ตอนนี้มีปัญหาครับคือแต่เดิมพ่อต้องการรถแต่ให้แม่ซื้อให้โดยใช้ชื่อแม่เป็นเจ้าของรถ ต่อมาพ่อกับแม่หย่ากัน แม่ไม่ผ่อนตอและคืนรถ(ไม่แน่ใจว่าคืนหรือโดนยึดครับเรื่องนานมากแล้ว)ให้บริษัทธนชาติไป
ในปีพ.ศ.2552 และไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคารอีกเลย จนวันนี้มีคนจากบริษัททวงหนี้โทรมาขู่ว่าให้จ่ายเงินค่าส่วนต่างถ้าจ่ายเองจะลดให้เหลือ 140000 บาท แต่ถ้าเค้าฟ้องศาลจะฟ้องร้องเป็นจำนวนเงิน 200000บาท ผมและแม่งงมากเพราะไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากธนาคารเลยอยู่ดีๆ มีใครไม่รู้โทรมาโดยอ้างว่ามาจากบริษัททวงหนี้ และ ถ้าไม่จ่ายเค้าจะใช้ศาลเตี้ยหรือศาลมืดมาเล่นงานคนในครอบครัว ผมจึงมีเรื่องถามดังต่อไปนี้ครับ
1. การที่ธนาคารไม่เคยติดต่อใดๆ มาเลย แล้วมาทวงแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ครับ ไม่ว่าตอนประมูลรถหรือขายทอดตลาด หรือตอนไหนๆ ก็ไม่ได้เคยได้รับการติดต่อจากธนาคารเลยทั้งทางแม่ผม และ ผู้คำประกัน
2.ผม และ แม่ตั้งใจจะจบเรื่องรถนี้โดยตั้งใจว่าจะไปคุยกับธนาคารเองโดยตรง โดยขอดูค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ดุราคารถที่ขายทอดตลาดว่าได้จำนวนเท่าไหร่ ค่าเสียหาย อีกทั้งดอกเบี้ย ทั้งที่ไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากธนาคารได้หรือไม่ และ ในกรณีที่ธนาคารเรื่องค่าเสียหายมากเกินความเป็ยจริง การตกลงกันระหว่างแม่ผมกับธนาคาร หรือการรอให้เริ่องขึ้นสู่ชั้นศาลก่อน แล้วให้ศาลไกล่เกลี่ยให้อย่างไหนดีกว่ากันครับ
3 .ในกรณีที่ศาลไกล่เกลี่ยให้แล้วได้ค่าส่วนต่างและค่าเสียหายอื่นๆ ตามที่ศาลพิจารณาให้ กับ ค่าส่วนต่างที่ธนาคารคิดให้เองต่างกันมากน้อยหรือไม่ครับ ในกรณีที่รวมค่าทนายหรือค่าดำเนินการต่างๆ แล้ว
4. ในกรณีที่บริษัททวงหนี้ข่มขู่ผมจะจัดการในทางกฎหมายได้อย่างไรบ้างครับ
ผมกับแม่กะว่าถ้าไปติดต่อแล้วธนาคารเรียกค่าส่วนต่างกับค่าเสียหายใดมากเกินไป จะรอให้ถึงชั้นศาลให้ศาลตัดสินให้แล้วจ่ายเงินไปให้หมดในครั้งเดียว
ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยนะครับตอนนี้ทั้งงง ทั้งมึนกันไปทั้งบ้านแล้ว คือเรื่องผ่านมานานมากแล้วแต่อยู่บริษัททวงนี้โทรมาแนวข่มขู่ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ช่วยตอบครับ
ร้อนใจมาก ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์ทวงหนี้ค่าส่วนต่างของรถที่โดนยึดไปครับ
ในปีพ.ศ.2552 และไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคารอีกเลย จนวันนี้มีคนจากบริษัททวงหนี้โทรมาขู่ว่าให้จ่ายเงินค่าส่วนต่างถ้าจ่ายเองจะลดให้เหลือ 140000 บาท แต่ถ้าเค้าฟ้องศาลจะฟ้องร้องเป็นจำนวนเงิน 200000บาท ผมและแม่งงมากเพราะไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากธนาคารเลยอยู่ดีๆ มีใครไม่รู้โทรมาโดยอ้างว่ามาจากบริษัททวงหนี้ และ ถ้าไม่จ่ายเค้าจะใช้ศาลเตี้ยหรือศาลมืดมาเล่นงานคนในครอบครัว ผมจึงมีเรื่องถามดังต่อไปนี้ครับ
1. การที่ธนาคารไม่เคยติดต่อใดๆ มาเลย แล้วมาทวงแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ครับ ไม่ว่าตอนประมูลรถหรือขายทอดตลาด หรือตอนไหนๆ ก็ไม่ได้เคยได้รับการติดต่อจากธนาคารเลยทั้งทางแม่ผม และ ผู้คำประกัน
2.ผม และ แม่ตั้งใจจะจบเรื่องรถนี้โดยตั้งใจว่าจะไปคุยกับธนาคารเองโดยตรง โดยขอดูค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ดุราคารถที่ขายทอดตลาดว่าได้จำนวนเท่าไหร่ ค่าเสียหาย อีกทั้งดอกเบี้ย ทั้งที่ไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากธนาคารได้หรือไม่ และ ในกรณีที่ธนาคารเรื่องค่าเสียหายมากเกินความเป็ยจริง การตกลงกันระหว่างแม่ผมกับธนาคาร หรือการรอให้เริ่องขึ้นสู่ชั้นศาลก่อน แล้วให้ศาลไกล่เกลี่ยให้อย่างไหนดีกว่ากันครับ
3 .ในกรณีที่ศาลไกล่เกลี่ยให้แล้วได้ค่าส่วนต่างและค่าเสียหายอื่นๆ ตามที่ศาลพิจารณาให้ กับ ค่าส่วนต่างที่ธนาคารคิดให้เองต่างกันมากน้อยหรือไม่ครับ ในกรณีที่รวมค่าทนายหรือค่าดำเนินการต่างๆ แล้ว
4. ในกรณีที่บริษัททวงหนี้ข่มขู่ผมจะจัดการในทางกฎหมายได้อย่างไรบ้างครับ
ผมกับแม่กะว่าถ้าไปติดต่อแล้วธนาคารเรียกค่าส่วนต่างกับค่าเสียหายใดมากเกินไป จะรอให้ถึงชั้นศาลให้ศาลตัดสินให้แล้วจ่ายเงินไปให้หมดในครั้งเดียว
ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยนะครับตอนนี้ทั้งงง ทั้งมึนกันไปทั้งบ้านแล้ว คือเรื่องผ่านมานานมากแล้วแต่อยู่บริษัททวงนี้โทรมาแนวข่มขู่ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ช่วยตอบครับ