ความจริงเคยโพสต์ข้อความออกความเห็นไว้ในกระทู้อื่นๆ แล้ว
แต่อยากจะมาขยายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
ขอสลับเอาภาพ คำสอนของพระอาจารย์ชา สุภัทโท มาได้ด้านบน
จะได้เข้าใจอย่างต่อเนื่องว่า ชะตากรรมในตลาดหุ้นของเราเริ่มจากอะไร
จะขอโพสต์เป็นกรณ๊ศึกษา
ไม่ได้หมายความว่า คนอื่นๆจะทำแบบนี้
ใครจะทำอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะในที่สุด
ผมเชื่อว่า มันจะตัดสินชะตากรรมในตลาดหุ้นของเรา
ลองนึกย้อนกลับไป ตั้งแตตอนเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์
สันดาน เอ๊ยนิสัยที่เอาติดตัวมาเข้าตลาด โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
แม้ว่าจะเข้าไปอยู่ในห้องค้า ที่มีบรรยากาศเหมือนกำลังอยู่ในสนามแข่งม้า
นี่คือความคิดของผม ตั้งแต่ตอนแรกเข้าตลาดหุ้น
ขอเพิ่มเติมข้อความเดิม
เรื่องความคิด ที่จะกลายเป็นสิ่งอื่นๆที่จะตามมา
เมื่อย้อนหวนคิดกลับไปแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆ ก็คือ
ผมไม่เคยคิดว่า หุ้นเป็นการพนัน
เพียงแต่มีคนทำให้มันกลายเป็นการพนันเท่านั้น
พอเราไม่เห็นมันเป็นการพนัน เราก็จะมองหุ้นและตลาดหุ้นในอีกแง่มุมหนึ่ง
ที่แตกต่างออกไป จากการเป็นนักเล่นหุ้น ที่เดี๋ยวก็ได้ เดี๋ยวก็เสีย ในเวลาที่รวดเร็ว
แล้วก็ทำตามแนวคิดที่ว่า หุ้นไม่ใช่การพนัน
พอมีความคิดแบบในภาพประกอบ และในข้อความข้างบน
และไม่ยอมเปลี่ยนความคิด
ผลที่ตามมาก็คือ ในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นอุปนิสัยและชะตากรรม
เหมือนที่ท่านพระอาจารย์ ท่านได้สอนไว้คือ
มีอุปนิสัย ที่ไม่สามารถซื้อขายหุ้นตามคนอื่นๆได้
และจะไม่ซื้อหุ้นที่แพงเกินสามัญสำนึกของเรา ไม่ว่าเราจะโลภไปกับราคาหุ้นแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวมันเอง
ข้อเสียที่เห็นชัดๆคือ พลาดหุ้นดีๆ ที่มีคนให้คำชี้แนะที่ดีๆ มากกว่าการแค่แจกปลาให้กิน
ยอมรับว่าพลาดโอกาสมานับครั้งไม่ถ้วน
ส่วนข้อดีก็คือ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก เต็มคำว่า เงินกำไรทุกบาทที่ได้จากตลาดหุ้น
มาจากการเลือกซื้อและขายหุ้นด้วยตัวเอง ข้อดีแบบนี้ บางทีก็ไร้สาระเหมือนกัน ฮาฮา
สรุปได้ว่า
ความคิดแรกเริ่มของเรา ถ้ามีผลเสียตั้งแต่เริ่มต้น
และไม่สามารถจะปรับปรุงและเปลียนแปลงให้เป็นไปในทางบวก
ลงท้าย อุปนิสัยอันนั้นมันจะตัดสินชะตากรรมของเราในตลาดหุ้น
ไม่ใช่ความรู้เรื่องปัจจัยพื้นฐาน เรื่องกราฟ เรื่องฯลฯ อันนั้นมันแค่เครื่องมือที่ตามหลังความคิดและอุปนิสัยของเรามา
ดังนั้นถ้าเริ่มรู้ตัวว่ามาผิดทาง
ต้องตัดตอน เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนเริ่มต้นคิดว่า
จะใช้วิธีการไหน ในการแสวงหาเงินในตลาดหุ้น
สำหรับผมมันเป็นชะตากรรมที่ยอมรับแล้วว่า
คงไม่สามารถจะทำให้พอร์ตโต ระดับร้อยล้าน พันล้านได้แน่ๆ
จากการคิดเอง ตัดสินใจซื้อขายเอง
แต่ถ้าถามว่า
พึงพอใจชีวิตในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นของตัวเองหรือไม่
กล้าตอบกับตัวเองอย่างมั่นใจมากที่สุดว่า
มันเกินเป้าหมายที่เคยคิดไว้ ตั้งสี่ห้าเท่าแล้ว
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ อะไรคืออุปนิสัย ที่จะตัดสินชะตากรรมในตลาดหุ้นของเรา ???
แต่อยากจะมาขยายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
ขอสลับเอาภาพ คำสอนของพระอาจารย์ชา สุภัทโท มาได้ด้านบน
จะได้เข้าใจอย่างต่อเนื่องว่า ชะตากรรมในตลาดหุ้นของเราเริ่มจากอะไร
จะขอโพสต์เป็นกรณ๊ศึกษา
ไม่ได้หมายความว่า คนอื่นๆจะทำแบบนี้
ใครจะทำอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะในที่สุด
ผมเชื่อว่า มันจะตัดสินชะตากรรมในตลาดหุ้นของเรา
ลองนึกย้อนกลับไป ตั้งแตตอนเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์
สันดาน เอ๊ยนิสัยที่เอาติดตัวมาเข้าตลาด โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
แม้ว่าจะเข้าไปอยู่ในห้องค้า ที่มีบรรยากาศเหมือนกำลังอยู่ในสนามแข่งม้า
นี่คือความคิดของผม ตั้งแต่ตอนแรกเข้าตลาดหุ้น
เรื่องความคิด ที่จะกลายเป็นสิ่งอื่นๆที่จะตามมา
เมื่อย้อนหวนคิดกลับไปแล้ว มีอีกเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆ ก็คือ
ผมไม่เคยคิดว่า หุ้นเป็นการพนัน
เพียงแต่มีคนทำให้มันกลายเป็นการพนันเท่านั้น
พอเราไม่เห็นมันเป็นการพนัน เราก็จะมองหุ้นและตลาดหุ้นในอีกแง่มุมหนึ่ง
ที่แตกต่างออกไป จากการเป็นนักเล่นหุ้น ที่เดี๋ยวก็ได้ เดี๋ยวก็เสีย ในเวลาที่รวดเร็ว
แล้วก็ทำตามแนวคิดที่ว่า หุ้นไม่ใช่การพนัน
พอมีความคิดแบบในภาพประกอบ และในข้อความข้างบน
และไม่ยอมเปลี่ยนความคิด
ผลที่ตามมาก็คือ ในที่สุดมันก็ได้กลายเป็นอุปนิสัยและชะตากรรม
เหมือนที่ท่านพระอาจารย์ ท่านได้สอนไว้คือ
และจะไม่ซื้อหุ้นที่แพงเกินสามัญสำนึกของเรา ไม่ว่าเราจะโลภไปกับราคาหุ้นแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวมันเอง
ข้อเสียที่เห็นชัดๆคือ พลาดหุ้นดีๆ ที่มีคนให้คำชี้แนะที่ดีๆ มากกว่าการแค่แจกปลาให้กิน
ยอมรับว่าพลาดโอกาสมานับครั้งไม่ถ้วน
ส่วนข้อดีก็คือ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก เต็มคำว่า เงินกำไรทุกบาทที่ได้จากตลาดหุ้น
มาจากการเลือกซื้อและขายหุ้นด้วยตัวเอง ข้อดีแบบนี้ บางทีก็ไร้สาระเหมือนกัน ฮาฮา
สรุปได้ว่า
ความคิดแรกเริ่มของเรา ถ้ามีผลเสียตั้งแต่เริ่มต้น
และไม่สามารถจะปรับปรุงและเปลียนแปลงให้เป็นไปในทางบวก
ลงท้าย อุปนิสัยอันนั้นมันจะตัดสินชะตากรรมของเราในตลาดหุ้น
ไม่ใช่ความรู้เรื่องปัจจัยพื้นฐาน เรื่องกราฟ เรื่องฯลฯ อันนั้นมันแค่เครื่องมือที่ตามหลังความคิดและอุปนิสัยของเรามา
ดังนั้นถ้าเริ่มรู้ตัวว่ามาผิดทาง
ต้องตัดตอน เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนเริ่มต้นคิดว่า
จะใช้วิธีการไหน ในการแสวงหาเงินในตลาดหุ้น
สำหรับผมมันเป็นชะตากรรมที่ยอมรับแล้วว่า
คงไม่สามารถจะทำให้พอร์ตโต ระดับร้อยล้าน พันล้านได้แน่ๆ
จากการคิดเอง ตัดสินใจซื้อขายเอง
แต่ถ้าถามว่า
พึงพอใจชีวิตในการเดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้นของตัวเองหรือไม่
กล้าตอบกับตัวเองอย่างมั่นใจมากที่สุดว่า