3G มาแล้ว!! พื้นฐานใครแจ่มสุด “พีรเจต- เฉลิมเดช -ดร.นิเวศน์-สุกิจ” เกี่ยวก้อยจับตา อนาคตหุ้น TRUE “รักที่จะเสี่ยง” ก็โปรดจับจังหวะรอช้อน
ADVANC-DTAC-TRUE ผู้ประกอบการมือถือค่ายใดหนอ!! พื้นฐาน “เร่าใจสุด” หลังเปิดให้บริการระบบ 3G ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตช์ พร้อมเพียงกันในวันที่ 7-9 พ.ค.ที่ผ่านมา ฟาก “น้องอุ่นใจ” “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” (ADVANC) ยอมรับแม้ “ล่าช้า” เรื่องการวางโครงข่าย แต่ในแง่บริการและคุณภาพของสัญญาณ “ข้าเจ๋งสุด” ยิ่งเปิดให้บริการ3G เต็มรูปแบบ ภายใต้แนวความคิด “AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก”
“เบอร์หนึ่ง” ระบบ 3G แค่เรื่องจิ๊บๆ!! เป้าหมายลูกค้า 15 ล้านรายสิ้นปี 2556 ทุกคนได้เห็นแน่ “วิเชียร เมฆตระการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC พูดการันตีเช้าเย็น
ฝั่งกังหันสีฟ้า “โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” (DTAC) แม้ครั้งหนึ่งสัญญาณจะเคยล่มแล้วล่มอีก จนโดนลูกค้าโทรมาถล่มจนสายไหม้ แต่ก็ขอ “ฮึดสู้” ด้วยการเปิดตัว “โครงข่ายอัจฉริยะรูปแบบใหม่ TriNet 3” ในคลื่นความถี่ 850,1800 เมกะเฮิร์ตซ และคลื่นความถี่ใหม่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด “สิ้นปี 56 ฐานลูกค้าที่ใช้บริการ 3G ต้องพุ่งขึ้นจาก 3.5 ล้านราย เป็น 10 ล้านบาท” เป้าหมายข่มคู่แข่งเก๋ๆของ “จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC
ส่วน “ทรู คอร์ปอเรชั่น” (TRUE) “จัดหนักเกทับ” ด้วยการเปิดตัวระบบ 4G LTE 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ภายใต้ชื่อ “เหนือกว่ากับประสบการณ์ 4G ใช้ได้จริง” เจ้าแรกในเมืองไทย “สิ้นปีนี้เราจะมีลูกรายที่ใช้บริการ 3G และ 4G ประมาณ 6 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ 3.2 ล้านราย” ประโยคกระชากใจคู่แข่งของ“ศุภชัย เจียรวนนท์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร TRUE
“3 G หนุนพื้นฐานใครเด่นสุด” กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถามไปที่ “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” ผู้บริหาร “ยูเนี่ยน อินทราโก้” (UIC) ในฐานะนักลงทุนแนว Value Investors 3 ค่ายยักษ์ใหญ่คงได้ประโยชน์เท่าๆกัน แต่ในแง่ของพื้นฐานระยะยาวที่จะเห็นชนิด “พลิกฝ่ามือ” คงต้องยกให้หุ้น ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เจ้าตัวเผย
"ที่ผ่านมา “ทรู” แย่มาก เรื่องนี้นักลงทุนรู้ดี “หนี้มาก ขาดทุนสะสมเพียบ” เมื่อบริษัทไม่มีเงิน จะลงทุนแต่ละทีก็ต้องเดือดร้อนรายย่อย เพราะเขาเลือกหาเงินด้วยการขายหุ้นเพิ่มทุน แต่การที่มีระบบ 3G จะทำให้ภาพของ TRUE เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่จะพลิกมีกำไรเมื่อไรก็คงต้องดูกันต่อไป การที่ TRUE เดินหน้าไปไกลกว่าคนอื่น ด้วยการเปิดตัวระบบ 4G ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ทำการตลาดแบบนำหน้าคู่แข่งแบบนี้หลายคนอาจคาดไม่ถึง เขาทุ่มเงินโฆษณาไปในทุกช่องทาง โหมโปรชั่น อย่างนี้ 2 ค่ายคงมีหวั่นใจกันบ้างละ จริงๆก็ใจสั่นมาแล้วมั้ง เพราะช่วงที่เครือข่ายมีปัญหาสัญญาณไม่ดี ลูกค้าบางราย ก็ย้ายมาทรูค่อนข้างมาก (พูดเหมือนมีวงใน)"
“พีรเจต” ย้ำว่า หากนักลงทุนรายใด ที่ยอมรับความเสี่ยงได้ หุ้น TRUE ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ระยะยาวจะ “เทิร์นอะราวด์” หากบริษัทสามารถสะสางปัญหาขาดทุนสะสมได้หมด ราคาหุ้นพร้อมดีดทันที ตอนนี้ ราคาก็ขยับบ้างนิดหน่อย
"ผมไม่ค่อยอยากให้นักลงทุนเสี่ยงไปซื้อหุ้น ADVANC หรือหุ้น DTAC คิดดูสิเขามีฐานลูกค้าแน่น แต่ออกตัวช้ากว่าทรู 2 ค่ายยักษ์ใหญ่คงต้องกลับมาคิดว่าจะตามทรูให้ทันด้วยวิธีใด ส่วนทรูเองก็ต้องคิดว่าจะจัดการหนี้ และรักษาฐานลูกค้าอย่างไร"
พีรเจต ยังบอกว่า ในอนาคตผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสารจะแข่งขันกันในด้านคุณภาพโครงข่าย การให้บริการข้อมูลกับลูกค้า การส่งข้อมูลอาจมีจำนวนตัวอักษรที่มากขึ้น การส่งรูปภาพอาจมีความรวดเร็วมากขึ้น และสามารถส่งได้ครั้งละหลายๆ รูป ส่วน "สงครามราคา" คงไม่เกิดขึ้นเหมือนในอดีต เพราะปัจจุบันผู้บริโภควัยรุ่นนิยมใช้บริการเสริม อย่าง LINE , Facebook ,Twitter และ Instagram มากกว่าการยกหูคุยโทรศัพท์เหมือนเมื่อก่อน
จากการตรวจสอบผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2553-2555) พบว่า ในปี 2555 หุ้น TRUE มีขาดทุนสะสม 44,000 ล้านบาท ปี 2554 ขาดทุนสะสม 45,000 ล้านบาท และปี 2553 ขาดทุนสะสม 41,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2555 หุ้น ADVANC มีกำไรสะสม 15,669 ล้านบาท ปี 2554 กำไรสะสม 14,109 ล้านบาท และปี 2553 กำไรสะสม 12,688 ล้านบาท ส่วนหุ้น DTAC ในปี 2555 มีกำไรสะสม 4,494 ล้านบาท ปี 2554 กำไรสะสม 3,840 ล้านบาท และปี 2553 กำไรสะสม 38,101 ล้านบาท
ด้าน “เชาว์” เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ “เซียนหุ้นวีไอ” เจ้าของพอร์ตหลักร้อยล้าน พูดคล้ายๆกันว่า..
“อนาคตหวังรวยให้ซื้อ TRUE แต่ไม่รู้นะว่าจะ “เทิร์นอะราวด์” เมื่อไรนะ”
หุ้น TRUE น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบ “หุ้นเทิร์นอะราวด์” เพราะวันนี้ TRUE ยังมีผลขาดทุน แต่นักลงทุนต้องไปลุ้นกันเองว่าเขาจะ “พลิกเป็นกำไร” เมื่อไหร่ แต่ถ้า TRUE เทิร์นอะราวด์ได้จริง เขาจะกลายเป็นหุ้นดีแบบก้าวกระโดด เพราะราคายังต่ำมากเมื่อเทียบกับ 2 เจ้ายักษ์ใหญ่ หนุ่มเชาว์แสดงทัศนะ
"มองว่า จริงๆแล้ว “หุ้นกลุ่มสื่อสาร” เริ่มเกิดอาการอิ่มตัว แต่ใครที่อยากลงทุนจริงๆ แนะนำว่าคนที่ไม่ชอบ “ความเสี่ยง” ให้หันไปซื้อหุ้น DTAC และหุ้น ADVANC แล้วถือไปเลยยาวๆ หุ้น DTAC น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะบริษัทได้เปลี่ยนโครงข่ายก่อนเป็นคนแรกๆ แม้ครั้งหนึ่งเขาจะเคยมีสัญญาณไม่ดี แต่ก็ถือว่าผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว ตอนนี้บริษัทก็เดินหน้าลงทุนเต็มทีแล้ว ส่วน ADVANC กำลังเริ่มเปลี่ยนโครงข่าย อาจมีเสียงบ่นเรื่องสัญญาณไม่ดี สายโทรศัพท์หลุดบ่อยๆบ้าง"
“หนุ่มเชาว์” ยังใจดีทำนายดัชนีให้ฟังว่า ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า SET INDEX ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป ตลาดหุ้นยังคงอยู่ในภาวะ “กระทิง” ตราบใดกระแสเงินในโลกยังมีเยอะ ตลาดหุ้นก็จะขึ้นต่อไป แต่คงจะอยู่ในลักษณะขึ้นๆลงๆ ตามกระแสข่าว ส่วนปี 2556 ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปแตะ 1,700 จุด ตอนนี้ดัชนียืน 1,623 จุดแล้ว อีกไม่ถึง 100 จุด ทำได้อยู่แล้ว
“ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) คนแรกในประเทศไทย ส่งสัญญาณให้นักลงทุนคิดต่อสั้นๆว่า ในอดีตใครเคยแย่ที่สุด เมื่อมีการลงทุนในเค้กก้อนเดียวกัน และมีการแข่งขันเท่าเทียมกัน เขาคนนั้นจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นชัดเจนที่สุด
นักลงทุนควรเลือกลงทุนตัวไหนระหว่าง ADVANC-DTAC-TRUE ประเด็นนี้คงต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการลงทุนของแต่ละคน คนที่ชอบความเสี่ยงสูง ก็ไปลงทุนบริษัทที่รอ “เทิร์นอะราวด์” เพราะบริษัทยังมีขาดทุนสะสม แต่หากเขาแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ ราคาหุ้นพร้อมขึ้นแน่นอน ส่วนนักลงทุนรายไหนที่ไม่ชอบเสี่ยง ก็ควรเลือกลงทุนบริษัทที่ไม่มีปัญหา สามารถจ่ายเงินปันผลได้ทุกปี และมีกำไรสะสมลงทุนต่อเนื่อง
วินาทีนี้การแข่งขัน 3 ค่ายยักษ์ใหญ่คล้ายๆ กัน ฉะนั้นเลือกลงทุนตามใจฉัน
ส่วน “ป๋อง” สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บอกว่า ถ้ามองการแข่งขันทางธุรกิจ TRUE ดูจะมีแผนงานชัดเจนสุด TRUE มีโอกาสครอง “มาร์เก็ตแชร์” มากสุด หากไม่มีอะไรผิดพลาดบริษัทอาจมี “กำไรบางๆ” ที่ผ่านมาทรูมีความเป็น Convergence มากขึ้น พูดง่ายๆ เขามี
กลยุทธ์ทางการตลาดเร็วกว่าคู่แข่ง ฐานลูกค้าก็เพิ่มขึ้นจากโครงข่าย “ทรูมูฟเอช”
ถามว่าใคร “คุ้มทุน”เร็วสุด? ประเด็นนี้ก็คงต้องยกนิ้วให้ ADVANC ด้วยฐานลูกค้าที่มากสุด ฉะนั้นจำนวนลูกค้าที่เปลี่ยนจากโครงข่าย 2G มาเป็นโครงข่าย 3G ก็ต้องมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น และด้วยรายได้เลขหมาย 3G สูงกว่า 2G ขณะที่ต้นทุนถูกลงกว่าเดิม หากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงให้ “ช้อน” หุ้น ADVANC และหุ้น DTAC ส่วนนักลงทุนที่ชอบหุ้น “เทิร์นอะราวด์” ให้ซื้อ TRUE
อนาคตธุรกิจสื่อสารจะต่อสู่กันด้วยโปรโมชั่น และคุณภาพโครงข่าย ใครมีโครงข่ายดีสุด เร็วสุด บริการเลิศสุด ลูกค้าจะเลือกใช้บริการ ส่วน “สงครามด้านราคา” ในอนาคตหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกิด
“เสี่ยงได้-รอไหว”4กูรูยก TRUE อนาคตส่อแวว “เทิร์นอะราวด์”
ADVANC-DTAC-TRUE ผู้ประกอบการมือถือค่ายใดหนอ!! พื้นฐาน “เร่าใจสุด” หลังเปิดให้บริการระบบ 3G ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตช์ พร้อมเพียงกันในวันที่ 7-9 พ.ค.ที่ผ่านมา ฟาก “น้องอุ่นใจ” “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” (ADVANC) ยอมรับแม้ “ล่าช้า” เรื่องการวางโครงข่าย แต่ในแง่บริการและคุณภาพของสัญญาณ “ข้าเจ๋งสุด” ยิ่งเปิดให้บริการ3G เต็มรูปแบบ ภายใต้แนวความคิด “AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก”
“เบอร์หนึ่ง” ระบบ 3G แค่เรื่องจิ๊บๆ!! เป้าหมายลูกค้า 15 ล้านรายสิ้นปี 2556 ทุกคนได้เห็นแน่ “วิเชียร เมฆตระการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC พูดการันตีเช้าเย็น
ฝั่งกังหันสีฟ้า “โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น” (DTAC) แม้ครั้งหนึ่งสัญญาณจะเคยล่มแล้วล่มอีก จนโดนลูกค้าโทรมาถล่มจนสายไหม้ แต่ก็ขอ “ฮึดสู้” ด้วยการเปิดตัว “โครงข่ายอัจฉริยะรูปแบบใหม่ TriNet 3” ในคลื่นความถี่ 850,1800 เมกะเฮิร์ตซ และคลื่นความถี่ใหม่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด “สิ้นปี 56 ฐานลูกค้าที่ใช้บริการ 3G ต้องพุ่งขึ้นจาก 3.5 ล้านราย เป็น 10 ล้านบาท” เป้าหมายข่มคู่แข่งเก๋ๆของ “จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC
ส่วน “ทรู คอร์ปอเรชั่น” (TRUE) “จัดหนักเกทับ” ด้วยการเปิดตัวระบบ 4G LTE 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ภายใต้ชื่อ “เหนือกว่ากับประสบการณ์ 4G ใช้ได้จริง” เจ้าแรกในเมืองไทย “สิ้นปีนี้เราจะมีลูกรายที่ใช้บริการ 3G และ 4G ประมาณ 6 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ 3.2 ล้านราย” ประโยคกระชากใจคู่แข่งของ“ศุภชัย เจียรวนนท์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร TRUE
“3 G หนุนพื้นฐานใครเด่นสุด” กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถามไปที่ “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” ผู้บริหาร “ยูเนี่ยน อินทราโก้” (UIC) ในฐานะนักลงทุนแนว Value Investors 3 ค่ายยักษ์ใหญ่คงได้ประโยชน์เท่าๆกัน แต่ในแง่ของพื้นฐานระยะยาวที่จะเห็นชนิด “พลิกฝ่ามือ” คงต้องยกให้หุ้น ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เจ้าตัวเผย
"ที่ผ่านมา “ทรู” แย่มาก เรื่องนี้นักลงทุนรู้ดี “หนี้มาก ขาดทุนสะสมเพียบ” เมื่อบริษัทไม่มีเงิน จะลงทุนแต่ละทีก็ต้องเดือดร้อนรายย่อย เพราะเขาเลือกหาเงินด้วยการขายหุ้นเพิ่มทุน แต่การที่มีระบบ 3G จะทำให้ภาพของ TRUE เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่จะพลิกมีกำไรเมื่อไรก็คงต้องดูกันต่อไป การที่ TRUE เดินหน้าไปไกลกว่าคนอื่น ด้วยการเปิดตัวระบบ 4G ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ทำการตลาดแบบนำหน้าคู่แข่งแบบนี้หลายคนอาจคาดไม่ถึง เขาทุ่มเงินโฆษณาไปในทุกช่องทาง โหมโปรชั่น อย่างนี้ 2 ค่ายคงมีหวั่นใจกันบ้างละ จริงๆก็ใจสั่นมาแล้วมั้ง เพราะช่วงที่เครือข่ายมีปัญหาสัญญาณไม่ดี ลูกค้าบางราย ก็ย้ายมาทรูค่อนข้างมาก (พูดเหมือนมีวงใน)"
“พีรเจต” ย้ำว่า หากนักลงทุนรายใด ที่ยอมรับความเสี่ยงได้ หุ้น TRUE ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ระยะยาวจะ “เทิร์นอะราวด์” หากบริษัทสามารถสะสางปัญหาขาดทุนสะสมได้หมด ราคาหุ้นพร้อมดีดทันที ตอนนี้ ราคาก็ขยับบ้างนิดหน่อย
"ผมไม่ค่อยอยากให้นักลงทุนเสี่ยงไปซื้อหุ้น ADVANC หรือหุ้น DTAC คิดดูสิเขามีฐานลูกค้าแน่น แต่ออกตัวช้ากว่าทรู 2 ค่ายยักษ์ใหญ่คงต้องกลับมาคิดว่าจะตามทรูให้ทันด้วยวิธีใด ส่วนทรูเองก็ต้องคิดว่าจะจัดการหนี้ และรักษาฐานลูกค้าอย่างไร"
พีรเจต ยังบอกว่า ในอนาคตผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสารจะแข่งขันกันในด้านคุณภาพโครงข่าย การให้บริการข้อมูลกับลูกค้า การส่งข้อมูลอาจมีจำนวนตัวอักษรที่มากขึ้น การส่งรูปภาพอาจมีความรวดเร็วมากขึ้น และสามารถส่งได้ครั้งละหลายๆ รูป ส่วน "สงครามราคา" คงไม่เกิดขึ้นเหมือนในอดีต เพราะปัจจุบันผู้บริโภควัยรุ่นนิยมใช้บริการเสริม อย่าง LINE , Facebook ,Twitter และ Instagram มากกว่าการยกหูคุยโทรศัพท์เหมือนเมื่อก่อน
จากการตรวจสอบผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลัง (2553-2555) พบว่า ในปี 2555 หุ้น TRUE มีขาดทุนสะสม 44,000 ล้านบาท ปี 2554 ขาดทุนสะสม 45,000 ล้านบาท และปี 2553 ขาดทุนสะสม 41,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2555 หุ้น ADVANC มีกำไรสะสม 15,669 ล้านบาท ปี 2554 กำไรสะสม 14,109 ล้านบาท และปี 2553 กำไรสะสม 12,688 ล้านบาท ส่วนหุ้น DTAC ในปี 2555 มีกำไรสะสม 4,494 ล้านบาท ปี 2554 กำไรสะสม 3,840 ล้านบาท และปี 2553 กำไรสะสม 38,101 ล้านบาท
ด้าน “เชาว์” เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ “เซียนหุ้นวีไอ” เจ้าของพอร์ตหลักร้อยล้าน พูดคล้ายๆกันว่า..
“อนาคตหวังรวยให้ซื้อ TRUE แต่ไม่รู้นะว่าจะ “เทิร์นอะราวด์” เมื่อไรนะ”
หุ้น TRUE น่าจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบ “หุ้นเทิร์นอะราวด์” เพราะวันนี้ TRUE ยังมีผลขาดทุน แต่นักลงทุนต้องไปลุ้นกันเองว่าเขาจะ “พลิกเป็นกำไร” เมื่อไหร่ แต่ถ้า TRUE เทิร์นอะราวด์ได้จริง เขาจะกลายเป็นหุ้นดีแบบก้าวกระโดด เพราะราคายังต่ำมากเมื่อเทียบกับ 2 เจ้ายักษ์ใหญ่ หนุ่มเชาว์แสดงทัศนะ
"มองว่า จริงๆแล้ว “หุ้นกลุ่มสื่อสาร” เริ่มเกิดอาการอิ่มตัว แต่ใครที่อยากลงทุนจริงๆ แนะนำว่าคนที่ไม่ชอบ “ความเสี่ยง” ให้หันไปซื้อหุ้น DTAC และหุ้น ADVANC แล้วถือไปเลยยาวๆ หุ้น DTAC น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะบริษัทได้เปลี่ยนโครงข่ายก่อนเป็นคนแรกๆ แม้ครั้งหนึ่งเขาจะเคยมีสัญญาณไม่ดี แต่ก็ถือว่าผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว ตอนนี้บริษัทก็เดินหน้าลงทุนเต็มทีแล้ว ส่วน ADVANC กำลังเริ่มเปลี่ยนโครงข่าย อาจมีเสียงบ่นเรื่องสัญญาณไม่ดี สายโทรศัพท์หลุดบ่อยๆบ้าง"
“หนุ่มเชาว์” ยังใจดีทำนายดัชนีให้ฟังว่า ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า SET INDEX ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไป ตลาดหุ้นยังคงอยู่ในภาวะ “กระทิง” ตราบใดกระแสเงินในโลกยังมีเยอะ ตลาดหุ้นก็จะขึ้นต่อไป แต่คงจะอยู่ในลักษณะขึ้นๆลงๆ ตามกระแสข่าว ส่วนปี 2556 ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปแตะ 1,700 จุด ตอนนี้ดัชนียืน 1,623 จุดแล้ว อีกไม่ถึง 100 จุด ทำได้อยู่แล้ว
“ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) คนแรกในประเทศไทย ส่งสัญญาณให้นักลงทุนคิดต่อสั้นๆว่า ในอดีตใครเคยแย่ที่สุด เมื่อมีการลงทุนในเค้กก้อนเดียวกัน และมีการแข่งขันเท่าเทียมกัน เขาคนนั้นจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นชัดเจนที่สุด
นักลงทุนควรเลือกลงทุนตัวไหนระหว่าง ADVANC-DTAC-TRUE ประเด็นนี้คงต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการลงทุนของแต่ละคน คนที่ชอบความเสี่ยงสูง ก็ไปลงทุนบริษัทที่รอ “เทิร์นอะราวด์” เพราะบริษัทยังมีขาดทุนสะสม แต่หากเขาแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ ราคาหุ้นพร้อมขึ้นแน่นอน ส่วนนักลงทุนรายไหนที่ไม่ชอบเสี่ยง ก็ควรเลือกลงทุนบริษัทที่ไม่มีปัญหา สามารถจ่ายเงินปันผลได้ทุกปี และมีกำไรสะสมลงทุนต่อเนื่อง
วินาทีนี้การแข่งขัน 3 ค่ายยักษ์ใหญ่คล้ายๆ กัน ฉะนั้นเลือกลงทุนตามใจฉัน
ส่วน “ป๋อง” สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บอกว่า ถ้ามองการแข่งขันทางธุรกิจ TRUE ดูจะมีแผนงานชัดเจนสุด TRUE มีโอกาสครอง “มาร์เก็ตแชร์” มากสุด หากไม่มีอะไรผิดพลาดบริษัทอาจมี “กำไรบางๆ” ที่ผ่านมาทรูมีความเป็น Convergence มากขึ้น พูดง่ายๆ เขามี
กลยุทธ์ทางการตลาดเร็วกว่าคู่แข่ง ฐานลูกค้าก็เพิ่มขึ้นจากโครงข่าย “ทรูมูฟเอช”
ถามว่าใคร “คุ้มทุน”เร็วสุด? ประเด็นนี้ก็คงต้องยกนิ้วให้ ADVANC ด้วยฐานลูกค้าที่มากสุด ฉะนั้นจำนวนลูกค้าที่เปลี่ยนจากโครงข่าย 2G มาเป็นโครงข่าย 3G ก็ต้องมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น และด้วยรายได้เลขหมาย 3G สูงกว่า 2G ขณะที่ต้นทุนถูกลงกว่าเดิม หากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงให้ “ช้อน” หุ้น ADVANC และหุ้น DTAC ส่วนนักลงทุนที่ชอบหุ้น “เทิร์นอะราวด์” ให้ซื้อ TRUE
อนาคตธุรกิจสื่อสารจะต่อสู่กันด้วยโปรโมชั่น และคุณภาพโครงข่าย ใครมีโครงข่ายดีสุด เร็วสุด บริการเลิศสุด ลูกค้าจะเลือกใช้บริการ ส่วน “สงครามด้านราคา” ในอนาคตหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกิด