เรากล่าวความกำหนัดแห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์

[๕๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้ เป็นเหตุให้เกิดกรรม ๓ อย่างเป็นไฉน


คือ ความพอใจย่อมเกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ๑
ความพอใจย่อมเกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ๑
ความพอใจย่อมเกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ๑


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีตอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ตรึกตรองตามด้วยใจ
เมื่อเขาปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ตรึกตรองตามอยู่ด้วยใจ
ย่อมเกิดความพอใจ  ผู้ที่เกิดความพอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เรากล่าวความกำหนัดแห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีตอย่างนี้แล


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคตอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลปรารภธรรมอันที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ตรึกตรองตามด้วยใจ
เมื่อเขาปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ตรึกตรองตามอยู่ด้วยใจ
ย่อมเกิดความพอใจ ผู้ที่เกิดความพอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความกำหนัดแห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคตอย่างนี้แล


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบันอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ตรึกตรองตามด้วยใจ
เมื่อเขาปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ตรึกตรองตามอยู่ด้วยใจ
ย่อมเกิดความพอใจ ผู้ที่เกิดความพอใจแล้ว ย่อมประกอบด้วยธรรมเหล่านั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวความกำหนัดแห่งใจนั้นว่าเป็นสังโยชน์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมเกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบันอย่างนี้แล

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้แล เป็นเหตุให้เกิดกรรม

------------------------

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้เป็นเหตุให้เกิดกรรม ๓ อย่างเป็นไฉน

คือ ความพอใจย่อมไม่เกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต ๑
ความพอใจย่อมไม่เกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคต ๑
ความพอใจย่อมไม่เกิด  เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน ๑


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีตอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไปของธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีต
ครั้นแล้ว ละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้วฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอดีตอย่างนี้แล


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคตอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไปของธรรมอันเป็นที่ตั้งฉันทราคะในอนาคต
ครั้นแล้ว ละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้วฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความพอใจย่อมไม่เกิด เพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในอนาคตอย่างนี้แล


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
[url]ก็ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบันอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลรู้ชัดซึ่งวิบากต่อไปของธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน
ครั้นแล้ว ละเว้นวิบากนั้นเสีย ครั้นแล้วฟอกด้วยใจ เห็นตลอดด้วยปัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ความพอใจย่อมไม่เกิดเพราะปรารภธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งฉันทราคะในปัจจุบัน อย่างนี้แล


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ธรรมชาติ ๓ อย่างนี้แล เป็นเหตุให้เกิดกรรม ฯ

------------------------------

นิทานสูตรที่ ๒
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐  บรรทัดที่ ๖๙๒๗ - ๖๙๗๘.  หน้าที่  ๒๙๖ - ๒๙๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=20&A=6927&Z=6978&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=552
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่