ถ้าขี้เกียจอ่าน อ่านแค่ตัวหนาก็ได้ค่ะ
ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว เลยไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ที่บ้านนี่จะเป็นยังไงกัน (บ้านแม่กับบ้านเรา ห่างกันก็แค่ขับรถชั่วโมงเดียวค่ะ)
แล้วก็อย่างที่หัวข้อกระทู้นั่นแหละค่ะ เราไม่ได้หมายความว่าแม่รักน้องมากกว่านะคะ เพราะแม่ก็พูดบ่อยๆ ว่าน้องก็น้อยใจนะ มีอะไรก็พี่อย่างเดียวเลย
แต่ที่เรากลุ้มใจนี่คือเรากลัวน้องเป็นคนใช้เงินเก่งค่ะ ไม่รู้ว่าแม่เห็นด้วย แม่ไม่รู้เรื่อง รึว่าแม่ไม่ว่าอะไรกันแน่ที่น้องเป็นแบบนี้ เพราะน้องเพิ่งอยู่แค่ ม.1 เองค่ะ แต่ได้เงินไปโรงเรียนวันละร้อยกว่าบาท เราไม่รู้ว่าคนอื่นได้ไปเยอะกว่านี้รึเปล่า แต่เราคิดว่ามันเยอะนะคะ เพราะตอนเราอยู่ ม.1 ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 80 บาทเอง นั่งรถไปกลับเอง แต่สมัยนั้นกับสมัยนี้ ไม่รู้อะไรจะแพงขึ้นขนาดไหน (ไม่น่าจะนานนะคะ เพราะเรากับน้องห่างกัน 8 ปี แล้วเราก็ผ่านมอปลายมาสองสามปีแล้ว)
ได้เงินไปโรงเรียนร้อยกว่าบาทเนี่ย ค่ารถก็ไม่ได้เสีย ค่ากับข้าวเสียรึเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะซื้อกินเอง เต็มที่ก็จานละ 30 บาท แล้วก็ค่าขนมอีก บางคนอาจจะบอกว่าเอาไปทำรายงานไง ไม่หรอกค่ะ เพราะเราเปิดร้านเน็ต ขายเครื่องเขียน รายงานก็ไม่ได้ไปทำที่อื่นหรอกค่ะ แล้วคิดดูนะคะ ม.1 ยังได้เงินไปขนาดนี้ ถ้าพอขึ้นมอปลายไปจะได้วันละกี่บาท เพราะยังไงก็คงต้องให้เพิ่มอยู่ดี ตรงนี้ไม่ว่ากันค่ะเพราะน้องก็เหลือกลับมาบ้างแหละ แต่เอาไปซื้อการ์ตูนอ่านเล่นแล้วก็วางทิ้งไว้ในรถให้มันรกเล่นๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องเงินนะคะ อย่างมาทีร้านที่เราอยู่เนี่ย มาทำการบ้านมาทำรายงาน พอตอนจะกลับบ้านเนี่ย พ่อก็ขึ้นรถรอแล้ว แม่ก็เก็บของเข้ารถอยู่ น้องเราก็จะหยิบปากกาที่ชั้นขายไปค่ะ แรกๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เออ เอาไปใช้ แต่หลังๆ มา มาทุกครั้งหยิบทุกครั้ง คือก็ไม่รู้ว่าหยิบไปบ่อยๆ เนี่ย เอาไปทำอะไร เอาไปให้เพื่อนรึว่ายังไง ถ้าบอกว่าหมึกหมดก็คงไม่หมดง่ายขนาดนั้นมั้งคะ พอถามว่า คราวที่แล้วก็เอาไป เอาไปทำอะไรอีก น้องก็จะทำหน้าไม่พอใจ พูดเป็นเชิงกระแทกเสียงใส่เรา 'ฮุ๊ย ทำไมล่ะ!' ถ้าวันไหนไม่หยิบปปากกาก็จะไปหยิบดินสอบ้าง อย่างอื่นบ้าง
หลายคนอาจจะบอกว่าแค่ปากกาเอง (เพราะแม่เราก็พูดอย่างนี้ค่ะ เข้าข้างกันเต็มที่) แต่ว่า เมื่อสามสี่ครั้งก่อนหน้านี้ แฟนถามเราว่าน้องหยิบปากกาไปอีกแล้วเหรอ พี่เห็นน่ะ หยิบปากกาแดงมาจากชั้นจะทำการบ้าน ทีนี้เอามาขีดเส้นมันคงใช้ไม่ดี ก็เลยหักปากกาแล้วทิ้งลงถังขยะ แล้วก็ไปหยิบเอาด้ามใหม่ที่ชั้น คือเราไม่มีอะไรจะพูดเลยค่ะ พูดไม่ออก แก้ตัวแทนไม่ได้ เราก็ไม่อยากให้ใครมาว่าน้อง ว่าคนในครอบครัวหรอกค่ะ
มาที่โบว์ติดผมค่ะ อันนี้ไม่บ่อยเท่าปากกา แต่ก็ได้พูดอยู่เหมือนกันว่าอีกแล้วเหรอ? ไม่ใช่โบว์เส้นเอาไปผูกนะคะ เป็นโบว์กิ๊บน่ะค่ะเอาไปติดเลย (แต่หลังๆ มานี้เปลี่ยนเป็นโบว์เส้นแล้วค่ะ) เราก็ถามว่าอันเก่าอยู่ไหน ไม่ตอบค่ะแต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่แล้วเดินหนี บางครั้งพอเรานั่งรถของแม่ก็เห็นวางอยู่ในรถล่ะค่ะ คอนโซลข้างหน้าบ้าง ที่เบาะหลังบาง ตรงแถวๆ เกียร์รถบ้าง ที่รถพ่อก็มีค่ะ
เราอยากจะบอกน้องนะคะว่าครอบครัวเราก็ไม่ได้รวยมาก อย่าใช้เงินเปลือง แต่พูดไม่ได้ค่ะ ทำท่าไม่พอใจก็ ฮุ๊ยๆ ใส่เรา น้องไม่กลัวเราหรอกค่ะ แม่ตามใจ แม่ให้ท้ายตลอด แม่เข้าข้างตลอดเลย เลยทำให้น้องเอาแต่ใจ แล้วก็มานั่งไม่พอใจเอาเองเวลาน้องทำเสียงฮุ๊ยๆ ใส่
แม่ชอบยกยอน้องค่ะ ว่าเรียนเก่ง เราก็ เออดีนะ น้องเรียนเก่ง ทีนี้บอกสอบอะไรสักอย่างได้คะแนนเยอะ ก็ดีใจ แม่ก็บอกเก่งๆ จะไม่ได้เยอะได้ไงล่ะ ก็น้องให้เราทำให้ การบ้านก็เอามาให้ทำให้ คราาวที่จะประกวดหนูน้อยนพมาศค่ะ ก็ต้องมีความสามารถพิเศษ แ่ม่กับน้องไม่สนใจเลย พูดเล่นกันจนถึงวันประกวดเลยค่ะ หนูเล่นฮูลาฮูปได้ค่ะ หนูจะเต้นเพลงนั้นเพลงนี้ค่ะ เราก็แบบ แม่ เดี๋ยวพอถึงวันจริงก็ไม่มีอะไรไปโชว์เขาหรอก แม่ก็บอกไม่ต้องมายุ่ง น้องทำได้อยู่แล้ว น้องก็เชิดหน้ายิ้มใหญ่เลยค่ะ พอถึงวันประกวดริง แม่ก็ถามน้องจะทำอะไร น้องก็ไม่ตอบค่ะ แม่ก็ดุน้อง พาลมาเร่งให้เราสอนน้องรำในวันนั้น เราก็พูดนะคะ บอกแล้ว ให้ซ้อมเอาไว้แต่ทีแรก น้องก็หน้าบึ้ง นิ่วหน้าไม่พอใจ แม่ก็แบบสอนๆ ไปเหอะ เฮ้อ
มีครั้งนึงคุยอะไรกันไมรู้อยู่ดีๆ ล่ะค่ะ แม่ก็พูดแหย่อะไรน้องสักอย่าง น้องก็บอกว่า เดี๋ยวตบเลย ทั้งพ่อทั้งแม่หุบยิ้มทันใดเลยค่ะแล้วก็จ้องหน้าน้อง น้องก็พูดกระแทกเสียงใส่แม่ 'ทำไมล่ะ!' พอแม่บอกเดี๋ยวเหอะๆ น้องก็ฮุ๊ยใส่แล้วเดินหนี เราว่าน้องก็กลัวพ่อกับแม่แหละค่ะ แต่ชอบแสดงอาการแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นเราพูดเดี๋ยวตบเลยกับแม่นี่ แม่คงตบเราแล้วค่ะ แต่เราไม่กล้าพูดหรอกค่ะ
เราไม่รู้ว่าแม่ตีน้องรึเปล่า เราไม่เคยเห็น แต่เรานี่ถูกแม่ตีบ่อยค่ะ ทั้งไม้แขวนเสื้อ โดนหยิกบ้าง เอานิ้วจิ้มหัวแล้วก็ด่า บีบแขน เราไม่โต้ตอบหรอก เรากลัวแม่ ไม่เถียงด้วย เพราะแม่เป็นคนใจร้อน ถ้าเถียงก็คงเหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ คงโกรธกว่าเดิม เราว่าไม่มีอะไรดีขึ้น เราเป็นลูกพ่อค่ะ เพราะเราเหมือนพ่อ ไม่ค่อยพูด ใจเย็น (ที่จริงเราดูเหมือนใจเย็นแต่ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่เราไม่อยากมีเรื่อง กลัวจะยาว) ส่วนน้องน่ะลูกแม่เหมือนแม่เปี๊ยบ เถียงก็ไม่ได้ พูดบอกอะไรก็ไม่ได้
อย่างไอแพดนี่ เครื่องละหมื่นกว่ารวมอันนั้นอันนี้ก็ปาไปหมื่นห้า คนอื่นอาจจะบอกว่าไม่แพง สำหรับเรานี่แพงนะคะ เราไม่ได้รวยขนาดจะซื้ออะไรก็ได้ แค่พอมีพอกิน แล้วน้องบอกอยากได้จริงๆ พ่อก็เลยตามใจ แล้วทีนี้หลังๆ มาเราไม่เห็นน้องถือเลย พอถามว่าไอแพดอยู่ไหนก็บอกอยู่บ้าน พอไปหาที่บ้านขอยืมเล่นหน่อยก็ไม่ให้ วันนึงเราเลยเข้าไปหาดู วางอยู่บนหัวเตียง เปิดออกดูนี่ หน้าจอร้าวค่ะ เราก็เลยถามพ่อกับแม่รู้มั้ยว่ามันร้าวนะ คือก็ไม่พังหรอกค่ะ ยังเล่นได้ แค่จอมันร้าวเฉยๆ
เราไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ดุน้องรึเปล่าที่ไม่รักษาของแบบนี้ คือมันไม่ยังไม่ถึงปีเลยมั้งคะไอแพดเครื่องนี้น่ะ เราก็เล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกถ้าเด็กแถวบ้านนะได้ของแพงขนาดนี้ มีอะไรนิดหน่อยก็บอกให้พ่อให้แม่พาไปซ่อมแล้ว แต่น้องเราเก็บเงียบไว้ อาจจะกลัวโดนแม่ดุมั้งคะ แล้วก่อนหน้านั้นก็เคยได้แท็บเล็ตมาเครื่องนึง ใช้ๆ แล้วก็เลิกเล่นอีก ทีนี้อยากได้โทรศัพท์แบบทัชสกรีนน่ะค่ะ ก็ขอแม่ไปซื้อ ไม่นานค่ะ อยากได้ไอแพดอีก เป็นเรานี่ไม่กล้าขอนะ ไอ้อยากได้ก็อยากค่ะ อิจฉาคนอื่นก็เป็น แต่ว่าเราก็มีใช้อยู่แล้ว (โทรศัพท์เราโนเกีย 200 ทนมากค่ะ) ซื้ออีกทำไม
เราว่าน้องคงไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะถ้าไม่โดนเป่าหู คือน้องเขาจะชอบไปเล่นกับลูกพี่ลูกน้องน่ะค่ะ บ้านเขาเป็นทางผ่านมาบ้านเรา น้องติดพี่คนนั้นมาก อาจจะเพราะเขาตามใจ อะไรก็ไม่ว่า แล้วทางนั้นเขาก็ใช้พวกไอโฟน มือถือทัชสกรีนพวกนี้น่ะค่ะ เราก็ไม่อยากให้ไปยุ่งกับทางนั้นเท่าไร แต่น้องเราชอบค่ะ เพราะมาอยู่กับเราเราไม่ค่อยตามใจ ชอบให้ช่วยงานตอนที่เราไม่ว่าง ล้างจ่านหน่อย ขายของหน่อย
สรุปคือน้องเอาแต่ใจค่ะ แล้วแม่ก็ตามใจมาก ตามใจจนเคยชิน อยากได้อะไรก็ซื้อให้ แล้วก็ยังใช้เงินแบบไม่รู้ค่าของเงินค่ะ
ล่าสุด เมื่อวานนี้ค่ะ ตอนจะกลับบ้าน น้องหยิบปากกาไปอีกค่ะ เราก็ถามว่าอันเก่าไปไหน เงียบค่ะ เราก็พูดต่อ มาทุกครั้งหยิบทุกครั้งเลยนะ อันไหนใช้ไม่ดีก็หักทิ้งเหรอ? น้องยิ้มค่ะ คงคิดว่าเราพูดเล่น เพราะเราก็พยายามจะไม่ทำเสียงแบบดุๆ ใส่ "เอาไปทำอะไรเยอะแยะ" ทีนี้หน้าบึ้งเลยค่ะ แม่มาเห็นพอดี ก็พูดแบบว่าาเรางกอ่ะค่ะ "แค่นี้ให้น้องก็ไม่ได้" น้องก็เลยเอาปากกาไปไว้ที่เดิมแล้วก็บ่นๆ "ไปซื้อที่โรงเรียนก็ได้ ถูกกว่าที่นี่อีก" แม่เราก็แบบ "เนอะหนู ไปซื้อเอาใหม่ก็ได้ อันละไม่กี่บาท"
ตอนจะนอนแฟนเราก็บอกเดี๋ยวคอยดูนะ พรุ่งนี้แม่มาคงจะว่าให้เราแน่ๆ แทบจะร้องไห้เลยค่ะ แค่เป็นห่วงน้อง ถ้าสักวันงานไม่ค่อยมีจะหาเงินที่ไหนมาให้ใช้ หาเงินยังไม่เป็นแล้วใช้เยอะแบบนี้ โตไปกว่านี้จะใช้ขนาดไหน
เราแค่อยากให้แม่เข้าใจน่ะค่ะ แต่ถ้าแม่โกรธขึ้นมาอะไรก็ไม่ฟังหรอก อยากจะพูดกับแม่นะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่กล้าพูด เดี๋ยวหาว่าเรางกกับน้อง เพราะแม่บอกว่า จะงกน่ะ งกกับคนอื่นได้ แต่กับคนในครอบครัวอย่าทำ แล้วกับน้องเราว่าเราไม่ได้งก แค่อยากให้รู้จักใช้บ้าง ถ้าแม่โกรธจริงๆ คงจะต้องคุยกับพ่อแทนแล้วให้พ่อไปคุยกับแม่อีกที เพราะพ่อใจเย็น อย่างน้อยถ้าตรงไหนเราเข้าใจผิดพ่อก็จะพูดเหตุผล ให้เราเข้าใจใหม่ได้ ถ้าเราพูดกับแม่เองนี่เราผิดตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เถียงไม่ได้ เถียงไม่ทันก็เลยไม่เถียง พูดเหตุผลก็ไม่สนใจ เวลาเป็นการเป็นงานเราเลยพูดกับพ่อแทน
เหนื่อยค่ะ เหนื่อยใจ แค่อยากให้น้องรู้ว่าเราเป็นห่วง อยากให้แม่เข้าใจค่ะ ว่าเราแค่เป็นห่วงน้อง ว่าต่อไปข้างหน้าจะทำยังไงถ้าเราไม่ได้อยู่ดีกินดีเหมือนทุกวันนี้ กลัวน้องอยู่ไม่ได้ เพราะพอเราพูดไปแม่ก็แบบ ฉันเลี้ยงได้ๆ แต่นานไปพ่อกับแม่ก็แก่ขึ้น จะมาคอยทำงานหาเลี้ยงแบบนี้ไปตลอดก็คงไม่ไหวหรอก เหนื่อยใจมากค่ะ กลัวแม่ไม่เข้าใจ
ยาวไปหน่อย ขออภัยนะคะ
คิดมากค่ะ แม่ตามใจน้องเกินไป
ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว เลยไม่รู้ว่าตอนที่อยู่ที่บ้านนี่จะเป็นยังไงกัน (บ้านแม่กับบ้านเรา ห่างกันก็แค่ขับรถชั่วโมงเดียวค่ะ)
แล้วก็อย่างที่หัวข้อกระทู้นั่นแหละค่ะ เราไม่ได้หมายความว่าแม่รักน้องมากกว่านะคะ เพราะแม่ก็พูดบ่อยๆ ว่าน้องก็น้อยใจนะ มีอะไรก็พี่อย่างเดียวเลย
แต่ที่เรากลุ้มใจนี่คือเรากลัวน้องเป็นคนใช้เงินเก่งค่ะ ไม่รู้ว่าแม่เห็นด้วย แม่ไม่รู้เรื่อง รึว่าแม่ไม่ว่าอะไรกันแน่ที่น้องเป็นแบบนี้ เพราะน้องเพิ่งอยู่แค่ ม.1 เองค่ะ แต่ได้เงินไปโรงเรียนวันละร้อยกว่าบาท เราไม่รู้ว่าคนอื่นได้ไปเยอะกว่านี้รึเปล่า แต่เราคิดว่ามันเยอะนะคะ เพราะตอนเราอยู่ ม.1 ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 80 บาทเอง นั่งรถไปกลับเอง แต่สมัยนั้นกับสมัยนี้ ไม่รู้อะไรจะแพงขึ้นขนาดไหน (ไม่น่าจะนานนะคะ เพราะเรากับน้องห่างกัน 8 ปี แล้วเราก็ผ่านมอปลายมาสองสามปีแล้ว)
ได้เงินไปโรงเรียนร้อยกว่าบาทเนี่ย ค่ารถก็ไม่ได้เสีย ค่ากับข้าวเสียรึเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะซื้อกินเอง เต็มที่ก็จานละ 30 บาท แล้วก็ค่าขนมอีก บางคนอาจจะบอกว่าเอาไปทำรายงานไง ไม่หรอกค่ะ เพราะเราเปิดร้านเน็ต ขายเครื่องเขียน รายงานก็ไม่ได้ไปทำที่อื่นหรอกค่ะ แล้วคิดดูนะคะ ม.1 ยังได้เงินไปขนาดนี้ ถ้าพอขึ้นมอปลายไปจะได้วันละกี่บาท เพราะยังไงก็คงต้องให้เพิ่มอยู่ดี ตรงนี้ไม่ว่ากันค่ะเพราะน้องก็เหลือกลับมาบ้างแหละ แต่เอาไปซื้อการ์ตูนอ่านเล่นแล้วก็วางทิ้งไว้ในรถให้มันรกเล่นๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องเงินนะคะ อย่างมาทีร้านที่เราอยู่เนี่ย มาทำการบ้านมาทำรายงาน พอตอนจะกลับบ้านเนี่ย พ่อก็ขึ้นรถรอแล้ว แม่ก็เก็บของเข้ารถอยู่ น้องเราก็จะหยิบปากกาที่ชั้นขายไปค่ะ แรกๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เออ เอาไปใช้ แต่หลังๆ มา มาทุกครั้งหยิบทุกครั้ง คือก็ไม่รู้ว่าหยิบไปบ่อยๆ เนี่ย เอาไปทำอะไร เอาไปให้เพื่อนรึว่ายังไง ถ้าบอกว่าหมึกหมดก็คงไม่หมดง่ายขนาดนั้นมั้งคะ พอถามว่า คราวที่แล้วก็เอาไป เอาไปทำอะไรอีก น้องก็จะทำหน้าไม่พอใจ พูดเป็นเชิงกระแทกเสียงใส่เรา 'ฮุ๊ย ทำไมล่ะ!' ถ้าวันไหนไม่หยิบปปากกาก็จะไปหยิบดินสอบ้าง อย่างอื่นบ้าง
หลายคนอาจจะบอกว่าแค่ปากกาเอง (เพราะแม่เราก็พูดอย่างนี้ค่ะ เข้าข้างกันเต็มที่) แต่ว่า เมื่อสามสี่ครั้งก่อนหน้านี้ แฟนถามเราว่าน้องหยิบปากกาไปอีกแล้วเหรอ พี่เห็นน่ะ หยิบปากกาแดงมาจากชั้นจะทำการบ้าน ทีนี้เอามาขีดเส้นมันคงใช้ไม่ดี ก็เลยหักปากกาแล้วทิ้งลงถังขยะ แล้วก็ไปหยิบเอาด้ามใหม่ที่ชั้น คือเราไม่มีอะไรจะพูดเลยค่ะ พูดไม่ออก แก้ตัวแทนไม่ได้ เราก็ไม่อยากให้ใครมาว่าน้อง ว่าคนในครอบครัวหรอกค่ะ
มาที่โบว์ติดผมค่ะ อันนี้ไม่บ่อยเท่าปากกา แต่ก็ได้พูดอยู่เหมือนกันว่าอีกแล้วเหรอ? ไม่ใช่โบว์เส้นเอาไปผูกนะคะ เป็นโบว์กิ๊บน่ะค่ะเอาไปติดเลย (แต่หลังๆ มานี้เปลี่ยนเป็นโบว์เส้นแล้วค่ะ) เราก็ถามว่าอันเก่าอยู่ไหน ไม่ตอบค่ะแต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่แล้วเดินหนี บางครั้งพอเรานั่งรถของแม่ก็เห็นวางอยู่ในรถล่ะค่ะ คอนโซลข้างหน้าบ้าง ที่เบาะหลังบาง ตรงแถวๆ เกียร์รถบ้าง ที่รถพ่อก็มีค่ะ
เราอยากจะบอกน้องนะคะว่าครอบครัวเราก็ไม่ได้รวยมาก อย่าใช้เงินเปลือง แต่พูดไม่ได้ค่ะ ทำท่าไม่พอใจก็ ฮุ๊ยๆ ใส่เรา น้องไม่กลัวเราหรอกค่ะ แม่ตามใจ แม่ให้ท้ายตลอด แม่เข้าข้างตลอดเลย เลยทำให้น้องเอาแต่ใจ แล้วก็มานั่งไม่พอใจเอาเองเวลาน้องทำเสียงฮุ๊ยๆ ใส่
แม่ชอบยกยอน้องค่ะ ว่าเรียนเก่ง เราก็ เออดีนะ น้องเรียนเก่ง ทีนี้บอกสอบอะไรสักอย่างได้คะแนนเยอะ ก็ดีใจ แม่ก็บอกเก่งๆ จะไม่ได้เยอะได้ไงล่ะ ก็น้องให้เราทำให้ การบ้านก็เอามาให้ทำให้ คราาวที่จะประกวดหนูน้อยนพมาศค่ะ ก็ต้องมีความสามารถพิเศษ แ่ม่กับน้องไม่สนใจเลย พูดเล่นกันจนถึงวันประกวดเลยค่ะ หนูเล่นฮูลาฮูปได้ค่ะ หนูจะเต้นเพลงนั้นเพลงนี้ค่ะ เราก็แบบ แม่ เดี๋ยวพอถึงวันจริงก็ไม่มีอะไรไปโชว์เขาหรอก แม่ก็บอกไม่ต้องมายุ่ง น้องทำได้อยู่แล้ว น้องก็เชิดหน้ายิ้มใหญ่เลยค่ะ พอถึงวันประกวดริง แม่ก็ถามน้องจะทำอะไร น้องก็ไม่ตอบค่ะ แม่ก็ดุน้อง พาลมาเร่งให้เราสอนน้องรำในวันนั้น เราก็พูดนะคะ บอกแล้ว ให้ซ้อมเอาไว้แต่ทีแรก น้องก็หน้าบึ้ง นิ่วหน้าไม่พอใจ แม่ก็แบบสอนๆ ไปเหอะ เฮ้อ
มีครั้งนึงคุยอะไรกันไมรู้อยู่ดีๆ ล่ะค่ะ แม่ก็พูดแหย่อะไรน้องสักอย่าง น้องก็บอกว่า เดี๋ยวตบเลย ทั้งพ่อทั้งแม่หุบยิ้มทันใดเลยค่ะแล้วก็จ้องหน้าน้อง น้องก็พูดกระแทกเสียงใส่แม่ 'ทำไมล่ะ!' พอแม่บอกเดี๋ยวเหอะๆ น้องก็ฮุ๊ยใส่แล้วเดินหนี เราว่าน้องก็กลัวพ่อกับแม่แหละค่ะ แต่ชอบแสดงอาการแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นเราพูดเดี๋ยวตบเลยกับแม่นี่ แม่คงตบเราแล้วค่ะ แต่เราไม่กล้าพูดหรอกค่ะ
เราไม่รู้ว่าแม่ตีน้องรึเปล่า เราไม่เคยเห็น แต่เรานี่ถูกแม่ตีบ่อยค่ะ ทั้งไม้แขวนเสื้อ โดนหยิกบ้าง เอานิ้วจิ้มหัวแล้วก็ด่า บีบแขน เราไม่โต้ตอบหรอก เรากลัวแม่ ไม่เถียงด้วย เพราะแม่เป็นคนใจร้อน ถ้าเถียงก็คงเหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ คงโกรธกว่าเดิม เราว่าไม่มีอะไรดีขึ้น เราเป็นลูกพ่อค่ะ เพราะเราเหมือนพ่อ ไม่ค่อยพูด ใจเย็น (ที่จริงเราดูเหมือนใจเย็นแต่ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่เราไม่อยากมีเรื่อง กลัวจะยาว) ส่วนน้องน่ะลูกแม่เหมือนแม่เปี๊ยบ เถียงก็ไม่ได้ พูดบอกอะไรก็ไม่ได้
อย่างไอแพดนี่ เครื่องละหมื่นกว่ารวมอันนั้นอันนี้ก็ปาไปหมื่นห้า คนอื่นอาจจะบอกว่าไม่แพง สำหรับเรานี่แพงนะคะ เราไม่ได้รวยขนาดจะซื้ออะไรก็ได้ แค่พอมีพอกิน แล้วน้องบอกอยากได้จริงๆ พ่อก็เลยตามใจ แล้วทีนี้หลังๆ มาเราไม่เห็นน้องถือเลย พอถามว่าไอแพดอยู่ไหนก็บอกอยู่บ้าน พอไปหาที่บ้านขอยืมเล่นหน่อยก็ไม่ให้ วันนึงเราเลยเข้าไปหาดู วางอยู่บนหัวเตียง เปิดออกดูนี่ หน้าจอร้าวค่ะ เราก็เลยถามพ่อกับแม่รู้มั้ยว่ามันร้าวนะ คือก็ไม่พังหรอกค่ะ ยังเล่นได้ แค่จอมันร้าวเฉยๆ
เราไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ดุน้องรึเปล่าที่ไม่รักษาของแบบนี้ คือมันไม่ยังไม่ถึงปีเลยมั้งคะไอแพดเครื่องนี้น่ะ เราก็เล่าให้แฟนฟัง แฟนบอกถ้าเด็กแถวบ้านนะได้ของแพงขนาดนี้ มีอะไรนิดหน่อยก็บอกให้พ่อให้แม่พาไปซ่อมแล้ว แต่น้องเราเก็บเงียบไว้ อาจจะกลัวโดนแม่ดุมั้งคะ แล้วก่อนหน้านั้นก็เคยได้แท็บเล็ตมาเครื่องนึง ใช้ๆ แล้วก็เลิกเล่นอีก ทีนี้อยากได้โทรศัพท์แบบทัชสกรีนน่ะค่ะ ก็ขอแม่ไปซื้อ ไม่นานค่ะ อยากได้ไอแพดอีก เป็นเรานี่ไม่กล้าขอนะ ไอ้อยากได้ก็อยากค่ะ อิจฉาคนอื่นก็เป็น แต่ว่าเราก็มีใช้อยู่แล้ว (โทรศัพท์เราโนเกีย 200 ทนมากค่ะ) ซื้ออีกทำไม
เราว่าน้องคงไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะถ้าไม่โดนเป่าหู คือน้องเขาจะชอบไปเล่นกับลูกพี่ลูกน้องน่ะค่ะ บ้านเขาเป็นทางผ่านมาบ้านเรา น้องติดพี่คนนั้นมาก อาจจะเพราะเขาตามใจ อะไรก็ไม่ว่า แล้วทางนั้นเขาก็ใช้พวกไอโฟน มือถือทัชสกรีนพวกนี้น่ะค่ะ เราก็ไม่อยากให้ไปยุ่งกับทางนั้นเท่าไร แต่น้องเราชอบค่ะ เพราะมาอยู่กับเราเราไม่ค่อยตามใจ ชอบให้ช่วยงานตอนที่เราไม่ว่าง ล้างจ่านหน่อย ขายของหน่อย
สรุปคือน้องเอาแต่ใจค่ะ แล้วแม่ก็ตามใจมาก ตามใจจนเคยชิน อยากได้อะไรก็ซื้อให้ แล้วก็ยังใช้เงินแบบไม่รู้ค่าของเงินค่ะ
ล่าสุด เมื่อวานนี้ค่ะ ตอนจะกลับบ้าน น้องหยิบปากกาไปอีกค่ะ เราก็ถามว่าอันเก่าไปไหน เงียบค่ะ เราก็พูดต่อ มาทุกครั้งหยิบทุกครั้งเลยนะ อันไหนใช้ไม่ดีก็หักทิ้งเหรอ? น้องยิ้มค่ะ คงคิดว่าเราพูดเล่น เพราะเราก็พยายามจะไม่ทำเสียงแบบดุๆ ใส่ "เอาไปทำอะไรเยอะแยะ" ทีนี้หน้าบึ้งเลยค่ะ แม่มาเห็นพอดี ก็พูดแบบว่าาเรางกอ่ะค่ะ "แค่นี้ให้น้องก็ไม่ได้" น้องก็เลยเอาปากกาไปไว้ที่เดิมแล้วก็บ่นๆ "ไปซื้อที่โรงเรียนก็ได้ ถูกกว่าที่นี่อีก" แม่เราก็แบบ "เนอะหนู ไปซื้อเอาใหม่ก็ได้ อันละไม่กี่บาท"
ตอนจะนอนแฟนเราก็บอกเดี๋ยวคอยดูนะ พรุ่งนี้แม่มาคงจะว่าให้เราแน่ๆ แทบจะร้องไห้เลยค่ะ แค่เป็นห่วงน้อง ถ้าสักวันงานไม่ค่อยมีจะหาเงินที่ไหนมาให้ใช้ หาเงินยังไม่เป็นแล้วใช้เยอะแบบนี้ โตไปกว่านี้จะใช้ขนาดไหน
เราแค่อยากให้แม่เข้าใจน่ะค่ะ แต่ถ้าแม่โกรธขึ้นมาอะไรก็ไม่ฟังหรอก อยากจะพูดกับแม่นะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่กล้าพูด เดี๋ยวหาว่าเรางกกับน้อง เพราะแม่บอกว่า จะงกน่ะ งกกับคนอื่นได้ แต่กับคนในครอบครัวอย่าทำ แล้วกับน้องเราว่าเราไม่ได้งก แค่อยากให้รู้จักใช้บ้าง ถ้าแม่โกรธจริงๆ คงจะต้องคุยกับพ่อแทนแล้วให้พ่อไปคุยกับแม่อีกที เพราะพ่อใจเย็น อย่างน้อยถ้าตรงไหนเราเข้าใจผิดพ่อก็จะพูดเหตุผล ให้เราเข้าใจใหม่ได้ ถ้าเราพูดกับแม่เองนี่เราผิดตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ เถียงไม่ได้ เถียงไม่ทันก็เลยไม่เถียง พูดเหตุผลก็ไม่สนใจ เวลาเป็นการเป็นงานเราเลยพูดกับพ่อแทน
เหนื่อยค่ะ เหนื่อยใจ แค่อยากให้น้องรู้ว่าเราเป็นห่วง อยากให้แม่เข้าใจค่ะ ว่าเราแค่เป็นห่วงน้อง ว่าต่อไปข้างหน้าจะทำยังไงถ้าเราไม่ได้อยู่ดีกินดีเหมือนทุกวันนี้ กลัวน้องอยู่ไม่ได้ เพราะพอเราพูดไปแม่ก็แบบ ฉันเลี้ยงได้ๆ แต่นานไปพ่อกับแม่ก็แก่ขึ้น จะมาคอยทำงานหาเลี้ยงแบบนี้ไปตลอดก็คงไม่ไหวหรอก เหนื่อยใจมากค่ะ กลัวแม่ไม่เข้าใจ
ยาวไปหน่อย ขออภัยนะคะ