Review: Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ

Review:Maleficent (Robert Stromberg,2014)
คะแนน B


By Form Corleone

" Once upon a dream " ผลงานกำกับเรื่องแรกของผู้กำกับ Robert Stromberg ผู้อยู่เบื้องหลังกับการทำงานทางด้าน Visual effects มาหลายเรื่อง เมื่อมาจับงานกำกับ ฝีมือการกำกับถือว่าดี สำหรับเรื่องเล่าที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้าหญิงนิทราออโรร่า กับ แม่มดร้าย “เมเลฟิเซนต์” นิทานก่อนนอนของเด็ก ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วในปีนี้ ถึงแม้ว่าเค้าโครงเรื่องราวจะยังเหมือนเดิม แต่ตัวละครกับแตกต่าง โดยเฉพาะวิธีการนำเสนอ “เมเลฟิเซนต์”

สำหรับเมเลฟิเซนต์ ในหนัง ตัวตนของเธอนั้นมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ซ้อนทับกัน การหยิบตัวละครสุดร้ายจากดิสนีย์ มาเพิ่มมิติใหม่ถือเป็นจุดที่น่าชื่นชม อะไรคือจุดเปลี่ยนของนางฟ้า ให้กลายเป็นปีศาจร้าย แง่มุมที่น่าคิดต่อของ เมเลฟิเซนต์ คือ ไม่ว่ามนุษย์หรือปีศาจ แม้กระทั่งนางฟ้า ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง แล้วอะไรกันคือสิ่งที่ทำให้ “เปลี่ยนแปลง” การแสดงของ โจลี่ เข้าขั้นสุดยอด ดูแล้วรู้สึกอินไปตามตัวละคร ตามช่วงเวลา ตามความรู้สึก ณ ขณะนั้น ถือเป็นการแสดงที่ดูน่าหลงใหล น่าค้นหา มีเสน่ห์ จนทำให้นิทานก่อนนอนไม่เหมือนเดิมแล้วในครั้งนี้ จงลืมเลือนเจ้าหญิงนิทราเมื่อครั้งเก่าได้เลยครับ

ฉาก CG ได้ใจมากครับ ภาพสวยมากเหมือนอยู่ในสวรรค์ในขณะเดียวกัน ฉากดาร์กก็ดูน่าขนลุก ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ การก้าวเท้าแต่และฉากของโจลี่ ดูแล้ว วาว!! เธอคือตัวแม่!! จริงๆ อย่างที่กล่าวไปแล้วไม่เพียงแต่ตัว “เมเลฟิเซนต์” เท่านั้นที่มีสภาวะทางอารมณ์ ตัวละครในเรื่องหลายตัวก็มีแง่มุม ทางด้านอารมณ์ไม่แพ้กัน แน่นอนที่สุด ทุกสิ่งอย่างล้วนมีเหตุผลในตัวของมัน คนดูสามารถรับรู้และเข้าใจได้ไม่ยาก ว่าทำไมจึงเป็นแบบนั้น สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้คือ “เจ้าหญิงออโรร่า” ที่รับบทโดย แอลล์ แฟนนิง ผมเคลิ้ม เหมือนตัวลอย เวลาเธอส่ง “ยิ้ม” ใจละลายอยาก “จุมพิต” เธอจริงๆ ^^
                               
ข้อเสียของเมเลเฟิเซนต์ คือ ความดาร์กของตัวละคร เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว กลับมา “ยิ้ม”ได้หน้าตาเฉยแบบหลายสิ่งอย่างและบางฉากรู้สึกขัดใจเล็กๆ มีบางช่วงเวลาที่รู้สึกไม่ค่อยรับรู้อะไร แต่หนังก็มาพยุงตัวช่วงท้ายเรื่อง บางทีมันก็ง่ายเกินไป แต่จะเอาอะไรกับ “นิทานก่อนนอน” แค่ตัวละครดูมี “มิติ” ผมก็ว่ามันผ่าน เลยไปไกลแล้ว สำหรับเรื่องเล่าเด็กน้อย จัดว่าผู้ใหญ่ดูได้ เด็กเล็กดูเพลิน อาจจะปลื้มตัว “เมเลฟิเซนต์” หลงรักเธอแบบเต็มใจ เพราะผมรักตัวละครตัวนี้ไปแล้วครับ มีซึ้งเกือบน้ำตาไหลนิดนึง!!! หนังสั้นเกินไป ช่วงกลางเรื่องดูจะเร่งรีบมากเกินไป รวดเร็วเกินไป น่าเสียดายครับ เพราะถ้าจะทำให้ยาวกว่านี้ผมก็ยินดีดูต่อ กำลังเพลินเลยตัดเฉยเลย!! ความยาวของหนัง 97 นาทีเองครับ!!

บทสรุปของเมเลฟิเซนต์ จะเป็นยังไงคงต้องไปรับชมกันเอาเอง รักแท้มีจริงหรือ?? อะไรคือรักแท้?? สวยงามมากครับ ลองไปสัมผัสความสวยงามกัน ว่าด้วยเจ้าชายฟิลลิป สำหรับเรื่องนี้คุณคือ ตัวประกอบจริงๆ เหมือนเอามาเพื่อให้เรื่องราวยังดำเนินไปตามเส้นทางเดิม แม้ว่าบทสรุปจะไม่ใช่แบบเดิมก็ตาม เป็นตัวละครที่ไม่ค่อยมีค่าในการกระทำ แต่มีค่าในความตั้งใจของ “เมเลฟิเซนต์” มาถึงตรงนี้แล้วผมคิดว่าเจ้าหญิงนิทราเวอร์ชั่นนี้ คือการตีความตัวละครใหม่ยกเครื่องครับ ใครที่ยังยึดติดกับแบบฉบับการ์ตูนควรเผื่อใจ และเปิดใจรับชม !!

สุดท้าย Maleficent คือ นิทานก่อนนอน ที่ควรเล่าให้ลูกหลานฟัง ความมืดและความสว่าง เป็นของคู่กัน ความเลวร้ายในความอ่อนโยน มันก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลย คำถามที่ตามมาสำหรับการตีความครั้งใหม่ของสตูดิโอดิสนีย์ในครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ และถ้ามันประสบความสำเร็จจริงๆ เราคงจะได้พบเจอกับ " Once upon a time " ในเรื่องราวนิทานก่อนนอนของดิสนี้ย์ครั้งใหม่ก็เป็นได้ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ

อ่านเรื่องอื่น http://moviesdelightclub.blogspot.com/
เพจ https://www.facebook.com/Criticalme?ref_type=bookmark
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่