้อแท้และเนื้อในนั้น ดูๆแล้ว จะมีกลุ่มคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นเจ้าขององค์กรนี้ที่มีรองรับไว้เพื่อเป็นเครือข่ายใยแมงมุม เพราะชื่อดูมี powerดีและน่าจะมีผลทางจิตวิทยาในสังคมได้และหวังผลการหยิบยกบอกต่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและชอบธรรมให้กับตัวเองได้ จริงหรือเปล่าต้องลองช่วยกันตรวจสอบดู
นอกจากนี้ต้นตอของการโจมตีส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าทำไม คนไทยเราถึงชอบเวลาที่ต่างชาติ ออกมาพูดเพียงแค่ไม่กี่บรรทัดเชื่อได้เลยว่า มันใช่ มันจริง แล้วของจริงเป็นอย่างไร คนเสพข้อมูลอย่างเราๆ ก็ไม่เคยเห็น เลยทำให้เราอนุมาณได้ว่า มีการสร้างประเด็นที่น่าสนใจออกมาจากต่างชาติ จากนั้น NGOs บางคนที่เป็นคนไทยก็สวมบท เสือปืนไว หยิบมาขยายผลในประเทศไทยทันที โดยที่ข้อมูล ออกมาทั้ง 2 ด้าน คือ มีบวก ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบก็ออกมายืนยันด้วยหลักฐานและข้อมูลที่ตรวจสอบกลับได้ และก็มี ลบ ฝ่ายที่อ้างว่ามีข้อมูลของจริง แต่ผู้เสพข้อมูลไม่เคยเห็นของจริงว่า เก็บข้อมูลด้านเดียวหรือทั้งหมดรอบด้านแล้ว และถ้าตรวจสอบย้อนกลับเกิดไม่ใช่ ไม่ถูกต้องขึ้นมาก็เงิบ กันเลยซะทีนี้ แล้วคนเชื่อไปแล้วไม่ได้ตามต่อเนื่องจะว่าอย่างไร แล้วคนเสพข้อมูลแบบเราเราควรเชื่อใครดี เมื่อมีข้อมูลมา 2 ด้านแบบนี้ รู้แต่ว่า ต้องมีสติ รอบคอบ ระมัดระวัง อ่าน ฟังหลายๆด้านจากหลายๆคนมากกว่าที่จะฟัง อ่าน คนเดิมๆ รายงานซ้ำๆ ทุกวัน
2.นอกจากคนกลุ่มนี้ ในแง่ของ "ตัวบุคคล" คนกลุ่มนี้จะทำงานแบบ แฝงตัว แทรกซึม อยู่ในแทบจะทุกองค์กรไม่เว้นแม้แต่ "องค์กรสื่อ" บางคนทำตัวเป็น "สื่อสารมวลชน" เสียเอง ทั้งๆที่ อุดมการณ์ของ "สื่อ" ที่แท้จริงมีคุณค่าอยู่ที่ ความเป็น ฐานันดรที่ 4 (The Fourth Estate) ของประชาชน เรียกว่าเป็น "ที่พึ่งสุดท้ายให้กับประชาชน" แต่คนเหล่านี้หาใช่เห็นอุดมการณ์ของสื่อไม่ หากพวกเขามีอุดมการณ์ที่เป็นมากกว่าสื่อ แล้วจะเป็น "ที่พึ่งสุดท้ายให้กับประชาชน" ได้อย่างไร? คนกลุ่มนี้ที่แฝงตัวเป็นสื่อ จะคอยหยิบทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับ "ฝ่ายที่ตัวเองเทิดทูน" และเป็นผลเสียกับ "ฝ่ายตรงข้ามที่ตัวเองเทิดทูน" แล้วสื่อออกมาให้ผู้คน ให้ประชาชนเกิด mislead มากที่สุด (mislead คำๆนี้ แปลศัพท์ตามพจนานุกรม ว่า "ชักนำไปในทางที่ผิด" ) ถ้าใครคนไหนเสพสื่อไม่ใช้สติ ไตร่ตรองให้รอบคอบ โอกาสที่จะตกเป็นเครื่องมือของคนเหล่านี้ได้สูงมากนานวันเข้าจะกลายเป็นถูก "ครอบงำ" สุดท้ายก็จะรอคอยว่าวันนี้คนเหล่านี้จะนำเรื่องอะไรมาบอกเราอีก และกว่าที่เราจะถอนตัวออกจากวังวนแห่งนี้ได้ก็ยากยิ่งนักเช่นกันเพราะว่ามันคือ เครือข่ายใยแมงมุมที่เป็นกับดักทางความคิดของเราให้คิดตามกลุ่มคนเหล่านี้
ตัวอย่างข่าวๆหนึ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราแต่ไม่ขอเอ่ยชื่อเพราะอาจถูกผลักไสให้ไปอยู่อีกฟากฝั่งได้โดยไม่ใช่เรื่อง เพียงแค่อยากนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมจริงมาตีแผ่ให้คนที่อ่านได้รู้ถึงขบวนการทำงานที่เป็นเครือข่ายแบบใยแมงมุมของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งใหญ่มาก อาจเรียกได้ว่า มีต่างชาติบางคนที่ไม่ประสงค์ดีกับคนไทย ธุรกิจคนไทย คอยทำหน้าที่ทำลายคนไทยด้วยกันเอง อาศัยคนไทยบางคนที่ยืนคนละฝั่ง มาทำลายล้างกันเอง เพราะคนต่างชาติบางคน หรือคนไทยหัวใจต่างชาติ บางคน อาจเห็นว่าคนไทย กว้างในที่แคบหรือเปล่าไม่ทราบได้แต่ที่แน่ๆ วันนี้เราเจอแบบนี้ ทำให้เราเกิดข้อสงสัยตามมาว่า "เขาทำงานกันอย่างไรในมุมมองของประชาชนอย่างเราที่เสพสื่อวันนี้" เราไม่ต้องการให้ใครเกลียดชังหรืออคติ คนกลุ่มนี้หรอก แต่ก็ไม่ต้องการห้ามใครเสพข้อมูลข่าวสารจากคนกลุ่มนี้เพราะ อยากให้รับรู้ข้อมูลหลายด้าน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ดี เหรียญยังมีสองด้าน ข้อมูลที่ออกมาก็มี 2 ด้านเช่นกัน
เราเพียงแต่ก็ไม่ต้องการ เห็นคนในสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ตกเป็นเครื่องมือของคนไทยบางคนที่มีหัวใจเป็นทาสต่างชาติ มาร่วมขบวนการทำลายคนอื่นจากต่างชาติบางคน โดยที่อาศัยช่องว่างจากความไม่รู้ของเราเป็นโอกาสสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง เพราะสักวันหนึ่ง เราอาจตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มนี้ก็เป็นได้เพราะใยแมงมุมที่เป็นกับดักตัวนี้จะดักจับเฉพาะ องค์กร บุคคลและธุรกิจที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามที่กลุ่มนี้เทิดทูนหรือมีความเห็นต่างจากพวกเค้า
การที่เราเห็นคนกลุ่มนี้มี ภาพลักษณ์ที่ดี เป็นคนดี คอยพิทักษ์ ปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชนอาจเป็นแค่เปลือกภายนอกก็ได้ ฉะนั้นการรู้เท่าทันจะมีข้อดีช่วยให้เราไม่หลงเข้าไปอยู่ในกับดักความคิดที่คนกลุ่มนี้ครอบงำ จะได้ช่วยให้สังคมไทยอยู่ได้ด้วยเหตุผลไม่มากก็น้อยฃ นี่คือความหวังดีครับ.