ฟินคนเดียว มโนคนเดียว....แล้วก็เจ็บอยู่คนเดียว [เด็กพายัยป้าอย่างเรามโนไปเอง มุมิ]

เรามีเรื่องจะเล่า มันเจ็บที่ในใจ 5555
     คือเรื่องมีอยู่ว่า เราก็มาทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน และเช้าวันนั้นเราก็มีอบรมพนักงานใหม่ คือต้องบอกก่อนว่า เราทำงานเป็น site en อืมม....
เราก็นั่งอบรมให้กับพนักงงานใหม่ร่วมกับพี่ safety เรากับพี่ safety ค่อนข้างที่จะสนิทกันเพราะต้องประสานงานกัน  ต้องทำงานร่วมกัน แล้วก็มีพี่ สวล.ด้วย
ค่ะ หลังที่อบรมพนักงงานเสร็จ เราก็ให้พนักงานไปทำงานตามปกติ ส่วนเรา 3 คน ก็นั่งคุยกันต่อตามปกติ บทสนทนาเท่าที่จำได้ ประมาณนี้....
พี่ สวล. : เอ้อ safety ได้ข่าวว่าพาน้องมาทำงานหรอ?? ตำแหน่ง safetyป่ะ??
พี่ safety ใหญ่ : ใช่ครับ กำลังสัมภาษณ์ กับเจ้านายอยู่ครับ
พี่ สวล. : อ่อ แล้วใช่คนนี้ป่ะที่เคยมาทำแล้ว
พี่ safety ใหญ่ : ใช่ครับ
เรา ก็นั่งฟังบทสนทนาไป เพราะพึ่งมาทำงานได้ไม่กี่เดือน ระหว่างนั้น มีคนมาเคาะประตู ก๊อกๆๆๆ ประตูเปิดออก คุณพระ!!! อุทานณ์ใจ ทำไมหน้าตาดีจัง
สเปคเลย สูง ขาว หน้าใสกิ๊ง เด็กคนนี้ 555+  แล้วพี่ safety ก็แนะนำให้รู้จัก น้องก็ยกมือไหว้ เราก็มองที่น้องแล้วพูดสวัสดีค่ะ พยักหน้าให้ แล้วพูดขึ้นว่า
เฮ้ย!!!! พี่น้องกันจริงๆป่ะเนี่ย ทำไมหน้าตาไม่เหมือนกันเลย น้องทำไมหน้าตาดีจัง (น้องมันคงคิด อิป้าคนนี้อัลไลอ่ะ 555) ทุกคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
แล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอ่อจริงว่ะ!!! จากนั้นพี่ safety ก็พาน้องกลับไป
วันต่อมาจ้าาา น้องมาเริ่มงาน เราก็เฉยๆ ยังไม่อะไร แค่เออ น้องน่ารักน่ะ  ก็มีแซวเล่นบ้าง อย่างเช่น น้องค่ะ ถ้าตรงนั้น ไม่มีที่นั่งมานั่งข้างพี่ก็ได้น่ะ ฮิ้ววว
เสียงแซวจากโต๊ะข้างๆดังขึ้น 555
และแล้วเรามาตกหลุมชอบน้องเค้าจริงๆตอนไหนก็ไม่รู้ รู้อีกทีก็ตอนที่ PE มาแซวว่าหยุดมองน้องเค้าบ้างก็ได้น่ะ
เท่านั้นแหละค่ะ ความแตก ทุกคนในออฟฟิต รู้หมดจ้า ร่วมทั้งพี่ชายน้องเค้าด้วย (ตายแระกู พลาดได้ไงว่ะ 555)
จากนั้นมาเราก็โดนแซวกะน้องมาเรื่อยๆ น้องเค้าก็เขิน เราเองก็เขิน แต่ไม่เท่าน้องเค้ามั้ง น้องเค้าหน้าแดง หูแดง วู๊ยยยเด็กน้อย
ทุกคนในออฟฟิตพยายามที่จะจับคู่ให้เรา แต่ด้วยความที่เด็กๆเหมือนกัน(เราว่าเรายังเด็กน่ะ 555) มันเขินน
น้องเค้าก็รู้แระว่าเราชอบ แต่เราไม่รู้ว่าน้องเค้าชอบเรารึป่าว อิอิ
ทุกครั้งที่น้องจะเดินเข้า - ออก ออฟฟิต น้องเค้ามองมาที่เราตลอดเลย (พี่นั่งโต๊ะหน้าบอกมา อิอิ) เราก็แอบเหล่ๆ น้องเค้าเหมือนกัน ฟรุ๊งฟริ๊ง เขินน
แล้วมีอยู่วันนึง เราต้องอยู่เวรตรวจความเรียบร้อยของอาคารก่อสร้าง ซึ่งต้องมี 3 ฝ่ายเดินตรวจร่วมกัน คือ en , safety และช่างไฟ(เสร็จตรูแน่ Safety น้อย 5555)  ที่ไหนได้ ได้เดินกะ safety ปากหมา (อร๊ายยย ม้ายยยยแอบค้านในใจ จะเอาsafety น้อย) วันแรกจ้า เดินตรวจยังไม่ทันจะได้ครึ่งตึก ด้วยความปากหมาของ safety ที่ว่า ทำให้เราต้องมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เพราะมันเมาด้วย เราก็เลยปล่อยให้ช่างไฟเดินตรวจกับsafety ปากหมา 2 คน
(แอบรู้สึกผิดที่ทิ้งหน้าที่ T^T) เช้าวันต่อมาเราเล่าให้ safety อาวุโสฟัง  แล้วขอให้เค้ามาเดินตรวจเวรแทน safety  ปากหมาทุกวันจันทร์
[safety อาวุโสเค้าไม่ได้ให้เข้าเวรตรวจ เพราะอายุเยอะกลัวไม่ไหว] safety อาวุโส ก็บอกว่า โอเคๆ เดี๋ยวจะหาทางออกให้ ทุกคนรู้เรื่องการมีปากเสียง
กันของเรากับ safetyปากหมา หมดยกเว้น พี่safety ใหญ่ เมื่อเรื่องนี้ระคายถึงหูแก แกก็เดินมาถาม ว่าเราเป็นไรกันเมื่อคืน ทำไมไม่เล่าให้พี่ฟังเลย
ไหนลองเล่ามาซิมันเป็นยังไง เราก็เล่าให้แกฟัง แกก็เลยโทรไปถาม safetyปากหมา ว่าทำไมถึงมาพูดจาแบบนี้กับเรา บลาๆๆ
เมื่อแกรู้เรื่องแล้ว แกก็มาบอกว่าโอเค เด๋วจะเปลี่ยน safety คนใหม่ให้ แล้วพี่ safety ใหญ่ ก็อมยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า พี่จะให้ น้องเค้า (น้องที่ว่าคือ safety น้อย นั่นเอง ) มาเข้าเวรแทน
พี่แกหัวเราะ หึหึ แล้วก็เดินกลับโต๊ะไป เราก็บอกว่า ไม่เป็นไรพี่ เอาคนเดิมก็ได้ (ในใจ โอ้ววว เข้าทางตรูเลย 5555) และแล้วเราก็ได้ น้อง มาเดิน
ด้วย ~~~~ฟินนนน~~~~
วันจันทร์ต่อมา ถึงเวลาเดินเวรตรวจ ก็ไปเดินด้วยกัน 3 คน คือ เรา , น้อง และช่างไฟ เราก็เดินมาเลยจ้า เดินมาแต่ตัว เพราะเอกสารการตรวจเป็น
หน้าที่ของ safety บทสนทนาจึงเกิดขึ้น อิอิ
safetyน้อย : ช่างไฟจะเดินทางไหนก่อน
ช่างไฟ      : เดินรอบๆอาคารก่อนละกัน
แล้วเราก็เดินออกมา ระหว่างทาง safety น้อยหันมาทางเราแล้วถามขึ้นว่า
safety น้อย : ไหนไฟฉาย??
เรา            : ไม่มี เอามาทำไมเยอะแยะ safety ก็มีแล้ว ช่างไฟก็มีแล้ว
safety น้อย : อ่ะ...งั้นเอาเอกสารตรวจเช็คไปถือ ปากกาด้วย แล้วก็เช็คไปพร้อมเลยน่ะ
น้องเค้ายื่นเอกสารให้ แล้วเราก็หยิบมาถือไว้ โดยไม่ได้คัดค้านอะไรเลย ซักนิด 555 (คุยกันไปต่างคนต่างเขิน ^^)
safety น้อย : เดินไปก่อนครับ เดี๋ยวจะส่องทางตามหลังให้
เฮ้ยยย อร๊ายยยยย สุภาพบุรุษซะด้วย ชอบเข้าไปใหญ่เลย .....แบร่.....  
ระหว่างที่เดินตรวจ น้อง กะ ช่างไฟ ก็คุยหยอกล้อกันตามประสาผู้ชาย เค้าคุยกันถูกคอเลยทีเดียว เค้าคุยภาษาอีสานกัน
เราก็ฟังไป หัวเราะไป ฟังออก พูดได้นิดหน่อย แต่ก็ตอบเป็นภาษากลาง เพราะสำเนียง ไม่ได้ 55555
น้องเดินตรวจไปก็ต้องถ่ายรูปไปด้วย แล้ว น้อง ก็ถ่ายรูปจากด้านหลังเรา แล้วมันมีแสงแปลกๆติดมาด้วย
น้องก็ร้องขึ้นว่า ทำไมมันมีเงาๆเป็นแสงอะไรหลังเราด้วย แล้วเค้าก็วิจารณ์กับช่างไฟใหญ่เลย
แล้วเค้าก็ 2 คน ก็ เอามาหลอกแกล้งเราใหญ่เลย ว่ามันมีอะไรเดินตาม สารพัด บลาๆ
จากนั้นเดินไปเค้า 2 คนก็เล่าเรื่องผี แกล้งเรา เราก็เริ่มกลัวๆแระ ระหว่างทางเดินก็หยอกกันตามประสาบ้าง (อร๊ายฟินน อยากมีแบบนี้อีก)
และการเดินตรวจเวรก็เสร็จด้วยดี กลับไปนอนอย่างมีความสุข       
ระหว่างทางกลับหอนั้น เราก็นั่งรถยนต์กลับกับพี่หยก(พี่ที่ทำงานด้วยกัน) แล้ว น้องเค้า ก็ขับมอไซค์ ตามหลังมาติดๆ น้อง ก็เปิดไฟสูง บีบแตรใส่ หลายครั้ง
พี่ที่เรานั่งมาด้วยก็งง แล้วพี่แกก็ชะลอความเร็ว น้อง ก็ขับมอไซค์มาข้างๆ พี่แกก็เลยเปิดกระจกลง แล้วคุยกันประมาณนี้
พี่หยก:  อะไรค่ะ?? ซ้อนไปด้วยหน่อย......
น้อง   :  มาดิคับ.......ว่าแต่ใจป่าวว ใจมั้ย (แล้ว safetyน้อย ก้อมองมาที่เรา อร๊ายย)
พี่หยก:  คุยกะพี่ก็มองหน้าพี่สิ มองเลยพี่ไปไหน
น้องเค้า เขินเลยจ้าาาา
น้อง   :  ใจมั้ยคับ มาเลยยย (มองมาที่เราอีกแล้ว เราก็นั่งยิ้มจ้า อยากไปอยู่ๆ 555)
แล้วพี่ก็เหยียบเบรคกระทันหันเลย หัวทิ่มเลยเรา แล้ว น้อง ก็หัวเราะชอบใจ หืม...............
จากนั้นก็ขับรถกลับตามปกติ ระหว่างพี่พูดขึ้นว่า "พี่จะให้เราไปซ้อนกะมันนะเมื่อกี้อ่ะ แต่เราไม่กล้า" (คนมันเขินอ่าาา)  
ด้วยความที่เราทั้ง 2 เขินกัน ทั้งคู่ ทำให้ไม่กล้าคุยกัน ได้แต่มองๆๆๆกันไปมา  ยิ่งโดนแซวทุกวัน ยิ่งเขินไปใหญ่ ฮ่าๆๆๆ
จนเวลาผ่านไปเป็นเดือนๆ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ทุกอย่างเหมือนวันแรก  
นานเข้าๆ พี่หยกแกจัดมาเลยจ้า ทั้งเบอร์ ทั้งไลน์ (พี่หยกสนิทกะน้อง เพราะพี่หยกแกคอยไปสืบข่าวเกี่ยวกับน้องมาให้เรา)
เราได้ไลน์มาก็เลย แอดไลน์ไป เราก็ทักไปก่อน น้องมีถามทำเป็นไม่รู้จักด้วยแหม่....รูปโชว์หัวโด่อยู่ขนาดนี้ ยังจำไม่ได้รึ....
เราก็คุยกันในไลน์ แต่ไม่ได้คุยกันเยอะ เพราะน้องไม่ค่อยเล่น 1 - 2 วันค่อยตอบก็มี เราก็ลองหายไป 2 - 3 วันโดยที่ไม่ทักไปหา
ลองใจน้อง 5555 แล้วน้องก็ทักมาจ้าาา อิอิ
ระหว่างที่น้องทำงานอยู่นี่เราก็คุยกะน้องผ่านไลน์เรื่อยๆ แล้วมีอยู่วันนึง เรามานั่งเล่นที่ห้องพี่หยก เราก็ไลน์คุยกะน้องน้องก็ถามเรา
โน้นนี่นั่น เรื่อยเปื่อยตามประสา แล้วตอนนี้เรากำลังน้อยใจน้องเรื่องนึง ซึ่งจำไม่ได้ล่ะ เราเลยเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์
เป็นรูป การ์ตูนเศร้านั่งก้มหน้า เหมือนน้องจะรู้ว่าเราน้อยใจ น้องก็บอกในไลน์ว่า "เนี่ย..รู้สึกผิดอ่ะเหมือนทำให้เสียใจ" เราเลยถามว่ารู้สึกผิดอะไร
น้องมันก็ไม่บอก เราก็ไม่เซ้าซี้ ไม่บอกก็ไม่บอก ^^  หลังจากนนั้นน้องก็ไลน์คุยกะพี่หยกด้วย เราก็นั่งอยู่นั่นด้วย แล้วน้องก็บอกพี่หยกว่า
ให้โทรหามันหน่อย มันไม่มีตัง >_<" แล้วพี่หยกก็โทรไปเล่นกะน้อง คุยไปคุยมา นัดกันไปกินข้าวซะงั้น 555
ทีแรกเราจะไม่ไปด้วย แต่พี่หยกบอก นี่พี่ทำเพื่อเราเลยน่ะ (5555 เอาแล้วไง) แล้วเรา 3 คนก็นั่งรถไปกินข้าวกัน ประมาณ 3 ทุ่ม
พี่หยกก็สั่งมาเลยเบียร์ 1 ขวด เหล้า 1 กลม โค๊ก 1 ขวด เราก็กินโค๊ก พี่หยกกินเบียร์ น้องกินเหล้า (เรากะพี่หยกกินไม่ไหว เพราะอดนานตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เราเพลียง่วงมากก) ระหว่างที่นั่งคุยกันไป กินไป ส่วนมากจะเป็นบทสนทนาระหว่างพี่หยกกับน้อง พี่หยกก็ถามๆๆๆน้องเรื่อยเปื่อย
แล้วพี่หยกก็พูดขึ้นว่าว่า
พี่หยก : เหมือนพี่จะอกหักเลย (แล้วพี่หยกก็มองมาทางเรา)
น้อง    : ทำไมหล่ะคับ??
พี่หยก : ก็ผู้บ่าวไม่รักเนาะ
น้อง    : รู้ได้ไงว่าไม่รัก (น้องส่งสายตามมาหาเรา เอาแล้วไงๆๆๆ ว๊ายยยน้องงง)
คืนนั้นเรารู้สึกว่าน้องมองมาทางเราบ่อยมากก พี่หยกก็มีให้เรากะน้องนั่งคุยกันสองคนบ้าง เพราะแกไปห้องน้ำ
เราก็คุยกัน แต่ไม่ได้คุยไรมาก เวลาพูดเราก็มองหน้าน้อง แต่น้องไม่กล้ามองหน้าเรา น้องหันหน้าเบี่ยงตลอดเลย
นั่งถึง 5 ทุ่มกว่ามั้ง ถ้าจำไม่ผิด เราไม่ไหว อยากกลับ มันเพลีย ง่วง เพราะกินเหล้าผสมโค๊กกะน้องด้วยแต่กินนิดเดียว โดนบังคับ 555
น้องยังไม่อยากกลับ แต่น้องเค้าก็ไม่ขัดใจเรา กลับก็กลับ เราก็เลยกลับกัน พี่หยกก็เลยให้น้องถือเหล้าที่เหลือกลับไปด้วย เหลือครึ่งกลมได้
น้องกินเหล้าเพียวอ่าา เหมือนน้องจะซึมๆนิดๆ แล้วน้องก็ขับรถกลับหอ
เช้าวันต่อมาเหล้ากลมนั้นหมดแล้ว น้องมันบอกพี่หยก ว่ากลับหอไปมันก็นั่งซดต่อคนเดียว ^O^
และพี่หยกก็พูดบอกเราว่า เนี่ย...รู้ป่าวเมื่อคืนอ่ะ น้องมันมองหน้าเราบ่อยมากกกกกกกกกกกก (อร๊ายยยย เขินนนนนน)
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม 555 มันเขินไม่หาย จริงๆน่ะ
และแล้วก็ถึงวันที่เราต้องจากกัน
ปิดยาวววสงกรานต์ เรากลับบ้านก่อนเพราะลางานกลับต่างจังหวัด เราลางานก่อนปิด 3 วัน หลังจากนั้นเราก็ไม่เจอน้องอีกเลย เพราะน้องกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดเลย ช่วงปิดสงกรานต์น้องก็ทักไลน์มาบ้าง คุย 5 - 6 ประโยคเอง จากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย
น้องไปไม่ลาเราเลย เราก็แอบคิดถึงน้องอยู่ เดือนกว่าที่เราไม่ได้คุยกัน เราเลยทักไลน์น้องไป น้องมีส่งติ๊กเกอร์มาทางไลน์บ้าง
แต่น้องแอบขอเบอร์โทรเรากับช่างไฟ ที่เคยเดินเวรตรวจงานด้วยกัน คุณพระ เอาเบอร์ไป ทำไมไม่โทรมาาาาาาาาาาาาาาาาา
ทุกวันนี้เราก็ไม่ได้ทักน้องไป เราก็หายไปจากไลน์ ไม่ทักน้อง(ในใจอยากทักใจจะขาด) แต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ทักไป ต่างคนต่างอยู่ละกัน ปล.น้องเค้ายังไม่มีแฟนน่ะ เพราะแอบไปส่องเฟสน้อง น้องชอบเพ้อๆ ไม่มีแฟนบ้าง เหงาบ้าง
เรารอน้อง.........แล้วน้องรอใคร
อยากทักไลน์ไป แต่กลัวน้องไม่อยากคุยด้วย
เราก็เลยจบกันแค่นี้ดีกว่าเนาะ โชคดีนะไอ้นู๋ มีโอกาสเราคงได้คุย พบเจอกันใหม่  (น้องอายุ 20 เรา 24 ห่างกัน 4 ปี 55555+)
มาทำให้ยัยป้าอย่างฉันฟินนนน แล้วก็จากไป ชิชิ
MISS YOU NA KA.... T_T
............เธอรู้มั้ยว่ามันทุกข์มากแค่ไหน เวลาเรารออะไรสักอย่าง อย่างไร้จุดหมาย.............
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่