7 เรื่องอภินิหารอาหารที่เป็นเรื่องจริง!!(มั้ง?)ทางอินเตอร์เน็ตฯ

อันดับ 7 โคลา โคล่าทำให้กระเพาะอาหารของคุณทะลุได้ (Coca-Cola Will Melt Your Stomach)


                โค้ก (Coke) หรือ โคคา โคล่า (Coca Cola) คือเครื่องหมายการค้าของ บริษัทโคคาโคล่า สำนักงานใหญ่อยู่ที่ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ในสหรัฐอเมริกา โค้กเป็นน้ำอัดลมชนิดน้ำโคล่า ที่ได้รับความนิยมในมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

ถึงแม้ว่าโค้กจะถูกอ้างถึงในกรณีที่เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เสียสุขภาพ เช่น ทำให้ฟันผุ ทำให้ปวดท้อง หรือเป็นโรคอ้วน และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือประหลาดๆ เกี่ยวกับตัวมันด้วย ดังนี้

ข่าวลือ

"You can put a T-bone steak in a bowl of Coke and it will be gone in two days.

The active ingredient in Coke is phosphoric acid. Its pH is 2.8. It will dissolve a nail in about 4 days. Phosphoric acid also leaches calcium from bones and is a major contributor to the rising increase in osteoporosis.

To carry Coca-Cola syrup (the concentrate) the commercial truck must use the Hazardous material place cards reserved for Highly corrosive materials."

ใจความบอกว่า ถ้าคุณวาง T-boneสเต็กในชามมันจะละลายเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน  

ซึ่งโค้กมีค่าความเป็นกรดด่างถึง  pH อยู่ 2.8  สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน  ในด้านความเป็นกรด ด่างสารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน  ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน

มันเรื่องจริงหรือเปล่า  th.wikipedia.org/wiki/โค้ก

โค้กมีเรื่องเล่าและข่าวลือมากมายกล่าวถึงผลเสียของโค้ก ซึ่งข่าวลือยังมีปรากฏแม้แต่ในเว็บไซต์สภากาชาดไทย ส่วนมากจะเน้นในแนวขำขันและการนำโค้กไปใช้ในรูปแบบต่างๆ เช่น ปริมาณกรดในโค้กมีมากเพียงพอที่จะทำลายอวัยวะภายในร่างกาย ซึ่งในความเป็นจริงค่าความเป็นกรดด่าง หรือ pH ของโค้กมีค่า 2.5 ซึ่งใกล้เคียงกับมะนาว หรือ เลมอน มีค่า pH 2.4 หรือ ส้ม มีค่า pH 3.5

(นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าตำรวจสหรัฐอเมริกาใช้โค้กในการล้างเลือดบนถนนกรณีเกิดเหตุรถชน, โค้กสามารถละลายฟันในช่องปากในตอนกลางคืน,โค้กใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยใช้โค้กที่มีฤทธิ์เป็นกรดเทฆ่าอสุจิ,โค้กใช้ในการขจัดคราบเกลือ บริเวณขั้วแบตเตอรีรถยนต์ให้สะอาดได้(โดยปกติแล้วคราบเกลือสามารถกำจัดได้โดยใช้น้ำอุ่นธรรมดาเช่นเดียวกัน) ซึ่งข่าวลือต่างๆ เป็นเพียงเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน (ถึงแม้ว่ารายการมิธบัสเตอร์ส ได้มีการทดสอบในการใช้โค้กช่วยในการล้างเลือดที่เปื้อนเสื้อผ้า)


อันดับ 6 กระทิงแดงเป็นมากกว่าเครื่องดื่มและทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง (Red Bull Gives You Wings, and By Wings, We Mean a Brain Tumor)


                กระทิงแดง เป็นเครื่องดื่มให้พลังงานยี่ห้อหนึ่ง (หรือที่นิยมเรียกว่า เครื่องดื่มชูกำลัง) มีส่วนผสมหลักได้แก่ น้ำตาล, คาเฟอีน และแร่ธาตุอื่นๆ ในประเทศไทย กระทิงแดงเป็นที่นิยมของผู้ใช้แรงงานมาเป็นเวลานาน เนื่องจากทำให้ตื่นตัว และแน่นอนมันมีข่าวลือเกี่ยวกับตัวมันด้วย....

ข่าวลือ

Ever wondered what's in a can of Red Bull Energy drink? The small print lists a host of ingredients and among them is an artificially manufactured stimulant developed in the early 60's by the American Government.

Glucuronolactone was first used in the Vietnam conflict to boost morale amongst GI's who were suffering from stress and fatigue, but was banned after a few years following several deaths and hundreds of cases involving anything from severe migraines to brain tumors in personnel prescribed the stimulant.

An article in this month's edition of the British Medical Journal has highlighted a growing number of cases reported by Doctors and Surgeons involving the very same side effects from the 70s. All of the patients examined were regular drinkers of RedBull and it is believed that the safety of Glucuronolactone is currently under review in at least three major European countries."

“เขาบอกว่ากระทิงแดงเป็นอะไรมากกว่าเครื่องดื่มกระตุ้นสมองที่ผลิตโดยรัฐบาลของอเมริกันในยุค 60  แล้วก็บอกว่า ก็บอกว่ากระทิงแดงถูกสั่งเก็บออกจากแผงตลาดในเวียดนามเนื่องจากผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มยี่ห้อนี้เกิดอาการปวดศีรษะข้างเดียวอย่างรุนแรงจนเป็นเนื้องอกในสมอง จากนั้นข่าวลือก็อ้างว่าเป็นของบทความในวารสารของประเทศอังกฤษที่บอกผลการทดลองให้อาสาสมัครดื่มกระทิงแดงทุกวันเพื่อศึกษาผลข้างเคียงเกี่ยวกับเนื้องอกในสมองและล่าสุดมี 3 ประเทศห้ามเครื่องดื่มกระทิงแดงห้ามจำหน่ายแล้ว......”

                มันเรื่องจริงหรือเปล่า th.wikipedia.org/wiki/กระทิงแดง

พี่ครับกระทิงแดงต้นตำหรับเป็นของประเทศไทยนะครับไม่ใช่ของอเมริกันซึ่งต่อมาลิขสิทธิ์ก็ถูกขายให้กับคนออสเตเลียและก็นิยมไปทั่วโลก และทุกข้อกล่าวมานั้นล้วนเป็นเรื่องโกหกหมด ไม่มีใครเป็นเนื้องอกในสมองเพราะดื่มกระทิงแดงหรอกนะ

Red Bull และ กระทิงแดง มีส่วนผสมสำคัญ 3 ประการ คือ ทอรีน (taurine) กรดอะมิโนชนิดหนึ่ง กลูคูโรโนแลคโทน สารที่พบในร่างกายมนุษย์ทั่วไป และ คาเฟอีน ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่า กาแฟชงสำเร็จ 1 แก้ว ซึ่งส่วนผสมดังกล่าว ยังไม่มีข้อพิสูจน์ได้ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ในหลายประเทศก็มีคำแนะนำว่า อย่าดื่มผสมกับแอลกอฮอล

สำหรับสหภาพยุโรปแล้ว มีเพียงประเทศฝรั่งเศสและเดนมาร์กเท่านั้น ที่ห้ามการจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งรัฐสภาของสหภาพยุโรปก็โต้แย้งว่าคำสั่งห้ามไม่ถูกต้อง หลังจากที่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ได้ประกาศผลการสอบสวนครั้งแรกออกมาว่า ไม่มีข้อพิสูจน์มากพอที่จะระบุว่า สารอย่าง ทอรีน และ กลูคูโรโนแลคโทนที่ผสมในเครื่องดื่มนี้ มีปริมาณสูงเกินกว่าขั้นอันตรายได้ แต่นั้นต้องพิสูจน์ต่อไป(ไม่มีการห้ามดื่มเกินขนาด ยกเว้นในประเทศไทยซึ่งเป็นต้นกำเนิดเท่านั้น)





อันดับ 5 ผงชูรสทำให้สมองของคุณไหม้ (MSG Burns Your Brain Cells)


                ผงชูรส เป็นชื่อกลางที่ใช้เรียก โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glutamate) วัตถุเจือปนอาหารประเภท วัตถุปรุงแต่งรสอาหารที่มีการใช้ในอาหารกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผงชูรสมีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น มีประโยชน์ในการเป็นสารเพิ่มรสชาติอาหาร ทำให้อาหารมีรสชาติโดยรวมดีขึ้น

ข่าวลือ

"Monosodium glutamate (MSG) is a dangerous food ingredient compound known as an excitotoxin. Excitotoxins are proteins which make brain cells fire their impulses rapidly when they make contact with it. The cells become so hyper-excited that they continue to fire until the cell is exhausted, and subsequently die.

Monosodium glutamate isn't just sensed by the taste buds in our tongues, it also triggers and excites the neurons in the brain. Free glutamic acid is able to reach the brain where it can injure and kill the neurons.

This acid doesn't cause a problem in anyone when it is a part of whole, natural, God created unprocessed food. It becomes a problem when man separates it through a chemical process in a laboratory."

มันเรื่องจริงหรือเปล่า th.wikipedia.org/wiki/ผงชูรส

" คร่าวๆ เขาบอกว่า ผงชูรส  Monosodium  glutamate ( MSG ) มีเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่อันตราย นั้นคือ excitotoxin  Excitotoxins เป็นโปรตีนที่ทำให้เซลล์สมองเสื่อม ตาย เหมือนจุดไฟเผา และตายลงอย่างช้าๆ และนอกจากนี้ยังส่งผลต่อเซลล์ประสาท ตบท้ายด้วยก็อ้างถึงผลการทดลองในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์."

                น่าสังเกตส่วนใหญ่ข่าวลื่อมักอ้างผลการทดลองต่างๆ นาๆ ซึ่งไม่บอกว่ามันเป็นที่ไหนใครเป็นผู้ทดลองว่ามันจริงแท้ขนาดไหน จริงอยู่ผงชูรสนั้นค่อนข้างเป็นอันตราย แต่กระนั้นมันก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ เช่น มีการกล่าวหาว่าการบริโภคผงชูรสเป็นสาเหตุของ ผมร่วง ตาบอด เป็นหมัน เนื้องอกในสมอง มะเร็ง เป็นพิษต่อเด็กทารกและสตรีมีครรภ์ หรือแม้กระทั่งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง(AIDS) เป็นต้น แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยที่บอกว่ามันจริงหรือเปล่า??

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารก็ออกมายืนยันว่า ผงชูรสเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่มีพิษต่ำ นอกจากนี้ถ้าเราบริโภคผงชูรสจนถึงขั้นอันตรายจริง ร่างกายก็จะขับกลูตาเมตส่วนเกินร่างกายโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่มีทางที่ทำให้เกิดการสะสมของกลูตาเมตในกระแสเลือดอย่างแน่นอนและมันไม่มีทางไปถึงสมองแน่ๆ



อันดับ 4 ดื่มน้ำเย็นหลังอาหารจะทำให้เป็นมะเร็งในลำไส้ (Cold Water After a Meal will Give You Cancer... Or a Heart Attack...)


               หลายคนๆเคยชินกับการดื่มเครื่องดื่มเย็นๆหลังจากรับประทานอาหารใช่เปล่าละ แต่แล้ววันหนึ่งคุณเกิดไปเปิดเมล์หนึ่งเข้า ซึ่งมันทำให้ตะลึงและเครียดโดยพลัน.......

ข่าวลือ

"For those who like to drink cold water, this article is applicable to you. It is nice to have a cup of cold drink after a meal. However, the cold water will solidify the oily stuff that you have just consumed.

A cardiologist says if everyone who gets this mail sends it to 10 people, you can be sure that we'll save at least one life. Once this "sludge" reacts with the acid, it will break down and be absorbed by the intestine faster than the solid food. It will line the intestine. Very soon, this will turn into fats and lead to cancer. It is best to drink hot soup or warm water after a meal. A serious note about heart attacks: You should know that not every heart attack symptom is going to be the left arm hurting. Be aware of intense pain in the jaw line. Nausea and intense sweating are also common symptoms."

มันเรื่องจริงหรือเปล่า http://www.school.net.th/schoolnet/article/articles_read.php?article_id=185

มันเขียนไว้ว่า “เวลาได้กินน้ำเย็นๆ สักแก้ว หลังอาหารมันรู้สึกชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่าน้ำเย็นจะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปจับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วถูกดูดซึมไปที่ลำไส้ ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไปแล้วจะเคลือบลำไส้เราไว้ ในไม่ช้ามันก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อนๆ และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหารดีกว่า???”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  วิทยาศาสตร์ เรื่องลึกลับ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่