*** A book A week: วีคนึงที่ผ่านมาอ่านอะไรกันมั่งเอ่ย #14 ***

วันนี้แอบมาช้านิดนึงแหละ ไม่รู้ว่ามีใครกำลังรอกระทู้เราอยู่รึเปล่า หวังว่าจะมีนะ อิอิ ไม่พูดพล่ามทำเพลง มาเริ่มเลยละกัน คือเมื่อวีคก่อนเราได้หนังสือมาเพิ่มเข้ากองดองอีกแล้ว ได้มาจากร้านประจำของเราน่ะแหละ มีทั้งหมด 4 เล่มด้วยกันค่ะ


เล่มแรกคืองานเรื่องสั้นของนักเขียนหญิงชาวแคนาดาที่เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลไปเมื่อปี 2013 นี่เองค่ะ เราเองเริ่มอ่านหนังสือแบบจริงจังตอนโตแล้วก็เริ่มจากเรื่องสั้นนี่แหละนะคะ ในปีที่ Alice ได้รับรางวัลก็เลยทำให้เราจับตามาตลอด อยากจะอ่านงานเขียนของเธอบ้าง จนเมื่อเดือนที่แล้วในเพจของสำนักพิมพ์บทจรมีข่าวอัพเดทว่าจะมีการนำ Dear Life มาแปลให้ได้อ่านกัน ทำเอากระตุ้นความอยากได้ของเราอีกครั้ง แต่กว่าที่จะออกก็คงปีหน้าโน่นละ รอไม่ไหวแน่นอนเลย พอดีเจอว่าที่ Dasa มีอยู่ในสต็อก ก็เลยรีบไปสอยเลยค่ะ สภาพยังดีมาก ราว 90% ได้เลย ราคาเลยแพงเล็กน้อยที่ 150 บาทค่ะ แต่แอบเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีหน้าปกแบบที่เราอยากได้ เราเห็นภาพที่เพจของสนพ.เขาเอามาลงแล้วมันสวยดีจัง เลยอยากได้บ้าง



สำหรับเล่มนี้เป็นวรรณกรรมคลาสสิคที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วนะคะ ส่วนตัวเราเองสมัยก่อนมีปัญหาไม่กล้าอ่านวรรณกรรมคลาสสิคหรือวรรณกรรมระดับโลกอะไรที่ฉลาดๆเลย เพราะมโนไปว่าตัวเองโง่ กลัวอ่านแล้วจะไม่รู้เรื่อง เพิ่งจะกล้ากลับมาอ่านจริงจังก็ปีนี้เองค่ะ เลยคิดว่าเริ่มเอาจากเรื่องที่เบาๆก่อน ไม่ต้องมีปรัชญาอะไรมาก ก็เลยมาลงตัวที่ Jane Eyre นี่ละ บวกกับหน้าปกสวยมากด้วย จริงๆเคยเจอหน้าปกแบบอื่นมาเยอะกว่านะคะ แอบหวังไว้ว่าถ้ามีหน้าปกนี้หลุดมาที่ร้านจะรีบซื้อไว้เลย แล้วก็มีมาจริงๆค่ะ สภาพราว 85% ได้ มุมปกล่างมีรอยงอนิดหน่อยเลยมีการติดเทปใสไว้ นอกนั้นก็ยังดีอยู่ค่ะ ด้านในไม่เหลืองไม่เยินมากนัก เลยจ่ายค่าตัวไปที่ 90 บาทถ้วน


เล่มนี้เป็นหนังสือที่อยู่นอกสายตามากค่ะ พอดีไปเจอในกองหน้าเคาน์เตอร์ ที่ตอนแรกไม่เคยรู้เลยว่ามันเป็นกองราคาพิเศษ ตอนแรกเข้าใจมาตลอดว่ามันคือกองของหนังสือเข้าใหม่ที่คนเพิ่งเอามาขายหรือมาเทรดกับหนังสือในร้าน แล้วเขายังไม่ได้เอาไปเก็บเรียงที่ชั้น เราไม่กล้าหยิบเพราะกลัวเขาจะลำบากต้องจัดใหม่ไรงี้ จนเมื่อล่าสุดเห็นคนหยิบดูค่ะ ก็เลยลองหยิบบ้าง โอ้ววว ราคาถูกๆหลายเล่มเลย แต่ที่สะดุดกับเล่มนี้เพราะสภาพยังใหม่จัดค่ะ 95% ก็ว่าได้ เหมือนซื้อไปแล้วไม่ได้อ่าน แต่สีกระดาษด้านในจะเหลืองนิดนึงเพราะความชื้น ดูชื่อแล้วเดาไม่ออกว่าเป็นแนวไหน ก็เลยเช็คคร่าวๆแค่ว่าไม่แฟนตาซี ไม่มีเผ่าแปลก ไม่มีโลกสมมติ เท่านี้ก็คว้าไว้แล้วค่ะ ค่าตัวแค่ 49 บาทเท่านั้นเอง


เล่มสุดท้ายเป็นนิยายปกแข็งที่ได้มาแบบบังเอิญเหมือนกัน พอดีว่าเมื่อวานเราตั้งใจจะไปที่สวนเบญจศิริไปไถสเก็ตเล่นซะหน่อย แต่เจอทหารปิดสวนซะงั้น ไม่มีอะไรทำ ก็เลยไปเดินเล่นที่ Dasa ดีกว่า ฆ่าเวลา เข้าไปแล้วติดฝนอีก เลยช่วยซื้อหน่อยสักเล่มละกัน ไปตากแอร์ร้านเขานานๆก็เกรงใจ ฮ่าๆ เลือกไปเลือกมามันไม่ค่อยได้ดังใจเท่าไหร่ เดินเลือกอยู่นานมาก จนมาเจอเข้ากับ Love Monkey ที่อยู่ในกองลดเดียวกับเล่มเมื่อกี้ สภาพโอเคเลย กระดาษเหลืองเล็กน้อย dust jacket ขอบบนด้านหน้าและหลังงอประมาณนึง แต่ไม่ได้ขขาดจนน่าเกลียด เราลองเปิดอ่านคร่าวๆพบว่าเป็นนิยายแนว lad-lit เรายังไม่เคยอ่านแนวนี้นอกจากงานของ Nick Hornby เลย ก็เลยซื้อไว้ซะหน่อย อิอิ มาหาเจอจาก goodreads เขาว่าเล่มนี้เป็นเหมือน Bridget Jones' Diary ภาคผู้ชายอะค่ะ แค่คิดก็สนุกละนะ ปกแข็งแบบนี้ราคาแค่ 79 บาทค่ะ หนักเอาการเลยละ

จบการเห่อของเราแล้ว ฮ่าๆ เล่มที่อ่านไปในวีคที่แล้วก็จะมี Next Summer ของ Hailey Abbott อ่านมันทั้งๆที่ไม่ได้อ่านเล่มแรกก่อนนี่ละ ถ้าจะอ่านไม่รู้เรื่องให้มันรู้ไปสิว่ะ แล้วก็มี Dear Life และ Love Monkey ด้วยค่ะ ... เอ เหมือนจะได้ยินเสียงคนใกล้ตัวถามว่าแล้ว Shantaram ที่สัญญาไว้ว่าจะอ่านวันละ 50 หน้าละ กร๊ากกก ขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ มาเม้าท์มอยกันเรื่องหนังสือเยอะๆเลยนะคะ

ป.ล. สำหรับใครที่ชอบอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ขอเชิญเข้าร่วมกลุ่ม abaw ใน FB ได้นะคะ >>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/groups/756406884377437/