เราเบื่อแม่ค้าประเภทที่ชอบดูถูกลูกค้ามากๆ โดยเฉพาะแม่ค้าแถวๆ ออฟฟิศ ที่เป็นล็อคและแผงทั้งหลาย
เหตุการณ์แรก
เรื่องมีอยู่ว่า ปกติเราจะถึงที่ออฟฟิศเร็วทุกวัน ดังนั้นหลังทานข้าวเช้าเสร็จก็จะไปเดินเล่นแถวๆที่ออฟฟิศ ซึ่งเช้าๆ ก็จะมีร้านไม่มาก เราก็เดินไปเจอร้านหนึ่งซึ่งเราไม่เคยซื้อของเค้าเลย วันนี้เห็นเดรสชุดหนึ่งจากไกลๆ และหยุดดูนอกร้าน ทันใดนั้น แม่ค้าก็เรียกเราให้เข้าไปดู นางบอกไม่ซื้อไม่เป็นไร เข้ามาดูก่อนได้
เดรสที่เราดูมันเป็นเดรสเข้ารูป นางก็บอกเราว่าใส่ได้ถึงสะโพก 42” เราเลยบอกไปว่ามันใหญ่ไป ซึ่งจากที่ดูแล้วช่วงบนก็ใหญ่ไปด้วย แต่พอดีว่าเราดันใส่เดรสที่เป็นปล่อยๆ มันคงดูตัวใหญ่นางก็เลยเอาสายวัดมาวัด ซึ่งเราบอกนางไปว่าวันนี้เราใส่กางเกงขาสั้นอยู่บ้านไว้ข้างในมันจะพองๆหน่อย (กางเกงขาสั้น Uniqlo อ่ะค่ะ ที่มันที่กระเป๋าหน้าหลัง) นางวัดได้ 39” แบบไม่ฟิต นางเลยถามต่อว่าปกติใส่ไซส์อะไร เราเลยตอบไปว่าถ้า H&M ใส่เบอร์ 38 เท่านั้นเองนางก็พูดสวนขึ้นมาว่า H&M ของจริงหรอคะ
เราก็อึ้งไป ไม่รู้เจตนาของนาง แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรพูด เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่าแบรนด์นี้มันไม่ได้แพงถึงขนาดซื้อใส่ไม่ได้ เพราะชั้นเบื่อที่จะเจอแม่ค้าแบบนี้ไงถึงไปซื้อของที่ลองได้ดีกว่า
จากนั้นเราก็เดินออกไปโดยไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น แต่ได้ขึ้น Blacklist ร้านนี้ไว้เรียบร้อย และได้ป่าวประกาศบอกเพื่อนด้วยว่า แม่ค้าแบบนี้เราไม่สนับสนุน
อีกเหตุการณ์.......
เกิดขึ้นมาพอสมควรละ
เราไปเดินเล่นแถวหน้ารพ.พญาไท 2 ซึ่งมันจะมีแผงนาฬิกาขายอยู่ เราไปยืนรอเพื่อนซื้อ ระหว่างยืนรอเราเห็นนาฬิกาเรือนหนึ่งเป็นลายการ์ตูนแต่ไม่แบ๊วมาก น่ารักดี กะว่าจะซื้อใส่เล่นวันหยุด เราถามราคา นางก็ตอบว่า 1,xxx บาท แล้วนางก็พูดต่อว่า “ดีกว่าไปซื้อ Fossil ปลอมใส่นะคะ”
อึ้งอีกแล้วค่ะ.....วันนั้นเราใส่ Fossil สายหนัง ซึ่งซื้อมาจาก Outlet ที่ต่างประเทศมา.....หลังจากตั้งสติได้ก็เดินออกไปเลย แต่คิดในใจว่า อ๋อสงสัยนางไม่เคยเห็น เพราะ Collection นี้เค้าไม่ได้ขายในไทยน่ะเอง
แล้วก็ขึ้น Blacklist ร้านนี้ไปอีก 1 ร้าน
เราแค่อยากบอกว่า ถ้าแม่ค้าไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะคะ การพูดแบบนั้นมันถือเป็นการดูถูกคนอื่น การที่คุณพูดแบบนี้มันทำให้คุณเสียลูกค้าโดยไม่รู้ตัว เราคนหนึ่งที่เดี๋ยวนี้ซื้อของในห้าง (เน้น....ตอนลดราคา) ลองได้สบายใจกว่าเยอะค่ะ
เพลีย........บอกเลย



คุณแม่ค้าคะ ถ้าจะเลิกดูถูกลูกค้ามันจะเป็นอะไรมากไม๊....
เหตุการณ์แรก
เรื่องมีอยู่ว่า ปกติเราจะถึงที่ออฟฟิศเร็วทุกวัน ดังนั้นหลังทานข้าวเช้าเสร็จก็จะไปเดินเล่นแถวๆที่ออฟฟิศ ซึ่งเช้าๆ ก็จะมีร้านไม่มาก เราก็เดินไปเจอร้านหนึ่งซึ่งเราไม่เคยซื้อของเค้าเลย วันนี้เห็นเดรสชุดหนึ่งจากไกลๆ และหยุดดูนอกร้าน ทันใดนั้น แม่ค้าก็เรียกเราให้เข้าไปดู นางบอกไม่ซื้อไม่เป็นไร เข้ามาดูก่อนได้
เดรสที่เราดูมันเป็นเดรสเข้ารูป นางก็บอกเราว่าใส่ได้ถึงสะโพก 42” เราเลยบอกไปว่ามันใหญ่ไป ซึ่งจากที่ดูแล้วช่วงบนก็ใหญ่ไปด้วย แต่พอดีว่าเราดันใส่เดรสที่เป็นปล่อยๆ มันคงดูตัวใหญ่นางก็เลยเอาสายวัดมาวัด ซึ่งเราบอกนางไปว่าวันนี้เราใส่กางเกงขาสั้นอยู่บ้านไว้ข้างในมันจะพองๆหน่อย (กางเกงขาสั้น Uniqlo อ่ะค่ะ ที่มันที่กระเป๋าหน้าหลัง) นางวัดได้ 39” แบบไม่ฟิต นางเลยถามต่อว่าปกติใส่ไซส์อะไร เราเลยตอบไปว่าถ้า H&M ใส่เบอร์ 38 เท่านั้นเองนางก็พูดสวนขึ้นมาว่า H&M ของจริงหรอคะ
เราก็อึ้งไป ไม่รู้เจตนาของนาง แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรพูด เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่าแบรนด์นี้มันไม่ได้แพงถึงขนาดซื้อใส่ไม่ได้ เพราะชั้นเบื่อที่จะเจอแม่ค้าแบบนี้ไงถึงไปซื้อของที่ลองได้ดีกว่า
จากนั้นเราก็เดินออกไปโดยไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น แต่ได้ขึ้น Blacklist ร้านนี้ไว้เรียบร้อย และได้ป่าวประกาศบอกเพื่อนด้วยว่า แม่ค้าแบบนี้เราไม่สนับสนุน
อีกเหตุการณ์.......
เกิดขึ้นมาพอสมควรละ
เราไปเดินเล่นแถวหน้ารพ.พญาไท 2 ซึ่งมันจะมีแผงนาฬิกาขายอยู่ เราไปยืนรอเพื่อนซื้อ ระหว่างยืนรอเราเห็นนาฬิกาเรือนหนึ่งเป็นลายการ์ตูนแต่ไม่แบ๊วมาก น่ารักดี กะว่าจะซื้อใส่เล่นวันหยุด เราถามราคา นางก็ตอบว่า 1,xxx บาท แล้วนางก็พูดต่อว่า “ดีกว่าไปซื้อ Fossil ปลอมใส่นะคะ”
อึ้งอีกแล้วค่ะ.....วันนั้นเราใส่ Fossil สายหนัง ซึ่งซื้อมาจาก Outlet ที่ต่างประเทศมา.....หลังจากตั้งสติได้ก็เดินออกไปเลย แต่คิดในใจว่า อ๋อสงสัยนางไม่เคยเห็น เพราะ Collection นี้เค้าไม่ได้ขายในไทยน่ะเอง
แล้วก็ขึ้น Blacklist ร้านนี้ไปอีก 1 ร้าน
เราแค่อยากบอกว่า ถ้าแม่ค้าไม่รู้จะพูดอะไรก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะคะ การพูดแบบนั้นมันถือเป็นการดูถูกคนอื่น การที่คุณพูดแบบนี้มันทำให้คุณเสียลูกค้าโดยไม่รู้ตัว เราคนหนึ่งที่เดี๋ยวนี้ซื้อของในห้าง (เน้น....ตอนลดราคา) ลองได้สบายใจกว่าเยอะค่ะ
เพลีย........บอกเลย