สวัสดีค่ะ...
ถึงเวลาต้องมาอัฟเดทกันอีกแล้ว...ขอบคุณค่ะสำหรับคุณบรรดาแฟนๆที่ติดตามไปที่เฟสด้วย ดิฉันก็พยายามทำตัวให้เป็นสารพัด ทั้งแม่บ้าน ทั้งนักกีฬา นักนิยมประวัติศาสตร์ และแม่ครัวที่ยุ่งหัวฟู...
อะไรที่โพสต์ๆเก็บไว้ในเฟส...วันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังค่ะ สำหรับน้องๆหลานๆที่ยังไม่ได้อ่าน...
ปฏิทินแม่บ้านปัจฉิมวัย....ในฝรั่งเศส!! ตอนหก
เมนูคาวหวานชนิดฉับไว...!!
ก้อ...ตามที่เล่าให้ฟังว่าภารกิจออกกำลังกายนั้น มันช่างเบียดเสียดกัน ยิ่งกว่าคิวของใบเตย อาร์สยามอีก...เพราะหล่อนยังมีเวลาคิดถึงเรื่องแต่งงานแต่งการได้
แต่ดิฉัน..แทบไม่มีเวลาได้คิดอะไรเลย เพราะทั้งหมาที่ต้องมาทำอาหารเมนูพิเศษ (ตามหมอสั่ง) และแมวที่หมู่นี้ค่อนข้างหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ กินเก่ง เหวี่ยงวีน...
เลยบอกคนข้างเคียงไปว่า...กินกันอย่างตามมีตามเกิดแล้วกันน๊ะจ๊ะ หรือ ภาษาฝรั่งเศสเขาว่า...À la bonne franquette
หมายถึง มีอะไรในตู้เย็นก็เอามาผัดๆต้มๆ พอประทังกันไปมื้อนึง
เผอิ๊ญ...เมื่อวานฝนตก และมีพายุเข้ามาตั้งแต่ค่ำของวานซืน...คุณสามีมาบอกว่า งดกอล์ฟไปวันนึงละกัน แต่...คุณอยากจะไปซื้ออะไรเพิ่มที่ตลาดไหม?
เล่นถามแบบนี้...ดิฉันเดาได้เลยว่า คงอยากทานอะไรที่พิเศษๆไปกว่าธรรมดา...เลยไปเปิดตู้เย็นดู...จึงได้เห็นว่า เค้กที่ทำไว้กำลังจะหมด เหลืออยู่ชิ้นน้อยๆเอง
จึงได้ร้องอ๋อ...
เพราะคุณคนนี้เขาชอบทานขนมค่ะ ต้องของหวานหลังอาหารทุกมื้อ ก่อนที่ดิฉันจะมารับหน้าที่นี้ เขาทำของเขาเอง ที่มีอยู่ของชนิด (ทานได้ทั้งปี)
นั่นคือ คุ๊กกี้อัลมอนด์ กับ พุดดิ้งแบบที่เปิดซองเทใส่ในน้ำแล้วเอามาใส่ถ้วยเข้าตู้เย็น...
เลยถามว่า...อยากทานเค้กแบบไหนล่ะทีนี้?
เขาตอบว่า อะไรก็ได้ (อ๋อ)...กาแฟก็ดี (อ้าว...)
เลยต้องมารื้อฟื้นวิชากันใหม่ เพราะดิฉันไม่ชอบทานของหวานตามพื้นนิสัยเดิม เมื่อก่อน สมัยที่"ติดกาแฟ" ก็ต้องมีอะไรกรอบๆขบเคี้ยวบ้าง
แต่พอเลิกกาแฟไป...ก็ไม่ได้นึกอยากทานพวกขนมนี่อีกเลย...
ของหวานอย่างเดียวที่ชอบมาก...แต่หากินยากในต่างแดน นั่นคือ พวกขนมน้ำแข็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็งไส ลอดช่อง สลิ่ม หรือแม้กระทั่ง น้ำแข็งกด (เคยเห็นกันไหมคะ?)
ไหนๆจะทำเค้กแล้วก็เลยทำควบไปกับอาหารกลางวันไปเลย...เพราะต้องใช้เตาอบให้คุ้มค่า...
ดิฉันมีเนื้อรวนเหลืออยู่...จึงเอามาผัดแบบกระเทียม พริกไทย ใส่เห็ด ใส่ซอสครีมบางๆ เติมมะเขือเทศ เติมเห็ด และ หอมหัวใหญ่หั่น
เอาแผ่นแป้งออกมารีด ให้เป็นสี่เหลี่ยม จัดวางซ้อนริมขอบให้หนา เพราะต้องการให้เป็นกระทง เอาเข้าเตาอบด้วยไฟ 180 องศา
ประมาณ 20 นาที
ในช่วงยี่สิบนาทีนี้ ก็จัดสลัด และเตรียมเครื่องทำเค้กแบบง่ายๆ ฉบับทันใจ
นั่นคือ การทำ genoise (เจนัวส์) อันเป็นพื้นฐานของการทำเนื้อเค้กที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะสะดวก ถ้าจะว่าไป มันก็เหมือนกับการทำแยมโรลต่างๆนั่นเอง
เพียงแต่วัตถุประสงค์นั้นต่างกัน...
เตรียม เนย 20 กรัม, ไข่ 3 ฟอง, น้ำตาลบด 100 กรัม, แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม, เกลือนิดนึง, (ผสมน้ำอุ่นหนึ่งช้อนโต๊ะ กับผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ รอท่าไว้)
วิธีทำ...เอาเนยตั้งไฟอ่อนๆให้ละลาย แล้วพักไว้...ตีไข่กับน้ำตาลให้ฟูฟ่อง ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 7-10 นาที จนเป็นสายริบบิ้น...
ร่อนเเป้งกับเกลือ...เทลงไปคลุกแบบตะล่อมกับไข่และน้ำตาลในโถปั่น...ทีละครึ่ง อย่างเบามือ จนเนื้อเนียนสนิท (ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที)
ค่อยๆโรยเนยที่ละลายไว้ลงไปรอบๆขอบโถ...ปล่อยให้มันค่อยๆไหลลงไปในเนื้อแป้ง...แล้วคลุกตะล่อมอีกสองสามครั้ง..
เติมกาแฟ...คลุกอย่างเบามือให้เข้ากัน...
แล้วนำมาเทใส่ถาดแบนที่มีกระดาษรอง (ทาน้ำมันที่กระดาษนิดหน่อยก็ได้ค่ะ..) ในสูตรนี้ ใช้ถาดขนาด 9 x13 นิ้ว(หรือ 23 x33 ซม.)
ก็พอดีกับกระทงพายของดิฉันเสร็จพอดี...เอาเค้กเข้าไปอบต่อเลย...ประมาณ 20 นาทีค่ะ...
พอกระทงพายออกมาแล้ว...รอให้เย็นนิดนึง เอามีดแซะตรงกลางให้ออกมาชั้นหนึ่ง เราจะใช้เป็นแผ่นปิดน่ะค่ะ...
เตรียมจัดจาน เอาเนื้อที่ผัดมาวางตรงกลาง ปิดฝาให้ดูเป็นพิธีรีตองซะหน่อยนึง...
เสร็จแล้วค่ะ...พายเนื้อกระเทียม และ สลัดจานโตเช่นเคย...
ระหว่างทานอาหาร...ต้องขอเวลานอกแป๊บ...เอาเค้กที่อบออกมาวางไว้ให้เย็น (ซึ่งเจนัวส์นี้จะเย็นเร็วมาก เพราะเป็นแผ่นบาง...)
พอเสร็จเรื่องอาหาร...ก็หันมาจัดการกับเค้ก...โดยการตัดขอบออกให้เรียบร้อย วัดแล้วจะได้ 30 เซ็นติเมตร พอดี
เท่ากับว่า เราสามารถแบ่งให้เป็นสามแผ่น (แผ่นหน้ากว้าง 10 เซ็นต์เท่าๆกัน)
ทีนี้ก็ทำ frosting เลยค่ะ...
สูตรดังนี้...
ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมสองช้อนโต๊ะ (พักไว้)
ปั่น เนย 60 กรัม กับน้ำตาลไอซิ่ง 160 กรัม เข้าด้วยกัน พอเนื้อเนียน เติมกาแฟที่ผสมไว้...เสร็จแล้วค่ะ
ใช้ frosting ป้ายไปลงบนระหว่างแผ่นพอบางๆ...เหลือเอาไว้กลบด้านบนให้ทั่ว...
ก็จะได้เค้กแบบแท่ง...
แต่จะปล่อยให้เป็นแท่งคอนกรีตอย่างนั้นมันก็ดูไม่งามใช่ไหมคะ....จำเป็นต้องมี"เทคนิค"นิดหน่อย ตามอุปกรณ์อันน้อยนิดที่มี...
ดิฉันใช้ด้ายเส้นหนามาทำลายข้าวหลามตัดให้เป็นแนวเอาไว้บางๆก่อนค่ะ...
แล้วจัดการละลายช๊อคโกแล๊ค(กับครีมนิดหน่อย) และใช้เชือกเส้นเดียวกันนั้น ชุบในช๊อคโกแล๊คมาวางทาบแนวเดิมอีกครั้ง ให้เป็นรอยเส้น
จากนั้นก็เอา raspberry (ที่มีเหลือ) เอามาวางกลางสี่เหลี่ยม....
แล้วเอาเข้าตู้เย็น..ให้เซ๊ทตัว...จะได้เป็นของหวานของพ่อบ้านในมื้อต่อไป...
เค้กแบบนี้ต้องทานกับวานิลลาซอส (Crème Anglaise) ถึงจะครบสูตร ที่เผอิญว่าดิฉันมีไว้ติดบ้านอยู่แล้ว...
หยิบใช้ได้ทุกเมื่อ...
ซึ่งเชื่อว่า...ก้อนขนาดนี้ คงอยู่ไม่ถึงสามวัน...ที่ดิฉันต้องตะกุยพลิกฟื้นความจำหารายการใหม่มาเสนอเป็นอันดับต่อไปนี่ซิ...
แค่คิดก็เครียดแล้วนะเนี่ยยย..?!!
ปฏิทินแม่บ้านปัจฉิมวัย....ในฝรั่งเศส!! ตอนหก
ถึงเวลาต้องมาอัฟเดทกันอีกแล้ว...ขอบคุณค่ะสำหรับคุณบรรดาแฟนๆที่ติดตามไปที่เฟสด้วย ดิฉันก็พยายามทำตัวให้เป็นสารพัด ทั้งแม่บ้าน ทั้งนักกีฬา นักนิยมประวัติศาสตร์ และแม่ครัวที่ยุ่งหัวฟู...
อะไรที่โพสต์ๆเก็บไว้ในเฟส...วันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังค่ะ สำหรับน้องๆหลานๆที่ยังไม่ได้อ่าน...
ปฏิทินแม่บ้านปัจฉิมวัย....ในฝรั่งเศส!! ตอนหก
เมนูคาวหวานชนิดฉับไว...!!
ก้อ...ตามที่เล่าให้ฟังว่าภารกิจออกกำลังกายนั้น มันช่างเบียดเสียดกัน ยิ่งกว่าคิวของใบเตย อาร์สยามอีก...เพราะหล่อนยังมีเวลาคิดถึงเรื่องแต่งงานแต่งการได้
แต่ดิฉัน..แทบไม่มีเวลาได้คิดอะไรเลย เพราะทั้งหมาที่ต้องมาทำอาหารเมนูพิเศษ (ตามหมอสั่ง) และแมวที่หมู่นี้ค่อนข้างหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ กินเก่ง เหวี่ยงวีน...
เลยบอกคนข้างเคียงไปว่า...กินกันอย่างตามมีตามเกิดแล้วกันน๊ะจ๊ะ หรือ ภาษาฝรั่งเศสเขาว่า...À la bonne franquette
หมายถึง มีอะไรในตู้เย็นก็เอามาผัดๆต้มๆ พอประทังกันไปมื้อนึง
เผอิ๊ญ...เมื่อวานฝนตก และมีพายุเข้ามาตั้งแต่ค่ำของวานซืน...คุณสามีมาบอกว่า งดกอล์ฟไปวันนึงละกัน แต่...คุณอยากจะไปซื้ออะไรเพิ่มที่ตลาดไหม?
เล่นถามแบบนี้...ดิฉันเดาได้เลยว่า คงอยากทานอะไรที่พิเศษๆไปกว่าธรรมดา...เลยไปเปิดตู้เย็นดู...จึงได้เห็นว่า เค้กที่ทำไว้กำลังจะหมด เหลืออยู่ชิ้นน้อยๆเอง
จึงได้ร้องอ๋อ...
เพราะคุณคนนี้เขาชอบทานขนมค่ะ ต้องของหวานหลังอาหารทุกมื้อ ก่อนที่ดิฉันจะมารับหน้าที่นี้ เขาทำของเขาเอง ที่มีอยู่ของชนิด (ทานได้ทั้งปี)
นั่นคือ คุ๊กกี้อัลมอนด์ กับ พุดดิ้งแบบที่เปิดซองเทใส่ในน้ำแล้วเอามาใส่ถ้วยเข้าตู้เย็น...
เลยถามว่า...อยากทานเค้กแบบไหนล่ะทีนี้?
เขาตอบว่า อะไรก็ได้ (อ๋อ)...กาแฟก็ดี (อ้าว...)
เลยต้องมารื้อฟื้นวิชากันใหม่ เพราะดิฉันไม่ชอบทานของหวานตามพื้นนิสัยเดิม เมื่อก่อน สมัยที่"ติดกาแฟ" ก็ต้องมีอะไรกรอบๆขบเคี้ยวบ้าง
แต่พอเลิกกาแฟไป...ก็ไม่ได้นึกอยากทานพวกขนมนี่อีกเลย...
ของหวานอย่างเดียวที่ชอบมาก...แต่หากินยากในต่างแดน นั่นคือ พวกขนมน้ำแข็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็งไส ลอดช่อง สลิ่ม หรือแม้กระทั่ง น้ำแข็งกด (เคยเห็นกันไหมคะ?)
ไหนๆจะทำเค้กแล้วก็เลยทำควบไปกับอาหารกลางวันไปเลย...เพราะต้องใช้เตาอบให้คุ้มค่า...
ดิฉันมีเนื้อรวนเหลืออยู่...จึงเอามาผัดแบบกระเทียม พริกไทย ใส่เห็ด ใส่ซอสครีมบางๆ เติมมะเขือเทศ เติมเห็ด และ หอมหัวใหญ่หั่น
เอาแผ่นแป้งออกมารีด ให้เป็นสี่เหลี่ยม จัดวางซ้อนริมขอบให้หนา เพราะต้องการให้เป็นกระทง เอาเข้าเตาอบด้วยไฟ 180 องศา
ประมาณ 20 นาที
ในช่วงยี่สิบนาทีนี้ ก็จัดสลัด และเตรียมเครื่องทำเค้กแบบง่ายๆ ฉบับทันใจ
นั่นคือ การทำ genoise (เจนัวส์) อันเป็นพื้นฐานของการทำเนื้อเค้กที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะสะดวก ถ้าจะว่าไป มันก็เหมือนกับการทำแยมโรลต่างๆนั่นเอง
เพียงแต่วัตถุประสงค์นั้นต่างกัน...
เตรียม เนย 20 กรัม, ไข่ 3 ฟอง, น้ำตาลบด 100 กรัม, แป้งอเนกประสงค์ 100 กรัม, เกลือนิดนึง, (ผสมน้ำอุ่นหนึ่งช้อนโต๊ะ กับผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ รอท่าไว้)
วิธีทำ...เอาเนยตั้งไฟอ่อนๆให้ละลาย แล้วพักไว้...ตีไข่กับน้ำตาลให้ฟูฟ่อง ใช้เวลาตรงนี้ประมาณ 7-10 นาที จนเป็นสายริบบิ้น...
ร่อนเเป้งกับเกลือ...เทลงไปคลุกแบบตะล่อมกับไข่และน้ำตาลในโถปั่น...ทีละครึ่ง อย่างเบามือ จนเนื้อเนียนสนิท (ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที)
ค่อยๆโรยเนยที่ละลายไว้ลงไปรอบๆขอบโถ...ปล่อยให้มันค่อยๆไหลลงไปในเนื้อแป้ง...แล้วคลุกตะล่อมอีกสองสามครั้ง..
เติมกาแฟ...คลุกอย่างเบามือให้เข้ากัน...
แล้วนำมาเทใส่ถาดแบนที่มีกระดาษรอง (ทาน้ำมันที่กระดาษนิดหน่อยก็ได้ค่ะ..) ในสูตรนี้ ใช้ถาดขนาด 9 x13 นิ้ว(หรือ 23 x33 ซม.)
ก็พอดีกับกระทงพายของดิฉันเสร็จพอดี...เอาเค้กเข้าไปอบต่อเลย...ประมาณ 20 นาทีค่ะ...
พอกระทงพายออกมาแล้ว...รอให้เย็นนิดนึง เอามีดแซะตรงกลางให้ออกมาชั้นหนึ่ง เราจะใช้เป็นแผ่นปิดน่ะค่ะ...
เตรียมจัดจาน เอาเนื้อที่ผัดมาวางตรงกลาง ปิดฝาให้ดูเป็นพิธีรีตองซะหน่อยนึง...
เสร็จแล้วค่ะ...พายเนื้อกระเทียม และ สลัดจานโตเช่นเคย...
ระหว่างทานอาหาร...ต้องขอเวลานอกแป๊บ...เอาเค้กที่อบออกมาวางไว้ให้เย็น (ซึ่งเจนัวส์นี้จะเย็นเร็วมาก เพราะเป็นแผ่นบาง...)
พอเสร็จเรื่องอาหาร...ก็หันมาจัดการกับเค้ก...โดยการตัดขอบออกให้เรียบร้อย วัดแล้วจะได้ 30 เซ็นติเมตร พอดี
เท่ากับว่า เราสามารถแบ่งให้เป็นสามแผ่น (แผ่นหน้ากว้าง 10 เซ็นต์เท่าๆกัน)
ทีนี้ก็ทำ frosting เลยค่ะ...
สูตรดังนี้...
ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมสองช้อนโต๊ะ (พักไว้)
ปั่น เนย 60 กรัม กับน้ำตาลไอซิ่ง 160 กรัม เข้าด้วยกัน พอเนื้อเนียน เติมกาแฟที่ผสมไว้...เสร็จแล้วค่ะ
ใช้ frosting ป้ายไปลงบนระหว่างแผ่นพอบางๆ...เหลือเอาไว้กลบด้านบนให้ทั่ว...
ก็จะได้เค้กแบบแท่ง...
แต่จะปล่อยให้เป็นแท่งคอนกรีตอย่างนั้นมันก็ดูไม่งามใช่ไหมคะ....จำเป็นต้องมี"เทคนิค"นิดหน่อย ตามอุปกรณ์อันน้อยนิดที่มี...
ดิฉันใช้ด้ายเส้นหนามาทำลายข้าวหลามตัดให้เป็นแนวเอาไว้บางๆก่อนค่ะ...
แล้วจัดการละลายช๊อคโกแล๊ค(กับครีมนิดหน่อย) และใช้เชือกเส้นเดียวกันนั้น ชุบในช๊อคโกแล๊คมาวางทาบแนวเดิมอีกครั้ง ให้เป็นรอยเส้น
จากนั้นก็เอา raspberry (ที่มีเหลือ) เอามาวางกลางสี่เหลี่ยม....
แล้วเอาเข้าตู้เย็น..ให้เซ๊ทตัว...จะได้เป็นของหวานของพ่อบ้านในมื้อต่อไป...
เค้กแบบนี้ต้องทานกับวานิลลาซอส (Crème Anglaise) ถึงจะครบสูตร ที่เผอิญว่าดิฉันมีไว้ติดบ้านอยู่แล้ว...
หยิบใช้ได้ทุกเมื่อ...
ซึ่งเชื่อว่า...ก้อนขนาดนี้ คงอยู่ไม่ถึงสามวัน...ที่ดิฉันต้องตะกุยพลิกฟื้นความจำหารายการใหม่มาเสนอเป็นอันดับต่อไปนี่ซิ...
แค่คิดก็เครียดแล้วนะเนี่ยยย..?!!