updated: 13 มิ.ย. 2557 เวลา 16:53:43 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
ที่มา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์
เมื่อ วันที่ 2 มิถุนายน วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกเปิดประมูล Power Lunch with Warren ทางออนไลน์เพื่อการกุศลทาง อีเบย์ (eBay) ผู้ชนะการประมูลจะได้รับประทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์ การประมูลสิ้นสุดวันที่ 7 มิถุนายน
การประมูลอาหารกลางวันเพื่อการกุศลที่มีราคาสูงที่สุดในโลกงานนี้ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ ทำติดต่อกันทุกปีเป็นปีที่ 15 สามารถหาเงินบริจาครวมแล้วกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือ 490 ล้านบาท
รายได้ทั้งหมดบัฟเฟ็ตต์มอบให้กับมูลนิธิ ไกลด์ (Glide) ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ในซานฟรานซิสโก มูลนิธิมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพไม่ว่าชีวิตจะตกอยู่ในสภาพอย่าง ไร
ขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ ผมยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ชนะการประมูล และก็ไม่แน่ใจว่าผู้ที่ชนะการประมูลจะยอมเปิดเผยตัวหรือไม่
เพราะการประมูล 2 ครั้งที่ผ่านมาในปี 2012 และ 2013 ผู้ชนะการประมูลไม่ประสงค์ออกนาม ทราบแต่ว่าจ่ายเงินค่าทานอาหารเพื่อการกุศลให้กับบัฟเฟ็ตต์ คิดเป็นเงินไทยสิบกว่าล้านบาท
สำหรับผู้ชนะการประมูลที่ทราบชื่อคนล่าสุดคือผู้ชนะในปี 2010 และ 2011 ซึ่งเป็นคนคนเดียวกัน คือ เท็ด เว็กซ์เลอร์ (Ted Weschler) ผู้จัดการกองทุน (Hedge Fund Manager) วัย 51 ปี ที่จ่ายเงินเพื่อทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์สองครั้งรวมแล้วเป็นเงิน 5.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 172 ล้านบาท
การจ่ายเงินกว่าร้อยล้านบาท เพื่อทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์ เพื่อสนทนาเรื่องอะไรก็ได้ทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องส่วนตัว รวมถึงแง่คิดในการดำเนินชีวิตของบัฟเฟ็ตต์ ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ของโลกว่าไปแล้วไม่แพงเลยหากผู้ชนะการประมูลคนนั้นร่ำรวย มีเงินเหลือเฟือ เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีค่า
แต่การที่ เท็ด เว็กซ์เลอร์ ชนะการประมูลสองปีติดต่อกันโดยยอมจ่ายเงินมหาศาล หลายคนอาจสงสัยว่าเขาคิดอะไร และคุ้มค่าหรือไม่ที่เสียเงินมากมายขนาดนี้เพียงเพื่อได้คุยกับบัฟเฟ็ตต์
คำตอบก็คือ เท็ด เว็กซ์เลอร์ คิดถูก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
เพราะหลังจากทานอาหารร่วมกับบัฟเฟ็ตต์เป็นครั้งที่สอง บัฟเฟ็ตต์ได้เชิญเว็กซ์เลอร์ ให้เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ที่บัฟเฟ็ตต์เป็นเจ้าของ โดยได้เงินค่าจ้าง 5 ล้านดอลลาร์ หรือ 164 ล้านบาทต่อปี ยังไม่รวมเงินโบนัส ซึ่งปีที่แล้วเว็กซ์เลอร์ได้โบนัสถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,640 ล้านบาท
บัฟเฟ็ตต์ถูกชะตากับเว็กซ์เลอร์เมื่อได้ทานอาหารและพูดคุยด้วยกัน บัฟเฟ็ตต์จึงเอ่ยปากชวนเว็กซ์เลอร์ให้เป็นผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ซึ่งเขาไม่ได้ตอบตกลงทันที
บัฟเฟ็ตต์เล่าว่า เว็กซ์เลอร์เหมือนรู้สึกผิดที่ตอบว่าขอเวลาไปคิดดูก่อน ซึ่งบัฟเฟ็ตต์ก็เข้าใจ เพราะทราบว่าเรื่องเงินไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่จะทำให้เว็กซ์เลอร์ ตัดสินใจมาทำงานกับเขา เพราะเว็กซ์เลอร์มีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งทำเงินมหาศาลให้อยู่แล้ว เห็นได้จากการที่ชนะการประมูลทานอาหารกลางวันกับเขาสองปีซ้อน
เว็กซ์เลอร์เล่าถึงแรงจูงใจในการร่วมประมูลทานอาหารกลางวันร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ เพื่อการกุศลว่า ตัวเขาชื่นชมแนวคิดในการลงทุนของบัฟเฟ็ตต์ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเมื่อมาเปิดบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เป็นของตัวเองก็ใช้หลักการบริหารงาน แบบ Berkshire Hathaway
เขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องพบบัฟเฟ็ตต์เป็นการส่วนตัวให้ได้ เพราะบัฟเฟ็ตต์เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิต เป็นคนใจกว้างในการแบ่งปันประสบการณ์เรื่องการลงทุน
ซึ่งการประมูลทานอาหารกลางวันร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ นอกจากจะทำให้ได้พบกับบัฟเฟ็ตต์เป็นการส่วนตัวแล้ว ยังเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลอีกด้วย
เว็กซ์เลอร์ เล่าถึงการทานอาหารกลางวันกับ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ ครั้งแรกที่ร้านสเต็ก Piccolo Pete"s ซึ่งเป็นร้านสเต็กธรรมดาในเมืองโอมาฮ่า บ้านเกิดของบัฟเฟ็ตต์ว่า พูดคุยกันอย่างธรรมดา คุยกันถึงเรื่องสมัยเด็กๆ ทำให้ทราบว่า มีพื้นเพที่คล้ายกันคือสนใจเรื่องธุรกิจและกีฬาตั้งแต่เล็กๆ
จากนั้นบัฟเฟ็ตต์พาเว็กซ์เลอร์ไปที่ห้องทำงาน แนะนำให้รู้จักกับพนักงาน การได้เห็นสิ่งแวดล้อมที่ทำงานของบัฟเฟ็ตต์ สร้างความประทับใจให้กับเว็กซ์เลอร์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงประมูลการทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์อีกเป็นครั้งที่สอง และบัฟเฟ็ตต์ก็ชวนให้เขามาทำงานในตำแหน่งผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ซึ่งเว็กซ์เลอร์บอกเป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน
เว็กซ์เลอร์เปรียบการได้ทำงานร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ซึ่งเป็นฮีโร่ในดวงใจของเขา ว่าเหมือนกับคุณเป็นคนที่สนใจด้านวิศวกรรมไฟฟ้าอย่างมาก และถ้าได้รับโอกาสให้ทำงานกับ โธมัส เอดิสัน คุณจะตอบปฏิเสธได้อย่างไร
มีการแซวกันเล่นๆ ว่า ขั้นตอนการสัมภาษณ์งานของ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ นั้น ผู้สมัครต้องจ่ายเงินเป็นร้อยล้านก่อนจะได้ทานข้าวกลางวันเพื่อสัมภาษณ์งาน!
ref :
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1402653361
อาหารกลางวัน 2 มื้อ 172 ล้านบาท...คุ้ม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
ที่มา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์
เมื่อ วันที่ 2 มิถุนายน วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ มหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกเปิดประมูล Power Lunch with Warren ทางออนไลน์เพื่อการกุศลทาง อีเบย์ (eBay) ผู้ชนะการประมูลจะได้รับประทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์ การประมูลสิ้นสุดวันที่ 7 มิถุนายน
การประมูลอาหารกลางวันเพื่อการกุศลที่มีราคาสูงที่สุดในโลกงานนี้ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ ทำติดต่อกันทุกปีเป็นปีที่ 15 สามารถหาเงินบริจาครวมแล้วกว่า 15 ล้านดอลลาร์ หรือ 490 ล้านบาท
รายได้ทั้งหมดบัฟเฟ็ตต์มอบให้กับมูลนิธิ ไกลด์ (Glide) ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ในซานฟรานซิสโก มูลนิธิมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพไม่ว่าชีวิตจะตกอยู่ในสภาพอย่าง ไร
ขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ ผมยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ชนะการประมูล และก็ไม่แน่ใจว่าผู้ที่ชนะการประมูลจะยอมเปิดเผยตัวหรือไม่
เพราะการประมูล 2 ครั้งที่ผ่านมาในปี 2012 และ 2013 ผู้ชนะการประมูลไม่ประสงค์ออกนาม ทราบแต่ว่าจ่ายเงินค่าทานอาหารเพื่อการกุศลให้กับบัฟเฟ็ตต์ คิดเป็นเงินไทยสิบกว่าล้านบาท
สำหรับผู้ชนะการประมูลที่ทราบชื่อคนล่าสุดคือผู้ชนะในปี 2010 และ 2011 ซึ่งเป็นคนคนเดียวกัน คือ เท็ด เว็กซ์เลอร์ (Ted Weschler) ผู้จัดการกองทุน (Hedge Fund Manager) วัย 51 ปี ที่จ่ายเงินเพื่อทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์สองครั้งรวมแล้วเป็นเงิน 5.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 172 ล้านบาท
การจ่ายเงินกว่าร้อยล้านบาท เพื่อทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์ เพื่อสนทนาเรื่องอะไรก็ได้ทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องส่วนตัว รวมถึงแง่คิดในการดำเนินชีวิตของบัฟเฟ็ตต์ ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ของโลกว่าไปแล้วไม่แพงเลยหากผู้ชนะการประมูลคนนั้นร่ำรวย มีเงินเหลือเฟือ เพราะเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่มีค่า
แต่การที่ เท็ด เว็กซ์เลอร์ ชนะการประมูลสองปีติดต่อกันโดยยอมจ่ายเงินมหาศาล หลายคนอาจสงสัยว่าเขาคิดอะไร และคุ้มค่าหรือไม่ที่เสียเงินมากมายขนาดนี้เพียงเพื่อได้คุยกับบัฟเฟ็ตต์
คำตอบก็คือ เท็ด เว็กซ์เลอร์ คิดถูก เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
เพราะหลังจากทานอาหารร่วมกับบัฟเฟ็ตต์เป็นครั้งที่สอง บัฟเฟ็ตต์ได้เชิญเว็กซ์เลอร์ ให้เข้ารับตำแหน่งผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ที่บัฟเฟ็ตต์เป็นเจ้าของ โดยได้เงินค่าจ้าง 5 ล้านดอลลาร์ หรือ 164 ล้านบาทต่อปี ยังไม่รวมเงินโบนัส ซึ่งปีที่แล้วเว็กซ์เลอร์ได้โบนัสถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,640 ล้านบาท
บัฟเฟ็ตต์ถูกชะตากับเว็กซ์เลอร์เมื่อได้ทานอาหารและพูดคุยด้วยกัน บัฟเฟ็ตต์จึงเอ่ยปากชวนเว็กซ์เลอร์ให้เป็นผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ซึ่งเขาไม่ได้ตอบตกลงทันที
บัฟเฟ็ตต์เล่าว่า เว็กซ์เลอร์เหมือนรู้สึกผิดที่ตอบว่าขอเวลาไปคิดดูก่อน ซึ่งบัฟเฟ็ตต์ก็เข้าใจ เพราะทราบว่าเรื่องเงินไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่จะทำให้เว็กซ์เลอร์ ตัดสินใจมาทำงานกับเขา เพราะเว็กซ์เลอร์มีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งทำเงินมหาศาลให้อยู่แล้ว เห็นได้จากการที่ชนะการประมูลทานอาหารกลางวันกับเขาสองปีซ้อน
เว็กซ์เลอร์เล่าถึงแรงจูงใจในการร่วมประมูลทานอาหารกลางวันร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ เพื่อการกุศลว่า ตัวเขาชื่นชมแนวคิดในการลงทุนของบัฟเฟ็ตต์ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเมื่อมาเปิดบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เป็นของตัวเองก็ใช้หลักการบริหารงาน แบบ Berkshire Hathaway
เขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องพบบัฟเฟ็ตต์เป็นการส่วนตัวให้ได้ เพราะบัฟเฟ็ตต์เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิต เป็นคนใจกว้างในการแบ่งปันประสบการณ์เรื่องการลงทุน
ซึ่งการประมูลทานอาหารกลางวันร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ นอกจากจะทำให้ได้พบกับบัฟเฟ็ตต์เป็นการส่วนตัวแล้ว ยังเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลอีกด้วย
เว็กซ์เลอร์ เล่าถึงการทานอาหารกลางวันกับ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ ครั้งแรกที่ร้านสเต็ก Piccolo Pete"s ซึ่งเป็นร้านสเต็กธรรมดาในเมืองโอมาฮ่า บ้านเกิดของบัฟเฟ็ตต์ว่า พูดคุยกันอย่างธรรมดา คุยกันถึงเรื่องสมัยเด็กๆ ทำให้ทราบว่า มีพื้นเพที่คล้ายกันคือสนใจเรื่องธุรกิจและกีฬาตั้งแต่เล็กๆ
จากนั้นบัฟเฟ็ตต์พาเว็กซ์เลอร์ไปที่ห้องทำงาน แนะนำให้รู้จักกับพนักงาน การได้เห็นสิ่งแวดล้อมที่ทำงานของบัฟเฟ็ตต์ สร้างความประทับใจให้กับเว็กซ์เลอร์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงประมูลการทานอาหารกลางวันกับบัฟเฟ็ตต์อีกเป็นครั้งที่สอง และบัฟเฟ็ตต์ก็ชวนให้เขามาทำงานในตำแหน่งผู้บริหารของ Berkshire Hathaway ซึ่งเว็กซ์เลอร์บอกเป็นเรื่องที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน
เว็กซ์เลอร์เปรียบการได้ทำงานร่วมกับบัฟเฟ็ตต์ซึ่งเป็นฮีโร่ในดวงใจของเขา ว่าเหมือนกับคุณเป็นคนที่สนใจด้านวิศวกรรมไฟฟ้าอย่างมาก และถ้าได้รับโอกาสให้ทำงานกับ โธมัส เอดิสัน คุณจะตอบปฏิเสธได้อย่างไร
มีการแซวกันเล่นๆ ว่า ขั้นตอนการสัมภาษณ์งานของ วอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ นั้น ผู้สมัครต้องจ่ายเงินเป็นร้อยล้านก่อนจะได้ทานข้าวกลางวันเพื่อสัมภาษณ์งาน!
ref : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1402653361