มีใครทำงานไม่ตรงสายงานที่เรียนมาบ้างคะ คุณประสบผลสำเร็จหรือไม่ อย่างไร มาเเชร์กันค่ะ

กระทู้คำถาม
ตามข้างบนเลยค่ะ แชร์ของเรานะคะ

    เราเรียนจบสายวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่เรารู้ตั้งแต่ตอนเรียนแล้วว่าเราไม่ชอบงานที่ทำอยู่แน่ๆ ตอนที่ทำงาน เครียดมาก เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤต ทุกคนจะกลายเป็นปีศาจทันที ซึ่งก็ไม่ได้เครียดทุกวันค่ะ แต่พอเครียดมาหรือเกิดอะไรขึ้นมาความผิดพลาดมันจะมากและนอยด์ไปนานมากแต่งานที่ทำมีเเต่คนบอกว่าช่วยคน ได้บุญ จบมารายได้ก็ประมาณ 30-50k แล้วแต่ที่ค่ะ เราก็โอเคกับงาน กับสวัสดิการ กับเพื่อนร่วมงาน(ในเเผนก) และมีความสุขกับงานมาก

    แต่... เรามีงานอีกงานหนึ่งที่เราทำ และเป็นอะไรที่เราสนใจและทำได้ค่อนข้างดี เป็นงานฟรีเเลนซ์ที่ไม่มั่นคง แต่รายได้มากกว่างานประจำ แน่ๆ ทุกเดือน บางเดือน สามสี่เท่า เราตั้งใจจะลาออกมาทำงานฟรีเเลนซ์ เพราะเป็นงานที่ไม่ต้องรองรับอารมณ์ใคร มีความสุขกับงาน เป็น passive income (มิใช่ขายตรงนะคะ) แต่คนที่เราเล่าให้ฟัง มีแต่คนตกใจ ราวกับว่าเราวางแผนก่ออาชญากรรมอยู่ บ้างก็ว่าทำไปสองงานสิ บ้างก็ว่างานเราที่ทำอยู่น่ะดีแล้ว ลาออกเพื่อ... ยิ่งคนในครอบครัวยิ่งไม่เห็นด้วย (หลังๆ พอเข้าใจแล้วค่ะ)   บ้างก็ว่าเรียนมาเสียเวลาทำไม ไปทำงานที่ไม่ต้องใช้ความรู้ทำไม สารพัดสุดๆ บ้างก็ว่าเราเป็นเด็ก gen Y ไม่อดทนกับงาน บางคนไม่รู้ว่าเราทำอะไรเห็นเราลาออกแต่มีเงินก็หนักเข้าขั้นถึงกับหาว่าขายตัว (อันนี้ขำสุด ไม่โกรธเลย ดีใจที่เขาคิดว่าหน้าตาแบบเรา ขายได้ 555)


            ความตั้งใจเราคือเราทำงานใหม่สักไม่เกินห้าปี แต่งานเก่าก็ยังทำได้อยู่ พาร์ทไทม์ก็ได้ เเขวนใบประกอบและเข้าไปรับผิดชอบงานวันสองวันก็ได้เงินรายเดือนอยู่ ไม่ละวงการเดิม ประกันเราทำครอบคลุม เราเก็บเงินสร้างอะไรหลายๆ อย่างให้ได้ ไปเที่ยวหรือว่าอะไรก็ตามที่อิสระ และทำงานใหม่ให้ได้ดี และกินได้ตลอด เพราะเราทำงานเดิมชีวิตก็เดิมๆ จนเท่าเดิมด้วย อิอิ งานใหม่ก็มีรายได้ต่อเนื่องดี มีหลักประกันว่าได้เงินแน่นอน หลักๆ แล้วเราทำทั้งคู่มาประมาณสี่ปี ก็ได้ดีแต่ทำไปทำมา งานลงเหวทั้งคู่ ต้องเลือกอย่างหนึ่งเราเลยเลือกงานที่มีความสุข เงินมากกว่า เก็บไว้หากินได้  แล้วค่อยกลับมาทำงานเดิม และตัดสินใจดีแล้ว... ครอบครัวยอมรับแต่ก็กล่อมทุกวันว่าหากทำสองอย่างได้ก็ทำพร้อมกัน แต่เราทำไม่ได้นี่สิ สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรเขาก็ตามใจเพราะเราไม่เคยให้เขาเดือดร้อนเรื่องเงินกับเราตั้งแต่เราเรียนปีสี่แล้ว เเละเป็นฝ่ายให้ตลอด เราเลยมีอำนาจการตัดสินใจเอง 555


       เราเชื่อว่าเรื่องที่เราทำไม่ใช่การเเหวกเเนวแน่นอน มีคนมากมายหลายคนที่ทำเหมือนเรา แต่คนที่อยู่ใกล้ๆ เราโลกเเคบมาก (มีที่ห่วงกันจริงก็มี) ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่อง passive income หรือการลงทุนอะไรงี้เลย...  คือหลายคนยึดติดโลกเดิมๆ ว่าต้องทำงานกินจ้างรายเดือนตลอดไป... ทั้งที่ทุกวันนี้ข้าวของเเพงมาก คุณทำงานกินจ้างจะเป็นเจ้าของสินทรัพย์นี่ต้องเก็บกันจนเเก่ สำหรับเรา เราตั้งใจว่าจะมีบ้านให้ได้อีกหลัง ในเวลาไม่เกินห้าปี  ก่อนที่จะกลับเข้าวงการงานประจำ เพราะถ้าทำงานประจำเราก็คงผ่อนอยู่สามสิบปีได้... ก่อนหน้านี้ เราซื้อรถยนต์  มอเตอร์ไซค์สองคัน ที่ดินผืนเล็กๆ ด้วยเงินรายได้พิเศษล้วนๆ จากการทำงานสามปี ก็ยังมีคนทักท้วงว่า หากเราลาออกไปทำงานนั้นจริงๆ เราอาจจะอยู่ไม่รอด เฮ้อ... เราก็เหนื่อยจะพูด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราประมาถกับการใช้ชีวิตตัวเอง (แต่เราก็ว่าเราวางแผนรอบคอบนะ ถึงจะมีงานแน่นอน รายได้แน่นอน แต่เราวางเเผนการใช้จ่ายรองรับและกลับเข้าทำงานประจำได้ตลอด) หรือว่าคนมากมายที่คอยทักท้วงเรานั้นโลกแคบกันแน่...
      แต่ในจำนวนคนที่ทักท้วง... ก็มีคนที่เห็นด้วยนะคะ ที่ทำฟรีเเลนซ์ด้วยกัน หรือว่าคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว หรือไม่ก็งานไม่ตรงสายงานหลายๆ คนทำให้เราได้แรงบันดาลใจที่มีมากมาย...
      
       ปล. เพื่อนๆ มีใครทำงานไม่ตรงกับสายงานแล้วเป็นยังไงบ้างคะ ทำแล้วประสบความสำเร็จไหม มีคำครหาหรือไม่... คนรอบข้างว่ายังไงบ้าง อยากมีคนที่เป็นเหมือนกัน  แชร์กันค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่