ก่อนความฝัน ภูหินร่องกล้า ตอนที่ 2

ก่อนความฝัน ภูหินร่องกล้า ตอนที่ 1 ------->http://pantip.com/topic/31886163

ใครที่ยังตามอ่าน..ขอบคุณมากครับ ช่วงนี้ เริ่มกลับมาเขียนจริงจังแล้ว >////<

.................................................................................................................................................................................

บรรดาชาวแคมป์ปิ้ง ต่างพากันลงจากรถแยกย้ายกันไปซื้อของกินหลายๆคน เดินตามหาเพื่อน จับกลุ่มบ่นเรื่องโดนจับแยกกัน  นุ้ยเดินลงจากรถแล้วก็ไปตามหาเมย์  ส่วนผมหลังจากรับคำนุ้ยว่าจะไม่ขึ้นรถไปก่อนเธอแล้ว ก็เดินหลบมาโทรศัพท์ หาเฟิร์น คนเดียว




" ฮัลโหล...... " เสียงเฟิร์น รับสาย

" มีนถึงจุดพัก แล้วนะคะเฟิร์น  น่าจะเป็นสระบุรี " ผมพูด

" ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร !!!!!!!!!!! "  เฟิร์นส่งเสียงดังผ่านมาทางโทรศัพท์

" เพื่อนคร๊าฟฟฟ  รู้ไหมว่าเราโดนจับแยกกันหมด เจอแต่คนที่ไม่รู้จัก " ผมพูดจ๋อยๆ - -

" แล้วทำไมต้องจับมือด้วยยยยย !!!!!   พอเค้าเห็นเฟิร์น เค้ารีบเดินมาดึงมีนไปเลยนะ " เฟิร์นแหว๊ เสียงดัง

" ก็คงเพราะ ไม่รู้จักใครหละมั่ง ...  มั่งนะ   เจอมีนเข้าก็คงดีใจอะนะคิดว่า " ผมตอบไป เท่าที่นึกออก

" แล้วทำไมเฟิร์นไม่เคยเจอเลย  เพื่อนแน่หรอ ? " เฟิร์นเค้นถามต่อ

" อื้มม  เพื่อนคอมซายด์  เคยเรียนอิ้ง กลุ่มเดียวกันหนะ เป็นเพื่อนเมย์อีกที " ผมอธิบาย

" แน่ใจว่าเพื่อน ? ตอนแรกเดินตามมาเฉยๆ  พอเห็นมีนจะเดินแยกออกมาหาเฟิร์น รีบมาคว้าแขนไปเลย...  มีอะไรแน่ๆ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ !!!! "

" ไม่มี๊ !!!!!!!  = =a  คิดมากไปแล้วคะ  เค้าโดนจับแยกกลุ่มหมด ก็อาจจะวิตก อะไร แบบนี้หละมั่ง... ตอนแรกมีนก็บอกว่าจะไปนั่งกับแชมป์ด้วยแหละ " ผมแก้ตัว

" แล้วทำไมไม่ไปนั่งกับแชมป์ !!!! เห็นนะ ว่านั่งด้วยกัน... ทำไมทำหยั่งงี้ !!!!!! " เสียงเฟิร์นชักโหดกว่าเดิม

" ไป ไม่ได้จ้าาาา อาจารย์ไม่ให้ไป... แล้วที่มีนไม่ไปนั่งที่อื่น ก็เพราะ มีนก็ไม่รู้ใครเหมือนกัน เฟิร์นเข้าใจหน่อยน๋าา ~... " ผมให้เหตุผลกับเธอ พร้อมอ้อนไปด้วย

    หลังจากนี้ก็มีวีนเหวี่ยง ไม่เชื่อกันอีกพอสมควร กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้ยอมความได้ - -

" กลับมาโดนแน่ตามีน.... ถึงแล้วโทรมาหาเค้าด้วยนะคะ " เสียงเฟิร์น เริ่มดรอปลง น่ารักขึ้นแล้ว

" ครับผม  ยังไงถ้าเค้าจอดพักอีกจะโทรหานะคะ ^ ^ " ผมพูด อย่างโล่งอก ที่เธอลดความโกรธลงมาบ้าง

  พอวางสายจากเฟิร์น ผมก็เริ่มเดินตามหาแชมป์ กับ ตุ๊ ตอนนี้มีเรื่องจะเล่าให้เพื่อน 2 คนนนี้ฟังเยอะเลย นึกสีหน้าของแชมป์ออกเลย ถ้ามันรู้ว่ากลุ่มผมมีนุ้ยอยู่ด้วย แถมได้นั่งข้างๆกัน อีกต่างหาก เดินมาทางร้านขายของก็เห็นแชมป์นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม้หน้าร้าน ตุ๊ ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยแฮะ

" ไงครับคุณ นั่งทำอะไรอยู่ " ผมเอ่ยถามขึ้นมาก่อน ทำให้แชมป์หันมามองทางผม

" เอ้า.. เออ เจอเอ็งสักที หาใครไม่เจอเลยเนี่ยะ " แชมป์ตอบ ดูดีใจเล็กน้อยที่เจอเพื่อน

" มีเรื่องจะเล่าให้ฟังหวะ " ผมนั่งลงข้างๆเพื่อนแล้วพูด




  ผมเริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่เจอนุ้ยตอนแบ่งกลุ่มให้ฟัง  แชมป์หัวเราะคิกคัก ยิ่งตอนบอกว่านุ้ยว่าดึงมือผมไปต่อหน้าเฟิร์น แชมป์ทำหน้าเหมือนจะบอกว่าเอ็งรอดมาได้ไง

" แล้วเอาไงหละ ?  อยู่ใกล้ๆกันตลอดแบบนี้หนะ... เอ็งชอบมันมากไม่ใช่หรอ " แชมป์ถามอย่างรู้ใจ

" ข้าก็เริ่มกลัวแล้วหวะ  ถ้าต้องอยู่ใกล้ๆ ไปตลอดทริปนี้มีหวังใจอ่อนแน่ๆ " ผมพูดเสียงอ่อนๆ

  เราคุยกันอยู่นานสองนาน ก็ยังไม่เห็นวี่แววของตุ๊ จนได้เวลาขึ้นรถแล้ว เราเลยแยกกันกลับไปที่รถของตัวเอง
  ที่ใกลๆ้ รถคันของผม นุ้ยกำลังยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเธอหน้าตาดูวิตกกังวลบางอย่าง ผมยืนรอเธออยู่ห่างๆและยังไม่ได้ขึ้นไปบนรถ เพราะเธอบอกให้ผมรอเธอก่อน




" มีน ปะขึ้นรถกัน " พักนึงหลังจากเธอคุยกับเพื่อนเสร็จ นุ้ยก็เดินมาหาผม

" มีอะไรหรือเปล่า สีหน้าดูไม่ค่อยดี " ผมถามตามตรง

" ก็เมื่อกี้คุยกบเมย์ มันถามว่า นุ้ยจะนอนกับใคร เพราะว่าเต้นก็คงไม่ได้นอนคนเดียว  นุ้ยเลยเครียดๆนิดหน่อยไม่รู้จะนอนกับใคร " นุ้ยตอบ

" อ้าว !! แล้วเมย์นอนกับใครหละ " ผมสงสัยเลยถามเธอไป

" ก็ เมย์ได้อยู่กลุ่มเดียวกับแนน ลูกหมีก็เจอเพื่อนในกลุ่มพอดี " นุ้ยตอบ  ลูกหมีคือเพื่อนเธออีกคนนึง ทั้งกลุ่มเค้าสวยๆกันทั้งแก็งค์

" เดี๋ยวถึงโน้น ค่อยลองถามก็ได้ว่าขอเปลี่ยนที่นอนกับเพื่อนกลุ่มอื่นได้ไหม  อย่าพึ่งไปซีเรียสเลย " ผมปลอบเธอ ไม่อยากให้คิดมาก

   เรากลับขึ้นมาบนรถอีกครั้ง โดยรอบนี้มีขนมจุกจิกของนุ้ย กับน้ำเปล่าอีก 1 ขวด เป็นเพื่อนร่วมทาง ขบวนรถของชาวแคมป์ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากจุดพัก เข้าสู่ถนนที่ทอดยาวไปในขุนเขาเบื้องหน้าอีกครั้ง

" มีนเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ " นุ้ยถาม หลังจากเราแกะขนมมากินกัน

" ก็เรื่อยๆ แหละ ช่วงนี้....  สุขมั่ง ทุกข์บ้าง สลับๆ แต่พักหลังๆ จะเน้นไปทางทุกข์ ซะเยอะ" ผมตอบ

  เราถามเรื่องของอีกฝ่ายหลังจากการพบกันครังสุดท้าย ว่าเรื่องหลังจากนั้นมีอะไรเพิ่มเติมบ้าง นุ้ยบอกว่าเธอแน่ใจแล้วว่าแฟนเธอมีคนใหม่แน่ๆ แค่เธอยังไม่สามารถตัดเค้าออกไปจากใจได้ น่าแปลกที่ทุกครั้งที่เธอเล่าถึงแฟนเธอ หัวใจผมแอบกรีดร้องอย่างเงียบๆ อยู่ข้างใน

    เสียงพูดคุยในรถเริ่มจากหายไปอีกครั้ง และคนทั้งคันรถก็เริ่มเข้าสู่ห่วงนิทรา นุ้ยยังคงหลับพิงขอบหน้าต่าง แต่รอบนี้เธอเอาเสื้อกันหนาวมารองศีรษะ ตามคำแนะนำของผมแล้ว



    บนรถที่เงียบสนิท  มีเพียงเสียงลมทีเคลื่อนผ่านความเงียบในยามราตรี ยังมีชายผู้นึงที่ยังคนลืมตา นอนไม่หลับในเวลานี้  ผมกำลังจ้องมองเธอราวกับหลงอยู่ในภวังค์ ใจนึงคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาในอดีตระหว่างเราช่วงเวลาที่ดีต่างๆ ใจนึงรู้สึกผิดต่อเฟิร์น เธอเป็นผู้หญิงที่แสนดี ถึงแม้จะเจ้าอารมณ์จนทำให้ผมเจ็บปวดหลายครั้ง แต่เธอไม่เคยคิดนอกใจผมแน่นอน  อะไรจะเกิดขึ้นที่จุดหมายปลายทางข้างหน้า แปลกมากจริงๆ ที่ตอนนี้หัวใจผมพองโต แค่เพียงได้อยู่ใกล้ๆและมองหน้าเธอระยะประชิดอีกครั้ง อากาศเย็นภายในรถเริ่มกล่อมให้สติผมเลอะเลือน ก่อนที่ภาพภูเขาจะค่อยๆเคลื่อนเลือนหายไปในความมืด..

     ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งในความมืดที่ไม่รู้เวลาว่าผ่านมานานแค่ไหนแล้ว รถทัวร์กำลังแล่นขึ้นภูเขาที่ค่อนข้างชันจนรู้สึกได้ ท้องฟ้าภายนอกยังคงมืดสนิท ผมขยับมือมาขยี้ตาตามสัญชาติญาณก่อนจะรู้สึกตัวว่ามือซ้ายผมมันขยบไม่ได้และกำลังชาอยู่ตอนนี้




  นุ้ยกำลังนอนลงมาบนกระเป๋าของเธอที่อยู่บนตักของผมซึ่งก็ทับแขนของผมไปด้วย ภาพตอนนี้ทำให้ผมตกใจและสงสัยมากทีเดียว ก็ไหนเมื้อกี้เธอปฎิเสธที่จะนอนตักผมไงหละ... แล้วทำไมอยู่ดีๆเราสองคนถึงมาอยู่สภาพ หรือเธออาจจะละเมอก็ได้หละมั่ง ไม่ก็เมาขี้ตาหาที่นอนสบายๆ โดยธรรมชาติ  หรืออย่างสุดท้ายที่จะคิดได้คือเธอจงใจ ที่จะมานอนลงตรงนี้เอง ใครจะรู้หละ ?

     ผมสลัดความรู้สึกสะลึมละสือออกไป แล้วเอื้อมไปหยิบเสื้อกันหนาวที่หล่นอยู่อีกฝั่งของนุ้ยมาห่มให้เธอ อากาศในรถค่อนข้างหนาวเย็นมากแล้วตอนนี้ ได้ยินเสียงกรนเบาๆ มาจากที่ไหนสักแห่งบนรถ  จากจุดนี้เลยแหละที่ทำให้หัวใจผมมันพองโตขึ้นมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ณ ตอนนี้ ตรงนี้ ไม่ต้องมีสิ่งที่ควรทำ ไม่ต้องมีเส้นแบ่งระหว่างเรา ในระหว่างที่สติสัมปชัญญะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เสียงหัวใจมันก็เลยดังชัดเจนที่สุด ความรู้สึกที่ผมพยายามปิดกั้นมันเลยรั่วไหลออกมามากมาย

     ท้องฟ้านอกตัวรถเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว ถ้าให้เดาก็คงเดาว่า ประมาณตี 5  ฟ้าหม่นใกล้สว่างของเช้าวันใหม่ ตั้งแต่ผมตื่นครั้งสุดท้ายเมื่อสักพักที่ผ่านมา ผมก็ยังไม่ได้หลับอีกเลย มัวแต่คิดโน่นคิดนี่ และมองบรรยากาศนอกรถไปเรื่อยๆ ป้ายบอกทาง บอกเราว่า เรามาถึงจังหวัดเพชรบูรณ์มานานแล้ว แต่ว่าการเดินทางขึ้นไปบนภูนั้นยังใช้ไว้เวลาอีกนานมากกว่าจะถึง ตอนนี้รอบๆข้างที่รถขับผ่าน จะเป็นบรรยากาศบ้านบนภูเขา ที่สลับกับชุมชนคนชนบท  รถวิ่งขึ้นภูเขาตลอดเวลา ต้นไม้ข้างทางไม่ได้มีสีเขียวสดใส แต่กลับเป็นไม้ที่ดูแล้งแห้ง บางต้นกำลังพลัดใบแต่หลายต้นส่วนใหญ่ใบจะถูกปกคลุมด้วยฝุ่นสีขาว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่