คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 24
เรามีสิ่งที่ไม่รู้เยอะกว่าสิ่งที่รู้อีก สิ่งที่เราไม่รู้เราก็จะต้องใช้ความเชื่อ หรือในทางวิทยาศาสตร์ใช้คำว่าสมมุติฐาน ดังนั้นความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่กับมนุษย์เป็นปกติอยู่แล้ว แม้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ยังต้องอาศัยความเชื่อ ดังนั้นจริงๆแล้วความเชื่อกับวิทยาศาสตร์ไม่ไช่เรื่องที่ขัดแย้งกัน ไม่ใช่สิ่งตรงข้ามกัน ไม่ใช่สิ่งที่จะไปด้วยกันไม่ได้ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อเรื่องผีบางคนไม่เชื่อ บางคนเชื่อเรื่องความรักบางคนไม่เชื่อ บางคนเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวบางคนไม่เชื่อ ล้วนแล้วแต่ไม่มีใครผิด เพราะเมื่อเราเจอกับสิ่งที่ไม่รู้ทุกคนก็มีสิทธิ์คาดคิดและเชื่อในสิ่งนั้น มันจะผิดก็ต่อเมื่อเอาความเชื่อมาสรุปว่าเป็นความจริง
คนที่อ้างว่าตัวมีแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์หลายคนในห้องนี้ กลับไม่ได้มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์จริง นักวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง เขาจะไม่สรุปหรอกว่าผีไม่มีจริง แต่เขาจะบอกว่ายังพิสูจน์ไม่ได้ ส่วนเขาจะเชื่อแบบไหนเป็นอีกเรื่อง ดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ไปถามว่าผีมีจริงหรือเปล่า แล้วเขาตอบมาทันทีว่า "ผีไม่มีจริงแน่นอน" แปลว่าคนนั้นไม่ได้มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์
คนที่อ้างว่าตัวมีแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์หลายคนในห้องนี้ กลับไม่ได้มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์จริง นักวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง เขาจะไม่สรุปหรอกว่าผีไม่มีจริง แต่เขาจะบอกว่ายังพิสูจน์ไม่ได้ ส่วนเขาจะเชื่อแบบไหนเป็นอีกเรื่อง ดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่ไปถามว่าผีมีจริงหรือเปล่า แล้วเขาตอบมาทันทีว่า "ผีไม่มีจริงแน่นอน" แปลว่าคนนั้นไม่ได้มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์
แสดงความคิดเห็น
คนในหว้ากอเก่งๆกันทั้งนั้นเลยมั้งสินะ จ๊ะ
ทำไม เชื่อแล้วมันน่าอับอายมากเลยหรือ เลยแย่งกันไม่เชื่อ หรือว่าทุกคนในห้องนี้ เรียนวิทยาศาสตร์กันหมดแล้วไปพิสูจน์มาแล้วว่าผีไม่มีจริง
ไหนมาบอกหน่อยดิ แต่ผมเนี่ยแหละ เชื่อเรื่องผี เรื่องลึกลับ ว่ามีจริง แค่เชื่อพอประมาณ ไม่ได้งมงาย แค่เชื่อว่ามีอยู่จริงเท่านั้น
หลายครั้งที่ผมเห็นเวลามีคนมาตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ จะเข้ามาเอาฮาซะส่วนใหญ่ ไม่ต้องเอาฮาเอาขำกลิ้งกันให้มากนักหรอก
มีมารยาทกันบ้าง เห็นใจคนตั้งกระทู้หน่อย ถ้าไม่รู้ก็อยู๋เฉยๆ ไม่ต้องพิมพ์ไม่ต้องเล่น ถ้าอยากเล่นมุกกันนักทำเรื่องให้พันทิพตั้งห้องเล่นมุกกันเลย
มันคงจะดีกว่านี้ไม่น้อย
พิมพ์จบแล้ว เอ้าาาาาาเชิญ