บัตรโดยสารต่างๆ (กระทู้บ่น)

สืบเนื่องจากกำลังจะย้ายบ้านไปเป็นหนุ่มฝั่งธน เลยมานั่งวิเคราะห์เส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในละแวกนั้นก็จะมีทั้ง
1. BTS
2. MRT
3. BRT
4. Airport Rail Link
ซึ่งแต่ละเจ้า ก็มีบัตรแตกต่างกันไป (ของใครของมัน)

จริงๆ แล้ว เครือข่ายเส้นทางรถสาธารณะในเขตตัวเมืองของบ้านเรา ก็เริ่มครอบคลุมพอสมควร
เช่นจุดที่ผมพักหากจะเดินทางไปสุวรรณภูมิ ก็สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ จาก BRT > BTS > Airport Link โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม. (หากไปตรงเวลาเดินรถ)
หรือจากที่พักไปในจุดที่ต้องอาศัยเส้นทางเรือ หรือ MRT ก็ไม่เกี่ยง เพราะมีจุดเชื่อมต่ออยู่มากมาย

ประเด็นที่สงสัยก็คือ "ทำไมพวกท่านไม่รวมกันใช้บัตรใบเดียวพอฟร่ะ"
จะไป BTS อ่ะก็แลกบัตรใบนึง
จะไป MRT อ่ะก็แลกอีกทีนึง
จะไป BRT อ่ะก็แลกอีกใบนึง
จะไปสนามบิน เราก็ต้องแลกอีกใบนึง

ตอนสมัยที่ 7-11 เริ่มใช้บัตร Smart Purse ใหม่ๆ ดีใจนะ เพราะตอนนั้นดูหนัง Major ก็แตะปรี๊ดจ่ายง่าย ไม่ต้องพกเงินให้วุ่นวาย คิดว่าจะต่อยอดมา ที่ไหนได้หายไปดื้อๆ ทุกวันนี้ก็ใช้ได้แค่ 7-11 กับ SF (จำได้ว่าแต่ก่อนมันใช้กะ Major นะ) ไม่ได้พัฒนามาเรื่องการคมนาคมเลย
ตอนนี้เห็นมีบัตร Rabbit ก็ใช้ได้แค่ BTS กับ BRT แต่ถ้าจะไป MRT กับ Airport Link ต้องแลกกันใหม่อีกรอบ

จะมาอ้างว่า เฮ้ย!!! มันคนละเจ้าของกัน วุ่นวายตาย ก็ไม่ได้นะครับ
เอิ่ม พอดีไปฮ่องกงมา ที่โน่นจะมีบัตรใบนึงชื่อว่า Octopus คือถ้าถามว่าใช้กับอะไรได้บ้าง ให้ถามว่ามันใช้กับอะไรไม่ได้จะดีกว่า
  1. ไม่ว่าจะเป็น MTR (ที่โน่นเรียกงี้) ที่มีสายพัวพันกัน 10 กว่าสาย ก็ใช้ได้
  2. รถเมล์ทุกสาย
  3. เรือ!!! ใช่แล้วครับ เรือก็แตะผ่านมาได้
  4. Airport Express (คล้ายๆกับ Airport Rail Link บ้านเรา)
  5. 7-11
  6. ร้าน Fastfood ทั้งหลายแหล่ อาทิ แมคโดนแน่ เคเอฟบี พิชซ่า ไอติมต่างๆ
  7. ในห้างดังๆ ใหญ่ๆ เช่น SOGO , Element , K11
  8. Shop ต่างๆ Onitsuka , Adidas , Nike บลาๆๆ
  9. Duty free
10. บัตรผ่านประตูต่างๆ
11. ค่าเข้าสถานที่เที่ยวต่างๆ
12. ซื้อซิมมือถือ
13. ตู้ขายน้ำ กระทั่งตู้ขายร่ม!!! ใช่ครับ ตู้ขายร่ม อ่านกันไม่ผิด
14. ขึ้นรถราง

14 รายการข้างต้น เจ้าของคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกมั้ง
บอกตรงๆ อยู่โน่นแตะแต่บัตรจนลืมเลยว่ามีเงินสด นี่ถ้าพวกนักดนตรีเปิดหมวกมันตั้งตู้แตะบัตรได้ มันคงทำกันแล้ว
มันสะดวกกระทั่งอิจฉาคนบ้านเค้า บัตรบางใบเล็กยังกะของสะสม น่ารักๆ
บัตรบางอันฝังเข้าไปในนาฬิกา(เคสนี้เจอกะตัว ต่อคิวเจ๊คนนึงใน 7 เจ๊เอานาฬิกาข้อมือไปอังๆ ตรงแป้นอ่านบัตร) ตอนนั้นทึ่งสุดๆ แต่พอเราจ่ายเงินเสร็จจะตามไปถาม เจ๊หายไปแล้ว อยากรู้จังมันฝังเข้าไปยังไง หรือเจ๊เอาบัตรแบบใบเล็กไปแปะไว้เอง สงสัยมากๆ

คือจริงๆก็ไม่ได้คาดหวังให้ประเทศไทยมันสะดวกขนาดนั้นหรอก
แต่กราบตีนวิงวอนเรื่องเดียว คือช่วยรวมการคมนาคม ที่มีอยู่เนี่ย เป็นใบเดียวได้ม่ะ
ไม่ต้องลามมาเรือ กะรถเมล์หรอก เอาแค่ BTS , MRT , BRT , Airport Rail Link พอแล้ว
4 อย่างพอแล้ว ไหนๆ BTS กับ BRT ก็ Rabbit ได้แล้ว จะเพิ่มอีกสองอย่างมันจะยากอะไร

อย่างน้อยๆ ข้าพเจ้าก็พกแค่ 2 ใบ คือ Smart Purse ไว้เข้า 7-11 กับ Rabbit ไว้เดินทาง
ไม่ใช่ต้องมาเสียเวลาทั้งหาตู้ ต่อคิว แลกเงิน ฯลฯ เพื่อเดินทางอีก

ปล. Rabbit ซื้อครั้งแรก 300 เป็นค่ามัดจำบัตร 50 (ได้คืนเมื่อเลิกใช้) กับเงินสดไว้ใช้จ่าย 100 ส่วนอีก 150 เป็นค่าทำเนียนครัช คือทำเนียนเก็บ 150
ไม่ควรเรียกค่าธรรมเนียม เพราะ Octopus ที่โคตรจะสะดวก มีแค่ค่ามัดจำ 50 เหรียญ ซึ่งหากใช้เกิน 90 วัน เวลาคืนก็ไม่โดนหักมัดจำใดใดเลย






อันนี้ ตู้ขายร่ม ที่ผมไปเจอมาตอนไปเที่ยวฮ่องกง



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่