วันนี้มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ มาครับ ขอออกตัวก่อนเลยว่าจขกท.ไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง หรือผกก.ภาพยนตร์ที่มีฝีมือพอที่จะมาชำแหละภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างหมดจด
เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน
ข้อควรรู้ก่อนที่จะเข้าไปดู Maleficent
- อยากให้ลบภาพ Sleeping Beauty ที่เคยอยู่ในหัวตั้งแต่สมัยเด็กออกให้หมด
- เปิดใจ รับฟังตัวละคร มุมมองของ Maleficent นั้นละเอียดอ่อน และมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด หากคุณชิงเกลียดตัวละครตัวนี้เพราะเธอเป็นวายร้าย คุณจะดูหนังเรื่องนี้ไม่อินทันที
รีวิว
เนื้อเรื่องดำเนินตามแบบฉบับของดิสนีย์นั่นก็คือภาพสวย มุมกล้องเป๊ะ แต่กลิ่นอายของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความ Dark ผสมอยู่ และจะมีการปูพื้นตัวละคร ความเป็นมาของตัวละคร Maleficent ตรงนี้แหละ ... ที่จะทำให้ใครหลายคนหลงรักตัวละครตัวนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม
Maleficent เป็นนางฟ้า เธอมีปีก สามารถโบยบินสู่ท้องนภาได้อย่างอิสระ จนเมื่อเธอได้พบกับ Stefan ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักในท้ายที่สุด แต่ Stefan กลับทำให้ Maleficent ได้รู้ว่า ... จุมพิตแห่งรักแท้นั่น ไม่มีอยู่จริง !
พอมีจุดหักเหที่ทำให้ Maleficent พบกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ เธอก็กลายเป็นคนชิงชัง เพราะ Stefan ทรยศหักหลังเธอและขโมยปีกของเธอไป เมื่อ Stefan ให้กำเนิด Aurora แล้ว Maleficent ก็โกรธมากที่เธอไม่ได้รับคำเชิญมาในพิธีศีลจุ่ม (ตรงนี้แหละที่เป็น Timeline เดียวกับ Sleeping Beauty)
Maleficent สาป Aurora ให้หล่อนถูกเข็มปั่นด้ายทิ่มและเข้าสู่ห้วงนิทราในวัย 16 ปี Stefan โกรธมากจึงสั่งให้ทำลายเครื่องปั่นด้ายที่มีอยู่ทั้งหมด และให้นางฟ้าทั้งสามพอ Aurora เข้าไปอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า
ต่อจากนี้ไปจะมีเนื้อหาสปอยล์ส่วนสำคัญ .............
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Maleficent เฝ้าดูการเติบโตของ Aurora จนเมื่อเธอโตพอที่จะรับรู้ว่า Maleficent คือนางฟ้าแม่ทูนหัวที่คอยมาดูแลเธอ ความแข็งกร้าวในตัวของ Maleficent จากการถูกทรยศหักหลังก็ค่อยๆละลายลงไป Aurora ค่อยๆกะเทาะเปลือกจน Maleficent รู้สึกผิดกับคำสาปที่ตนเองเคยก่อ แต่เมื่อเธอพยายามจะถอนคำสาปให้แก่ Aurora มันกลับไม่ได้ผล
เมื่อ Aurora รู้ความจริงว่า Maleficent เป็นคนสาปเธอ เธอก็หนีกลับเข้าปราสาทไปหาบิดา Stefen แต่เมื่อยังไม่ถึงวันเกิดของเธอ บิดาจึงสั่งขังหล่อนเอาไว้ นั่นทำให้ Aurora ถูกคำสาปให้เธอโดนเข็มปั่นด้ายทิ่มนิ้วมือจนเข้าสู่นิทรา
Malficent พาตัวเจ้าชาย Phillip มาหา Aurora แต่มันก็สายเกินไป เมื่อจุมพิตของ Phillip ไม่สามารถทำให้ Aurora ฟื้นได้ Maleficent รู้สึกผิดมาก และสัญญาว่าต่อไปนี้เธอจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง Aurora เธอจุมพิต Aurora ที่หน้าผากและทำให้ Aurora ฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง
ประจวบกับที่ Stefan รู้ว่าคืนนี้ Maleficent จะมา เขาวางกับดักเอาไว้ จับ Maleficent ได้สำเร็จ ในขณะที่ Aurora ได้เห็นปีกของ Maleficent ทิ่บิดาของหล่อนขโมยเอามา และเธอมอบกลับมันคืนให้ Maleficent ทำให้ Maleficent มีแรงพอที่จะสู้กับ Stefan เมื่อเขาใช้อาวุธทั้งหมดที่ถูกตีขึ้นด้วยเหล็ก เนื่องจากเขาเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ว่า Maleficent นั้นแพ้โลหะ
Maleficent ตัดสินใจไว้ชีวิต Stefan แต่ Stefan หาได้คิดเช่นนั้นไม่ เขาพยายามจะฆ่า Maleficent แต่กลับเพลี่ยงพล้ำตกหอคอยจนเสียชีวิต
Aurora ตามไปอยู่กับ Maleficent ตามที่ทั้งสองได้เคยคุยกันก่อนหน้า และทำให้ดินแดนทั้งสองผนึกเป็นแผ่นเดียวกัน และเรื่องราวทั้งหมดก็จบแบบมีความสุข
จุดเด่น
- เป็นหนังที่ดูได้ทุกวัย ภาพสวย CG เริ่ด ฉากแอ็คชั่นทำให้เราเผลอจิกขาตัวเองไม่รู้ตัวเพราะกลัวว่า Maleficent จะตายแบบในฉบับการ์ตูน
- สงสาร Maleficent จับใจ Angelina เธอมีพลังในการแสดงและสามารถสะกดคนดูได้จริงๆ ทำให้เราเผลอร้องไห้ตามไปด้วยหลายฉาก (โดยเฉพาะตอนที่ Maleficent โดนขโมยปีกไป แล้วเธอแผดเสียงด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ)
- ดูจบแล้วประทับใจ แม้จะไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์แห่งปีหรืออะไร แต่ทำให้เราทั้งยิ้มและร้องไห้ไปร่วมกับตัวละครได้ไปตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครมีมิติทางอารมณ์ ความละเอียดอ่อนของจิตวิญญาณ Maleficent ที่จะทำให้ผู้ชมหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว
-Maleficent จะเป็น icon ตัวใหม่สำหรับชาวเก้งกวางที่ชอบ Elsa จาก Frozen แน่นอน เพราะคอสตูมและฉากเปิดตัว(ที่ทำให้เราขนลุกชันจนอยากจะสยายปีกแล้วโบยบินไปรอบๆโรงภาพยนตร์)นั้นอลังการงานสร้างดาวล้านดวงระยิบระยิบมากกกกกกก
จุดด้อย
- Stefan เพิ่งตายไปหยกๆ Aurora กลับยิ้มแป้น ครองดินแดนอย่างหรรษาบันเทิงใจ(เข้าใจว่านางฟ้าเคยให้พรว่าขอให้ Aurora มีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์ แต่พ่อหล่อนเพิ่งตายไปนะ ไม่คิดจะไว้อาลัยเลยหรอ กลับยิ้มแป้นหน้าตาระรื่น แถมยังได้ผู้ชายมาอีกคนต่างหาก)
- เสียงพากษ์ไทยของ Maleficent เหมือนคุณหญิงพยายามจะจิกเสียงให้เหมือนต้นฉบับหรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติและไม่มีมนต์ขลังเลย ( เช่นตอนคำว่า Well,Well พอภาษาไทยมา แหม ... แหม อารมณ์มันลดฮวบมาก น่าเสียดายจริงๆ)
- Phillip ไร้ค่ามากเรื่องนี้ หลงทางแล้วหลงทางอีก แถมจูบยังไม่ทำให้ Aurora ฟื้นด้วย เราเลยขอจัดให้ Phillip กลายเป็นตัวประกอบไปเสีย 555 แถม Phillip ยังไม่มีหน้าที่อะไรที่จะดูภาคภูมิองอาจเหมาะแก่การเป็นเจ้าชาย เพราะ .......... หนังเรื่องนี้ Philip ไม่ได้สู้กับมังกรจ้า !! (ฉากต่อสู้กับมังกรในการ์ตูน ในภาพยนตร์มังกรเป็น Diaval อีกาของ Maleficent นั่นเอง ไม่ใช่ Maleficent ที่เป็นมังกร)
-จะมีเนื้อเรื่องบางตอนที่ไม่เหมือนกับในฉบับการ์ตูน หลายคนที่ยึดเอา Story ของฉบับการ์ตูนเป็นหลักก่อนมาดูเรื่องนี้ อาจจะเงิบนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เสียอรรถรสอะไรนะเราว่า เพราะบทสรุปของเรื่องนี้ดีมากจริงๆ
คะแนน 9.5/10
- นี่เราให้คะแนนมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าหนังมีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตัวละครเก๋กู้ดทุกตัว มันคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เรา "อิ่ม" และรู้สึกได้ย้อนวัยอีกครั้ง ถือว่า 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่เสียไปนั้นคุ้มค่าจริงๆ
Maleficent ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย [9.5/10 ดาว]
วันนี้มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์เรื่อง Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ มาครับ ขอออกตัวก่อนเลยว่าจขกท.ไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง หรือผกก.ภาพยนตร์ที่มีฝีมือพอที่จะมาชำแหละภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างหมดจด
เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน
ข้อควรรู้ก่อนที่จะเข้าไปดู Maleficent
- อยากให้ลบภาพ Sleeping Beauty ที่เคยอยู่ในหัวตั้งแต่สมัยเด็กออกให้หมด
- เปิดใจ รับฟังตัวละคร มุมมองของ Maleficent นั้นละเอียดอ่อน และมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด หากคุณชิงเกลียดตัวละครตัวนี้เพราะเธอเป็นวายร้าย คุณจะดูหนังเรื่องนี้ไม่อินทันที
รีวิว
เนื้อเรื่องดำเนินตามแบบฉบับของดิสนีย์นั่นก็คือภาพสวย มุมกล้องเป๊ะ แต่กลิ่นอายของภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความ Dark ผสมอยู่ และจะมีการปูพื้นตัวละคร ความเป็นมาของตัวละคร Maleficent ตรงนี้แหละ ... ที่จะทำให้ใครหลายคนหลงรักตัวละครตัวนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม
Maleficent เป็นนางฟ้า เธอมีปีก สามารถโบยบินสู่ท้องนภาได้อย่างอิสระ จนเมื่อเธอได้พบกับ Stefan ทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักในท้ายที่สุด แต่ Stefan กลับทำให้ Maleficent ได้รู้ว่า ... จุมพิตแห่งรักแท้นั่น ไม่มีอยู่จริง !
พอมีจุดหักเหที่ทำให้ Maleficent พบกับความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ เธอก็กลายเป็นคนชิงชัง เพราะ Stefan ทรยศหักหลังเธอและขโมยปีกของเธอไป เมื่อ Stefan ให้กำเนิด Aurora แล้ว Maleficent ก็โกรธมากที่เธอไม่ได้รับคำเชิญมาในพิธีศีลจุ่ม (ตรงนี้แหละที่เป็น Timeline เดียวกับ Sleeping Beauty)
Maleficent สาป Aurora ให้หล่อนถูกเข็มปั่นด้ายทิ่มและเข้าสู่ห้วงนิทราในวัย 16 ปี Stefan โกรธมากจึงสั่งให้ทำลายเครื่องปั่นด้ายที่มีอยู่ทั้งหมด และให้นางฟ้าทั้งสามพอ Aurora เข้าไปอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า
ต่อจากนี้ไปจะมีเนื้อหาสปอยล์ส่วนสำคัญ .............
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จุดเด่น
- เป็นหนังที่ดูได้ทุกวัย ภาพสวย CG เริ่ด ฉากแอ็คชั่นทำให้เราเผลอจิกขาตัวเองไม่รู้ตัวเพราะกลัวว่า Maleficent จะตายแบบในฉบับการ์ตูน
- สงสาร Maleficent จับใจ Angelina เธอมีพลังในการแสดงและสามารถสะกดคนดูได้จริงๆ ทำให้เราเผลอร้องไห้ตามไปด้วยหลายฉาก (โดยเฉพาะตอนที่ Maleficent โดนขโมยปีกไป แล้วเธอแผดเสียงด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ)
- ดูจบแล้วประทับใจ แม้จะไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์แห่งปีหรืออะไร แต่ทำให้เราทั้งยิ้มและร้องไห้ไปร่วมกับตัวละครได้ไปตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครมีมิติทางอารมณ์ ความละเอียดอ่อนของจิตวิญญาณ Maleficent ที่จะทำให้ผู้ชมหลงรักเธอโดยไม่รู้ตัว
-Maleficent จะเป็น icon ตัวใหม่สำหรับชาวเก้งกวางที่ชอบ Elsa จาก Frozen แน่นอน เพราะคอสตูมและฉากเปิดตัว(ที่ทำให้เราขนลุกชันจนอยากจะสยายปีกแล้วโบยบินไปรอบๆโรงภาพยนตร์)นั้นอลังการงานสร้างดาวล้านดวงระยิบระยิบมากกกกกกก
จุดด้อย
- Stefan เพิ่งตายไปหยกๆ Aurora กลับยิ้มแป้น ครองดินแดนอย่างหรรษาบันเทิงใจ(เข้าใจว่านางฟ้าเคยให้พรว่าขอให้ Aurora มีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์ แต่พ่อหล่อนเพิ่งตายไปนะ ไม่คิดจะไว้อาลัยเลยหรอ กลับยิ้มแป้นหน้าตาระรื่น แถมยังได้ผู้ชายมาอีกคนต่างหาก)
- เสียงพากษ์ไทยของ Maleficent เหมือนคุณหญิงพยายามจะจิกเสียงให้เหมือนต้นฉบับหรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติและไม่มีมนต์ขลังเลย ( เช่นตอนคำว่า Well,Well พอภาษาไทยมา แหม ... แหม อารมณ์มันลดฮวบมาก น่าเสียดายจริงๆ)
- Phillip ไร้ค่ามากเรื่องนี้ หลงทางแล้วหลงทางอีก แถมจูบยังไม่ทำให้ Aurora ฟื้นด้วย เราเลยขอจัดให้ Phillip กลายเป็นตัวประกอบไปเสีย 555 แถม Phillip ยังไม่มีหน้าที่อะไรที่จะดูภาคภูมิองอาจเหมาะแก่การเป็นเจ้าชาย เพราะ .......... หนังเรื่องนี้ Philip ไม่ได้สู้กับมังกรจ้า !! (ฉากต่อสู้กับมังกรในการ์ตูน ในภาพยนตร์มังกรเป็น Diaval อีกาของ Maleficent นั่นเอง ไม่ใช่ Maleficent ที่เป็นมังกร)
-จะมีเนื้อเรื่องบางตอนที่ไม่เหมือนกับในฉบับการ์ตูน หลายคนที่ยึดเอา Story ของฉบับการ์ตูนเป็นหลักก่อนมาดูเรื่องนี้ อาจจะเงิบนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เสียอรรถรสอะไรนะเราว่า เพราะบทสรุปของเรื่องนี้ดีมากจริงๆ
คะแนน 9.5/10
- นี่เราให้คะแนนมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าหนังมีบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตัวละครเก๋กู้ดทุกตัว มันคงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เรา "อิ่ม" และรู้สึกได้ย้อนวัยอีกครั้ง ถือว่า 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่เสียไปนั้นคุ้มค่าจริงๆ