คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ด้วยความเคารพ จขกท. ผมอ่านการวิเคราะห์เจ้าของกระทู้ทุกข้อ ไม่ต้องการ discredit นะครับ
1.การบินไทยเอาตรรกะ อะไรมาเปลี่ยนที่คิดว่าจะกำไรได้ถึง 5000 ล้านครับ ตอนนี้ตลาด red ocean กันสุดๆตัดราคากันอย่างรุนแรง น้ำมันก็แสนแพง การบริหารก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงถ้ากำไรได้เหมือนเดิมผมว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
2.ฺBTS กำไร 20,000 ล้านบาทมาจากไหนครับ ถ้าเอาฐานกำไรปีที่แล้วมาแล้วคิด growth ผมว่าผิดอย่างแรงเลยนะครับ ลองไปดูงบนะครับมีกำไรพิเศษ
3.PAF บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ถือมาจะสองปีแล้วครับก็ยังเน่าอยู่ที่ยังอยู่ได้ที่อยู่ได้เพราะขายสินทรัพย์กินไปเรื่อยๆส่วนทุนลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้ธุรกิจเดิมไม่ต้องพูดถึงลองหาข้อมูลดูครับว่าเป็นยังไง
4.IEC ตัวนี้ไม่ต้องบรรยายอะไรมากตามศรัทธาครับ
5.KGI แล้ว KGI มีอะไรที่เด่นกว่าหลักทรัพย์อื่นครับ market share kgi เท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกับ MBKETหละครับ ที่ครอง market share อันดับ 1 แต่อันนี้ก็แล้วแต่ชอบครับ
ถ้าจะวิเคราะห์ บริษัทผมแนะนำนะครับ หาจุดเด่น หาภาวะตลาดมานั่งดูดีกว่า จะใช้ five force , Sword เอาไรก็ได้ เจ้าของกระทู้อาจมีเจตนาดีที่จะแชร์ แต่ผมคิดว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลมโนเอาล้วนๆเลย ขออภัยด้วยครับ
1.การบินไทยเอาตรรกะ อะไรมาเปลี่ยนที่คิดว่าจะกำไรได้ถึง 5000 ล้านครับ ตอนนี้ตลาด red ocean กันสุดๆตัดราคากันอย่างรุนแรง น้ำมันก็แสนแพง การบริหารก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงถ้ากำไรได้เหมือนเดิมผมว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
2.ฺBTS กำไร 20,000 ล้านบาทมาจากไหนครับ ถ้าเอาฐานกำไรปีที่แล้วมาแล้วคิด growth ผมว่าผิดอย่างแรงเลยนะครับ ลองไปดูงบนะครับมีกำไรพิเศษ
3.PAF บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ถือมาจะสองปีแล้วครับก็ยังเน่าอยู่ที่ยังอยู่ได้ที่อยู่ได้เพราะขายสินทรัพย์กินไปเรื่อยๆส่วนทุนลดลงเรื่อยๆ ตอนนี้ธุรกิจเดิมไม่ต้องพูดถึงลองหาข้อมูลดูครับว่าเป็นยังไง
4.IEC ตัวนี้ไม่ต้องบรรยายอะไรมากตามศรัทธาครับ
5.KGI แล้ว KGI มีอะไรที่เด่นกว่าหลักทรัพย์อื่นครับ market share kgi เท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกับ MBKETหละครับ ที่ครอง market share อันดับ 1 แต่อันนี้ก็แล้วแต่ชอบครับ
ถ้าจะวิเคราะห์ บริษัทผมแนะนำนะครับ หาจุดเด่น หาภาวะตลาดมานั่งดูดีกว่า จะใช้ five force , Sword เอาไรก็ได้ เจ้าของกระทู้อาจมีเจตนาดีที่จะแชร์ แต่ผมคิดว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลมโนเอาล้วนๆเลย ขออภัยด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
วิเคราะห์หุ้นในพอร์ตให้อ่าน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังหาซื้อหุ้น
ผมก็เลยลองเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา แล้ววิเคราะห์ให้ฟังเกี่ยวกับหุ้นที่เหลือในพอร์ตของผมให้ฟังนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะครับ
ออกตัวว่า ไม่ได้ต้องการให้ใครมาซื้อตามหรือเชียร์หุ้นนะครับ เพียงแต่เสนอทางเลือกและการวิเคราะห์ให้คนที่กำลังหาซื้อหุ้นอยู่
ได้นำไปพิจารณาครับ
ปล. ถ้าซื้อตามผมต้องถือยาวอย่างน้อย 1 ปีนะครับกำไรถึงจะงาม ( ผมแบ่งเงินเดือนซื้อเก็บ ทุกๆเดือนด้วยครับ )
1). Thai : ด้วยจำนวนหุ้นจดทะเบียนราว 2,182,771,917 หุ้น ทำให้ราคาตอนนี้ถือว่าค่อนข้างถูก
พอสมควร หากว่าวันนึงพลิกลับมากำไรได้ ในอดีต THAI เคยทำกำไรได้ถึงราวๆ 15,000 ล้านบาท และเมื่อ
2 ปีที่แล้ว THAI ก็มีกำไรราวๆ 5,000 ล้านทั้งๆที่ในยุคที่ผ่านๆมานั้นมีแต่ปัญหาการเมือง แต่ปัจจุบันนี้เมื่อ คสช
เข้ามาปฎิรูปประเทศ ทำให้การเมืองค่อนข้างนิ่งซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ปีหน้า THAI มีโอกาสจะพลิกกำไรได้
อีกทั้งปลายปีหน้ายังมี AEC อีก ถึงแม้จะดูเหมือนมีคู่แข่งเยอะ แต่เชื่อว่าใน 1-2 ปีแรกของ AEC นั้น
THAI ยังคงได้เปรียบคู่แข่งและเชื่อว่ารัฐบาลก็ยังคงอุ้มและช่วยเหลือการบินไทย อีกทั้งคนใหญ่คนโตก็ถือ
หุ้นตัวนี้เยอะ เชื่อว่าราคาไม่น่ากลับลงไป 6 บาทอีกแล้ว เต็มที่อาจมี 10-11 บาท หากเกิดความรุนแรงในประเทศ
ช่วงครึ่งปีหลังนี้
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายยังเชื่อว่า THAI จะพลิกกลับมากำไรได้ในปีหน้า หากกำไรแค่ 5,000 ล้านเหมือน 2 ปีก่อน
ณ.ราคาปัจจุบันนี้ที่ 14.3 บาท P/E จะต่ำแค่ 6 กว่าๆ แต่เมื่อมองระยะยาวแล้วคิดว่ากำไร 20,000 ล้านยังทำได้
สบายๆ หากกำไร 20,000 ล้านจริง P/E ณ.ราคา 14.3 จะต่ำแค่ 1.5 เท่านั้น ซึ่งมันคงไม่ยากที่ราคาจะกลับไป
IPO 60 บาท และมีโอกาสเกิน 100 บาทได้ เพราะ P/E ที่ราคา 100 ก็จะแค่ 10.9 เอง
ส่วนตัวผมมองว่าถ้ามีเงินเย็นถือการบินไทยไปสัก 2-3 ปี มีโอกาสได้ มากกว่า 5 เด้งครับ หุ้น KBANK ยังเคยทำมาแล้ว
60 ไป 200 แล้วทำไม THAI จะทำไม่ได้ละ
2). BTS : ด้วยจำนวนหุ้นมหาศาลถึง 11,914,230,525 หุ้น อาจจะดูว่าราคาคงจะขึ้นยาก แต่หากปีนี้ BTS
สามารถทำกำไรได้ถึง 20,000 ล้านขึ้นไปต่อปี P/E ณ.ราคาปัจจุบันที่ 8.55 บาท จะแค่ 5 กว่าๆเท่านั้นซึ่ง ถ้าราคา
จะขึ้นไปเป็น 17 บาทมันก็คงไม่น่าเกลียดเพราะ P/E แค่ 10
แต่อยากให้ดูโครงการในอนาคตของประเทศไทยว่ายังไงรถไฟฟ้าระหว่างๆจังหวัดยังไงก็ต้องเกิด ซึ่งดูแล้วก็มีเพียง
BTS ที่ดูดีที่สุดที่จะได้สัมปทาน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง กำไรต่อปีราวๆ 50,000 ล้านยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ
ราคาตอนนั้นคงไม่ต่ำกว่า 50 จากการคำนวณ ณ.กำไร 50,000 ล้านเทียบกับจำนวนหุ้นจดทะเบียน และ P/E จะแค่ 11.9 เท่านั้น
แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน แต่เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี หากใครมีเงินเย็น หรืออยากออมเงินเดือน BTS ถือเป็นอีกทางเลือกนึงครับ
3). PAF : ถือเป็นหุ้นเน่าๆ ที่ใครๆก็มองข้าม แต่อยากจะบอกว่าบริษัทไม่น่าจะมีงบขาดทุนอีกแล้วตั้งแต่ 2 ยักษ์ใหญ่
เข้าถือหุ้น ( บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ) ซึ่งเชื่อว่า
ด้วยความเป็นมืออาชีพ และเก๋าประสบการณ์ของ 2 บริษัทนี้จะสามารถนำ PAF ล้างขาดทุนสะสมได้ในอนาคตอันใกล้
ดูจากงบที่ผ่านมาตั้งแต่ปีก่อนหลังจาก 2 จ้าวนี้มาถือหุ้นใหญ่ PAF ก็กำไรมาตลอด ปัจจุบันนี้ Q1 กำไรราวๆ 16 ล้านบาท
หากทำได้ราวๆนี้ทั้ง 4 Q งบปี 2014 ควรจะกำไรราวๆ 60 ล้านซึ่งนั่นก็หมายความว่า P/E จะแค่ 9 ที่ราคาปัจจุบัน 1 บาท
ด้วนจำนวนหุ้นจดทะเบียน 540,000,000 หุ้น แต่ด้วยความที่เป็นหุ้นเล็ก หากเจ้มือจะลากไป 3 บาท ก็ไม่น่าเกลียดเพราะ
P/E ก็จะแค่ 27 แต่ไม่อยากให้ดูตรงนั้น ผมอยากให้ดูตรงความสามารถในการทำกำไรในอนาคตมากกว่า ส่วนตัวเชื่อว่า
ภายใน 3 ปี PAF น่าจะล้างขาดทุนได้ และราคา 1 บาทไม่น่ามีให้เห็นอีกแล้ว
แต่ข้อควรระวังคือ หุ้นพวกนี้มักจะส่งงบไม่ตรงเวลาจนโดน sp หากวันสุดท้ายที่บังคับประกาศงบ แล้วภายใน 4.30 น.
งบยังไม่ออก ก็ขาย ATC ไปก่อน ลดความเสี่ยง
4). IEC : เป็นหุ้นราคาถูกที่จำนวนหุ้นจดทะเบียนมหาศาล แต่ด้วยความชัดเจนในการทำธุรกิจพลังงาน เชื่อว่า IEC
ไม่น่าจะพบกับงบขาดทุนอีกแล้ว ต่อไปจะมีแต่กำไร แต่เท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับฝีมือ ผบห
ในทางหุ้นก็คงวิเคราะห์ได้ว่าราคา 0.02-0.03 ต่ำมากแล้ว เหมาะแก่การเก็บ แล้วรอวันที่มีราคาขยับขึ้นไป ซึ้งหากกำไรต่อเนื่อง
แบบนี้ เชื่อว่าสิ้นปีนี้คงได้เห็นอย่างน้อย 0.04-0.05 แต่จะลุ้นให้ไป 1 บาทคงเป็นไปได้ยาก เป้าอาจมองที่ 0.09-0.10 ก็หรูแล้ว
5). KGI : หุ้นโบรกเกอร์ที่มีอัตราการปันผลค่อนข้างสูง ล่าสุดก็พึ่งปันผลไปกว่า 11% จากการวิเคราะห์เชื่อว่าใน
อนาคตธุรกิจโบรกเกอร์ซึ่งเป็นตัวหลักของ KGI จะโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนเริ่มอยากรวยทางลัดกันมากขึ้น คนเริ่มหันมา
เล่นหุ้นและฟิวเจอร์กันมากขึ้น เพราะความสนุกเริ่มเหมือนเข้าบ่อนไปทุกทีๆ แล้ว
ที่นี้หากวิเคราะห์ว่าธุรกิจโบรกเกอร์จะโต หุ้นโบรกเกอร์ที่น่าออมเงินไว้ที่สุดก็คงเป็น KGI เพราะปันผลดีที่สุด ราคาก็มีโอกาส
โดนลากขึ้นไปได้สูงสุดจากอัตราการปันผล