ประวิตร โรจนพฤกษ์: ประสบการณ์กักตัวแบบบิ๊กบราเธอร์ทหารยุค 2014

กระทู้สนทนา
----- 1 -----

‘รายงานตัว’ = ‘กักตัว’

หลายคนที่ถูกทหารที่ยึดอำนาจการปกครอง ‘เรียกไปรายงานตัว’ แล้วถูกกักตัวอดตั้งคำถามมิได้ว่าคณะรัฐประหารเอาพวกเราไปกักตัวอยู่ในค่ายทหารเกือบหนึ่งอาทิตย์เพื่ออะไร?

เพื่อข่มขู่?

เพื่อทำโทษ?

เพื่อโชว์ออฟพาว์เว่อร์ ว่าเว่อร์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด?

เพื่อสอบสวนและหาข้อมูลฝ่ายต้านรัฐประหาร?

เพื่อปฏิบัติการทางจิตวิทยาหรือไซโคพวกเรา?

หรือเพื่อเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นรวมกับเพื่อทำให้เราเปลี่ยนใจหรือไม่ก็หมดสภาพทางจิตใจที่จะสู้ต่อสิ่งที่ขัดกับหลักการเสรีภาพและประชาธิปไตยอย่างชัดเจน

ในช่วงเวลาหลายวันที่พวกเราซึ่งประกอบไปด้วยอดีตนายกรัฐมนตรีสองท่าน (ผู้เขียนได้มีโอกาสคุยกับอดีตรองนายกฯ ประชา พรหมนอก และท่านอื่นๆ นานพอสมควร) นักธุรกิจใหญ่หลายคน นักวิชาการหัวก้าวหน้า อดีตหัวหน้ารักษาความปลอดภัยของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษากฎหมายของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แกนนำแดง และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสนธิ ลิ้มทองกุล และอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่ทวีตไม่เอารัฐประหารอย่างนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ฯลฯ ซึ่งรวมถึงตัวข้าพเจ้าถูกจองจำกักตัวในค่ายทหารแห่งหนึ่งที่จังหวัดราชบุรี

ผู้เขียนตระหนักดีว่าเราอยู่ในค่ายพี่เบิ้ม หรือค่าย Big Brother ที่เป็นดั่งเกมเรียลลิตี้โชว์ซึ่งมีรากอ้างอิงชื่อและความคิดมาจากวรรณกรรมนามอุโฆษของจอร์จ ออร์เวลล์ เรื่อง 1984 ที่มีการสอดส่องตลอดเวลา ทว่าผู้ชมและผู้ตัดสินคือเผด็จการทหารที่ตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์หลังยึดอำนาจด้วยรถถังและกระบอกปืนเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 >ไม่ว่าอะไรจึงเกิดขึ้นได้เสมอ

หลายคนที่ถูกเรียก ‘ไปรายงานตัว’ กลัวถูกตั้งข้อหาลอยๆ และตกในสภาพที่ต้องรอลุ้นรายวันว่าวันนี้จะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่และถูกกดดันจากสถานการณ์จนบางคนถึงกับร้องไห้ บางคนก็เที่ยววิงวอนขอให้ทหารช่วยปล่อยตนโดยเร็วที่สุดโดยพยายามใช้เส้นสายสารพัดคอนเน็คชั่นที่มี ทว่าบางคนก็ยังคงยิ้มสู้ยืนเด่นโดยท้าทาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่