ครูทุกวันนี้ได้สอนน้อยมาก ครูสายวิทยาศาสตร์เด็กแทบไม่ได้ทำการทดลองเลย สอนแลปแห้งด้วยซ้ำ เพราะอะไร

- ประเมินๆๆๆ แทบจะทุกกระทรวง จะมายุ่งกับการศึกษาหมด เพราะอยากได้ตัวเลขการประเมิน แล้วจะให้งบประมาณมา ผอ.ก็อยากได้งบ ก็เลยไปลงที่ครู ที่เด็ก ว่าต้องมีผลงานเพื่อเวลามาประเมินจะได้ให้ผ่าน เอางบๆ

- อบรมๆๆๆ พอมีข่าวว่าการศึกษาประเทศอยู่ในระดับท้ายๆของอาเซียน ก็เกิดการตื่นตัวในแวดวงผู้วางนโยบายการศึกษาพวกบิ๊กๆ ว่าครูต้องอย่างนั้น ครูต้องอย่างนี้ คิดเองมโนเองว่าจะดี เห็นต่างประเทศเป็นอย่างไรก็คิดว่าไทยทำบ้างจะดี ตามตูดเค้าต้อยๆ ส่งคนไปดูงาน(เที่ยว) แล้วเอามาว่างแผนจัดอบรมอย่างนั้นอย่างนี้ ครึ่งๆกลางๆ ไม่รู้จริงด้วยซ้ำ เลยมาลงที่ครูต้องเข้าอบรมเพื่อจะได้เป็นไปตามนโยบายที่คิดว่าดี เปลี่ยนรัฐบาล ผู้บริหารที เปลี่ยนนโยบายตลอด ก็เลยมีโครงการให้อบรมตลอดๆ

- สอนครึ่งๆกลางๆ เพราะอยากไปสอนเต็มๆในชั่วโมงเรียนพิเศษ อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่เห็นเยอะ ผมก็เป็นครูแค่ครูอัตราจ้างด้วยซ้ำแต่ผมสอนฟรี หลังเลิกเรียนหรือเสาร์อาทิตย์เด็กคนไหนอยากเรียนก็มา แต่ครูบางคนอยากได้รายได้เพิ่มก็ไปเปิดสอนพิเศษหาเงินเพิ่มและเพื่อเป็นการจูงใจแกมบังคับคือสอนในห้องแค่พื้นฐาน แต่ที่ยากๆประยุกต์ขึ้นมาหน่อยไปสอนที่เรียนพิเศษ เวลาออกข้อสอบก็ออกที่ยากกว่านห้องเรียนปกติ จึงกลายเป็นว่าเด็กที่ได้เรียนพิเศษกับครูจึงได้คะแนนดีๆ เด็กๆจึงต้องเรียนพิเศษ

- ครูไม่เก่ง อันนี้อาจจะบอกยากหน่อยวัดกันยาก แต่ความจริงมันก็มี คือครูเรียนไม่เก่ง แต่ก็สอบเรียนอะไรไม่ได้เลยมาเป็นครู เวลาสอนจึงสอนแบบถูๆไถๆ เพราะไม่รู้จริง อีกสาเหตุหนึ่งที่เจอคือเด็กสายศึกษาศาสตร์เรียนกระบวนวิธีประเมินเรียนวิธีการครูเยอะมาก มากกว่าวิชาความรู้อย่างถ่องแท้ที่จะใช้สอนนักเรียนด้วยซ้ำ เวลาสอนจึงสอนอะไรที่พลิกแพลงไม่ได้ สอนได้แต่พื้นๆ

- ครูถ่ายทอดไม่ได้  อันนี้คนเก่งมาเป็นครู ผมเคยเจอครูบางคนที่เก่งมากๆ แต่ก็ไม่สามารถที่จะสอนให้นักเรียนเข้าใจได้เลย สุดท้ายคือสั่งงานให้เด็กไปทำเอง แนะนำหนังสือให้อ่านเอง เวลาสอบก็บอกว่าออกข้อสอบประมาณไหนไปอ่านเล่มนี้มานะ เด็กก็ได้ความรู้แบบท่องจำซะส่วนใหญ่