อสังหาฯหืดจับ พลิกเกมกระตุ้นยอดขายผ่านโปรแกรมลงทุนให้เช่า "กสิกรไทย" ชี้เริ่มเห็นตลาดให้เช่าคอนโดฯ กลับมาคึกคักรับประตูเออีซีเปิด จับตาโซนใหม่นิยมสูง พระราม 3-ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบางหว้า-พระราม 9-นราธิวาส "เกียรตินาคิน" เกาะกระแสขนเอ็นพีเอ เร่ขาย
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เริ่มเห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลอปเปอร์) รายใหญ่หลายรายหันมากระตุ้นยอดขายผ่านการให้ผู้บริโภคซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนให้เช่ามากขึ้น โดยออกไปให้ความรู้ควบคู่กับการดึงความสนใจด้วยอัตรา ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเปิดอย่างเต็มรูปแบบใน ปี 2558 ซึ่งจะทำให้การลงทุนจากการให้เช่า น่าสนใจมากขึ้น โดยทางดีเวลอปเปอร์ยังเป็นผู้บริหารจัดการผู้เช่าให้อีกด้วย
ทั้งนี้ ผลตอบแทนจากการให้เช่าในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 3-8% ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลทรัพย์และราคาที่ซื้อมา อาทิ หากเป็นคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท ค่าเช่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000-30,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าจากยุโรป ญี่ปุ่น ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 5-8% ต่อปี ย่านรัชดาฯ ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 15,000-18,000 บาทต่อเดือน ผู้เช่าเป็นชาวจีน เกาหลีใต้ ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 3-5% ต่อปี เป็นต้น
ขณะที่ทำเลใหม่ซึ่งได้รับความสนใจในการลงทุนและเป็นที่นิยมในการเช่ามากขึ้น ได้แก่ ทำเลย่านพระราม 3 ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบางหว้า พระราม 9 และถนนเส้นนราธิวาสฯ ที่เริ่มเห็นการเข้ามาซื้อคอนโดฯขนาด 30-35 ตร.ม.
"เริ่มเห็นการทำตลาดลักษณะนี้มา ระยะหนึ่งแล้ว เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย และต้องการเกาะติดเทรนด์เออีซีที่จะทำให้การลงทุนให้เช่าอสังหาฯบูมขึ้นอีกครั้ง หากปัญหาการเมืองเริ่มนิ่ง ก็น่าจะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นมาก แต่ตลาดนี้จะไม่กระทบกับแบงก์มากนัก เพราะกลุ่มนี้จะซื้อเงินสดเป็นส่วนใหญ่" นายชาติชายกล่าว
ขณะที่นางสุวรรณี วัธนเวคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินรอการขาย ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ธนาคารจัดแคมเปญ "ออมที่ มีแต่ได้" เพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) โดยนำเสนอทรัพย์พร้อมโอนที่เป็นสิ่งปลูกสร้างและที่ดิน เพื่อสร้างความมั่งคั่งแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจากข้อมูลของกรมธนารักษ์พบว่าค่าเฉลี่ยราคาที่ดินตลอดระยะ 4 ปีที่ผ่านมา (2555-2558) เพิ่มขึ้นกว่า 21.34% ขณะที่ทรัพย์ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างก็ราคาต่ำกว่าทรัพย์ทั่วไปมากถึง 15-30% สามารถนำไปปรับปรุงให้ดูดีขึ้นได้
นางจิตรวดี พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้ม ฟื้นตัวขึ้น น่าจะเป็นจังหวะให้การขาย คอนโดฯเพื่อลงทุนและนำไปปล่อยเช่าต่อ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะย่านถนนสุขุมวิทที่เป็นทำเลใหญ่ของตลาดนี้ น่าจะมีสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าต่อสูงถึง 20-25% ซึ่งลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่มีเงินเก็บ พร้อมจะแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนได้ ดังนั้น ราว 60-70% จะเป็นการซื้อเงินสด
"กลุ่มเมเจอร์ฯ ก็มีโครงการลักษณะนี้อยู่ในช่วงนี้เช่นกัน คือออกัสตัน สุขุมวิท 22 ซึ่งกำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว มีบางส่วนที่จัดแพ็กเกจขายเพื่อนำมาลงทุนปล่อยเช่าต่อ การันตีผลตอบแทน 7% จากราคาขาย"
ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ 05 มิ.ย. 2557
ติดตามข้อคิดการเงินได้ที่ Maibat Fanpage
https://www.facebook.com/maibat.thailand 
ล้อเทรนด์คนซื้อคอนโดปล่อยเช่า แบงก์สบช่องขน เอ็นพีเอ ออกขาย
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เริ่มเห็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลอปเปอร์) รายใหญ่หลายรายหันมากระตุ้นยอดขายผ่านการให้ผู้บริโภคซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนให้เช่ามากขึ้น โดยออกไปให้ความรู้ควบคู่กับการดึงความสนใจด้วยอัตรา ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะเปิดอย่างเต็มรูปแบบใน ปี 2558 ซึ่งจะทำให้การลงทุนจากการให้เช่า น่าสนใจมากขึ้น โดยทางดีเวลอปเปอร์ยังเป็นผู้บริหารจัดการผู้เช่าให้อีกด้วย
ทั้งนี้ ผลตอบแทนจากการให้เช่าในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 3-8% ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเลทรัพย์และราคาที่ซื้อมา อาทิ หากเป็นคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิท ค่าเช่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 25,000-30,000 บาทต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าจากยุโรป ญี่ปุ่น ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 5-8% ต่อปี ย่านรัชดาฯ ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 15,000-18,000 บาทต่อเดือน ผู้เช่าเป็นชาวจีน เกาหลีใต้ ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 3-5% ต่อปี เป็นต้น
ขณะที่ทำเลใหม่ซึ่งได้รับความสนใจในการลงทุนและเป็นที่นิยมในการเช่ามากขึ้น ได้แก่ ทำเลย่านพระราม 3 ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบางหว้า พระราม 9 และถนนเส้นนราธิวาสฯ ที่เริ่มเห็นการเข้ามาซื้อคอนโดฯขนาด 30-35 ตร.ม.
"เริ่มเห็นการทำตลาดลักษณะนี้มา ระยะหนึ่งแล้ว เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย และต้องการเกาะติดเทรนด์เออีซีที่จะทำให้การลงทุนให้เช่าอสังหาฯบูมขึ้นอีกครั้ง หากปัญหาการเมืองเริ่มนิ่ง ก็น่าจะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นมาก แต่ตลาดนี้จะไม่กระทบกับแบงก์มากนัก เพราะกลุ่มนี้จะซื้อเงินสดเป็นส่วนใหญ่" นายชาติชายกล่าว
ขณะที่นางสุวรรณี วัธนเวคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินรอการขาย ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ธนาคารจัดแคมเปญ "ออมที่ มีแต่ได้" เพื่อกระตุ้นยอดขายทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) โดยนำเสนอทรัพย์พร้อมโอนที่เป็นสิ่งปลูกสร้างและที่ดิน เพื่อสร้างความมั่งคั่งแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจากข้อมูลของกรมธนารักษ์พบว่าค่าเฉลี่ยราคาที่ดินตลอดระยะ 4 ปีที่ผ่านมา (2555-2558) เพิ่มขึ้นกว่า 21.34% ขณะที่ทรัพย์ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างก็ราคาต่ำกว่าทรัพย์ทั่วไปมากถึง 15-30% สามารถนำไปปรับปรุงให้ดูดีขึ้นได้
นางจิตรวดี พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้ม ฟื้นตัวขึ้น น่าจะเป็นจังหวะให้การขาย คอนโดฯเพื่อลงทุนและนำไปปล่อยเช่าต่อ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะย่านถนนสุขุมวิทที่เป็นทำเลใหญ่ของตลาดนี้ น่าจะมีสัดส่วนการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าต่อสูงถึง 20-25% ซึ่งลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการที่มีเงินเก็บ พร้อมจะแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนได้ ดังนั้น ราว 60-70% จะเป็นการซื้อเงินสด
"กลุ่มเมเจอร์ฯ ก็มีโครงการลักษณะนี้อยู่ในช่วงนี้เช่นกัน คือออกัสตัน สุขุมวิท 22 ซึ่งกำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว มีบางส่วนที่จัดแพ็กเกจขายเพื่อนำมาลงทุนปล่อยเช่าต่อ การันตีผลตอบแทน 7% จากราคาขาย"
ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ 05 มิ.ย. 2557
ติดตามข้อคิดการเงินได้ที่ Maibat Fanpage
https://www.facebook.com/maibat.thailand