จากเหตุการณ์ไฟไหม้อพาร์ทเม้นท์ในซอยรัชดาภิเษก 7 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 03.00 น. ของคืนวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายจิรายุ เวชจันทร์ วัย 26 ปี เจ้าของห้องต้นเพลิง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายรังสรรค์ ปัญญาสืบ วัย 22 ปี เพื่อนผู้ตาย ถูกไฟคลอก 80 เปอร์เซ็นต์ นางสาวศิวัชญา เสียงสง่า วัย 19 ปี แฟนของนายรังสรรค์ ถูกไฟคลอก 50 เปอร์เซ็นต์ และนางสาวนุสรา นัยเนคร วัย 28 ปี เพื่อนข้างห้อง หมดสติเนื่องจากสำลักควัน โดยล่าสุดมีรายงานว่า นางสาวนุสรานั้นเสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน 2557)
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์ไฟไหม้เนื่องจากอุบัติเหตุ แต่เป็นการฆ่าเผาอำพรางคดี เนื่องจากศพของผู้ตายมีบาดแผลถูกแทงนับสิบแผล โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งประเด็นขัดแย้งเรื่องกู้ยืมเงิน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหลักฐานสำคัญ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ย่านเทียนร่วมมิตร โดยกล้องได้จับภาพนายรังสรรค์ กับ นางสาวศิวัชญาไว้ได้ ในขณะที่ขับรถจักรยานยนต์สีเหลืองไปซื้อน้ำมันภายในปั๊มดังกล่าว ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็พบรถจักรยานยนต์ดังกล่าวแล้ว จอดอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยรัชดาภิเษก 10 ซึ่งจากภาพและการสอบปากคำพยานนั้น มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ว่า นายรังสรรค์ กับ นางสาวศิวัชญา เป็นผู้ลงมือ โดยในเบื้องต้นได้อายัดตัวทั้งคู่ไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ยังไม่แจ้งข้อหา เนื่องจากต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน พร้อมกับรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝง หากหลักฐานชี้ชัดก็จะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบัง ซ่อนเร้น อำพรางศพต่อไป
ขณะที่ แม่ของนายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ลูกชายเดินทางมาหาที่บ้านพักย่านอินทามาระ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม และออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ส่วนแฟนสาวของลูกตนนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าทำงานอะไร ขณะที่นายจิรายุ ผู้ตาย ตนก็ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เชื่อว่าลูกจะเป็นคนลงมือสังหารนายจิรายุ เพราะหากสังหารจริงคงไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้
ส่วนทางด้าน พยานรายอื่น ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายรังสรรค์และนางสาวศิวัชญา ได้มารอผู้ตายด้านล่างหอพักตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2557 โดยที่ทั้งคู่ได้มาขอยืมเงินนายจิรายุประมาณ 20,000 บาท ต่อมาเมื่อนายจิรายุเดินลงมาจากห้องพัก ก็ยืนทะเลาะกันเสียงดัง ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินขึ้นไปข้างบน และมีปากเสียงกันอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ในที่สุด
ล่าสุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ออกหมายจับ นายรังสรรค์ ปัญญาสืบ และนางสาวศิวัชญา เสียงสง่า ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุแล้ว เบื้ัองต้นจะควบคุมตัวไปพักรักษาที่ รพ.ตำรวจ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปิดฉากฆาตกรรมอำพราง ฆ่าแล้วเผา รัชดา ซ.7
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์ไฟไหม้เนื่องจากอุบัติเหตุ แต่เป็นการฆ่าเผาอำพรางคดี เนื่องจากศพของผู้ตายมีบาดแผลถูกแทงนับสิบแผล โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มุ่งประเด็นขัดแย้งเรื่องกู้ยืมเงิน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหลักฐานสำคัญ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ย่านเทียนร่วมมิตร โดยกล้องได้จับภาพนายรังสรรค์ กับ นางสาวศิวัชญาไว้ได้ ในขณะที่ขับรถจักรยานยนต์สีเหลืองไปซื้อน้ำมันภายในปั๊มดังกล่าว ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ก็พบรถจักรยานยนต์ดังกล่าวแล้ว จอดอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยรัชดาภิเษก 10 ซึ่งจากภาพและการสอบปากคำพยานนั้น มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ว่า นายรังสรรค์ กับ นางสาวศิวัชญา เป็นผู้ลงมือ โดยในเบื้องต้นได้อายัดตัวทั้งคู่ไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ยังไม่แจ้งข้อหา เนื่องจากต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นก่อน พร้อมกับรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝง หากหลักฐานชี้ชัดก็จะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบัง ซ่อนเร้น อำพรางศพต่อไป
ขณะที่ แม่ของนายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ลูกชายเดินทางมาหาที่บ้านพักย่านอินทามาระ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม และออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ส่วนแฟนสาวของลูกตนนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าทำงานอะไร ขณะที่นายจิรายุ ผู้ตาย ตนก็ไม่เคยเห็นหน้า และไม่เชื่อว่าลูกจะเป็นคนลงมือสังหารนายจิรายุ เพราะหากสังหารจริงคงไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บขนาดนี้
ส่วนทางด้าน พยานรายอื่น ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายรังสรรค์และนางสาวศิวัชญา ได้มารอผู้ตายด้านล่างหอพักตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2557 โดยที่ทั้งคู่ได้มาขอยืมเงินนายจิรายุประมาณ 20,000 บาท ต่อมาเมื่อนายจิรายุเดินลงมาจากห้องพัก ก็ยืนทะเลาะกันเสียงดัง ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินขึ้นไปข้างบน และมีปากเสียงกันอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ในที่สุด
ล่าสุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ออกหมายจับ นายรังสรรค์ ปัญญาสืบ และนางสาวศิวัชญา เสียงสง่า ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุแล้ว เบื้ัองต้นจะควบคุมตัวไปพักรักษาที่ รพ.ตำรวจ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป