Maleficent ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย [9.5/10 ดาว]



วันนี้มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ มาครับ ขอออกตัวก่อนเลยว่าจขกท.ไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง หรือผกก.ภาพยนตร์ที่มีฝีมือพอที่จะมาชำแหละภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างหมดจด
    เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน
    
    ข้อควรรู้ก่อนที่จะเข้าไปดู Maleficent

-    อยากให้ลบภาพ Sleeping Beauty ที่เคยอยู่ในหัวตั้งแต่สมัยเด็กออกให้หมด
-    เปิดใจ รับฟังตัวละคร มุมมองของ Maleficent นั้นละเอียดอ่อน และมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด หากคุณชิงเกลียดตัวละครตัวนี้เพราะเธอเป็นวายร้าย คุณจะดูหนังเรื่องนี้ไม่อินทันที

รีวิว
    เนื้อเรื่องดำเนินตามแบบฉบับของดิสนีย์นั่นก็คือภาพสวย มุมกล้องเป๊ะ แต่กลิ่นอายของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความ Dark ผสมอยู่ และจะมีการปูพื้นตัวละคร ความเป็นมาของตัวละคร Maleficent ตรงนี้แหละ ... ที่จะทำให้ใครหลายคนหลงรักตัวละครตัวนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม

    Maleficent เป็นนางฟ้า เธอมีปีก สามารถโบยบินสู่ท้องนภาได้อย่างอิสระ จนเมื่อเธอได้พบกับ Stefan ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักในท้ายที่สุด แต่ Stefan กลับทำให้ Maleficent ได้รู้ว่า ... จุมพิตแห่งรักแท้นั่น ไม่มีอยู่จริง !

    พอมีจุดหักเหที่ทำให้ Maleficent พบกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ เธอก็กลายเป็นคนชิงชัง เพราะ Stefan ทรยศหักหลังเธอและขโมยปีกของเธอไป เมื่อ Stefan ให้กำเนิด Aurora แล้ว Maleficent ก็โกรธมากที่เธอไม่ได้รับคำเชิญมาในพิธีศีลจุ่ม (ตรงนี้แหละที่เป็น Timeline เดียวกับ Sleeping Beauty)

    Maleficent สาป Aurora ให้หล่อนถูกเข็มปั่นด้ายทิ่มและเข้าสู่ห้วงนิทราในวัย 16 ปี  Stefan โกรธมากจึงสั่งให้ทำลายเครื่องปั่นด้ายที่มีอยู่ทั้งหมด และให้นางฟ้าทั้งสามพอ Aurora เข้าไปอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า

ต่อจากนี้ไปจะมีเนื้อหาสปอยล์ส่วนสำคัญ .............

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

    จุดเด่น
-    เป็นหนังที่ดูได้ทุกวัย ภาพสวย CG เริ่ด ฉากแอ็คชั่นทำให้เราเผลอจิกขาตัวเองไม่รู้ตัวเพราะกลัวว่า Maleficent จะตายแบบในฉบับการ์ตูน
-    สงสาร Maleficent จับใจ Angelina เธอมีพลังในการแสดงและสามารถสะกดคนดูได้จริงๆ ทำให้เราเผลอร้องไห้ตามไปด้วยหลายฉาก (โดยเฉพาะตอนที่ Maleficent โดนขโมยปีกไป แล้วเธอแผดเสียงด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ)
-    ดูจบแล้วประทับใจ แม้จะไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์แห่งปีหรืออะไร แต่ทำให้เราทั้งยิ้มและร้องไห้ไปร่วมกับตัวละครได้ไปตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครมีมิติทางอารมณ์ ความละเอียดอ่อนของจิตวิญญาณ Maleficent ที่จะทำให้ผู้ชมหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว
-Maleficent จะเป็น icon ตัวใหม่สำหรับชาวเก้งกวางที่ชอบ Elsa จาก Frozen แน่นอน เพราะคอสตูมและฉากเปิดตัว(ที่ทำให้เราขนลุกชันจนอยากจะสยายปีกแล้วโบยบินไปรอบๆโรงภาพยนตร์)นั้นอลังการงานสร้างดาวล้านดวงระยิบระยิบมากกกกกกก

    จุดด้อย
-    Stefan เพิ่งตายไปหยกๆ Aurora กลับยิ้มแป้น ครองดินแดนอย่างหรรษาบันเทิงใจ(เข้าใจว่านางฟ้าเคยให้พรว่าขอให้ Aurora มีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์  แต่พ่อหล่อนเพิ่งตายไปนะ ไม่คิดจะไว้อาลัยเลยหรอ กลับยิ้มแป้นหน้าตาระรื่น แถมยังได้ผู้ชายมาอีกคนต่างหาก)
-    เสียงพากษ์ไทยของ Maleficent เหมือนคุณหญิงพยายามจะจิกเสียงให้เหมือนต้นฉบับหรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติและไม่มีมนต์ขลังเลย ( เช่นตอนคำว่า Well,Well พอภาษาไทยมา แหม ... แหม อารมณ์มันลดฮวบมาก น่าเสียดายจริงๆ)
-    Phillip ไร้ค่ามากเรื่องนี้ หลงทางแล้วหลงทางอีก แถมจูบยังไม่ทำให้ Aurora ฟื้นด้วย เราเลยขอจัดให้ Phillip กลายเป็นตัวประกอบไปเสีย 555 แถม Phillip ยังไม่มีหน้าที่อะไรที่จะดูภาคภูมิองอาจเหมาะแก่การเป็นเจ้าชาย เพราะ .......... หนังเรื่องนี้ Philip ไม่ได้สู้กับมังกรจ้า !! (ฉากต่อสู้กับมังกรในการ์ตูน ในภาพยนตร์มังกรเป็น Diaval อีกาของ Maleficent นั่นเอง ไม่ใช่ Maleficent ที่เป็นมังกร)
-จะมีเนื้อเรื่องบางตอนที่ไม่เหมือนกับในฉบับการ์ตูน หลายคนที่ยึดเอา Story ของฉบับการ์ตูนเป็นหลักก่อนมาดูเรื่องนี้ อาจจะเงิบนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เสียอรรถรสอะไรนะเราว่า เพราะบทสรุปของเรื่องนี้ดีมากจริงๆ

คะแนน 9.5/10
- นี่เราให้คะแนนมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าหนังมีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตัวละครเก๋กู้ดทุกตัว มันคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เรา "อิ่ม" และรู้สึกได้ย้อนวัยอีกครั้ง ถือว่า 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่เสียไปนั้นคุ้มค่าจริงๆ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่