สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
เดี๋ยวนี้แค่เดินผ่าน ก็โดนแฮคได้แลัวค่ะ
มีมานาน หลายปีแล้วด้วยค่ะ
แถวยุโรปโดนเยอะ เพราะนักท่องเที่ยวเงินเยอะ

เครื่องมันจะสแกนบัตรเราทั้งๆที่ ไม่ได้เอ่บัตรออกมาเลยค่ะ
ทำงานคล้ายๆ เวลาแตะบัตร รถไฟฟ้า หรือ แตะบัตรจ่ายตังที่ 7-11
เครื่องสแกนแรงมากค่ะ
เคยอ่านข่าว คนแขกมาซื้อแถวสะพานเหล็กบ้านเรา หาซื้อง่าย ไม่ต้องมีหลักฐานการซื้อ จ่ายสด จบ
แต่ไปสแกนที่ฝรั่งเศส พอได้ข้อมูล ก็ส่งไปรูดที่ตุรกี
ตามจับยากมาก แต่ก็มีโดนจับได้ให้ดูบ้าง
ลงทุน ซื้ออันนี้มาค่ะ ใบละ50-100 บาท ได้มาตอนแรก ดูก้องแก้งมาก กระดาษบางๆ

เลยไปลอง กะบัตร 7-11 ว่าจ่ายตังทั้งใส่ซองจะผ่านมั้ย ก็กันได้จริงๆ
* แก้ไข เพิ่ม
พอดี มีหลังไมค์ถามหาซื้อได้ที่ไหน
เราสั่งจาก อเมริกาค่ะ
3 ซอง 5-6 ดอลล่า
ถ้าใน กทม ลองหา ตามแผนกท่องเที่ยว
รึร้านของเดินป่า
มีหลายยี่ห้อค่ะ
ให้หาคำว่า RFID block หรือ RFID shield นะคะ
มีสองยี่ห้อที่ลองแล้ว
คือ pac safe กับ lewis n clark ที่โอนะคะ ยี่ห้ออื่นยังไม่เคยซื้อ
ราคานำเข้า แพงหน่อย แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าโดนแฮคข้อมูลค่ะ
ถ้าไม่มีซอง ลองหา พวกเป๋าสะพาย รึเป๋าตัง ที่มีช่องด้านในกันด้านในนะคะ
มีมานาน หลายปีแล้วด้วยค่ะ
แถวยุโรปโดนเยอะ เพราะนักท่องเที่ยวเงินเยอะ

เครื่องมันจะสแกนบัตรเราทั้งๆที่ ไม่ได้เอ่บัตรออกมาเลยค่ะ
ทำงานคล้ายๆ เวลาแตะบัตร รถไฟฟ้า หรือ แตะบัตรจ่ายตังที่ 7-11
เครื่องสแกนแรงมากค่ะ
เคยอ่านข่าว คนแขกมาซื้อแถวสะพานเหล็กบ้านเรา หาซื้อง่าย ไม่ต้องมีหลักฐานการซื้อ จ่ายสด จบ
แต่ไปสแกนที่ฝรั่งเศส พอได้ข้อมูล ก็ส่งไปรูดที่ตุรกี
ตามจับยากมาก แต่ก็มีโดนจับได้ให้ดูบ้าง
ลงทุน ซื้ออันนี้มาค่ะ ใบละ50-100 บาท ได้มาตอนแรก ดูก้องแก้งมาก กระดาษบางๆ

เลยไปลอง กะบัตร 7-11 ว่าจ่ายตังทั้งใส่ซองจะผ่านมั้ย ก็กันได้จริงๆ
* แก้ไข เพิ่ม
พอดี มีหลังไมค์ถามหาซื้อได้ที่ไหน
เราสั่งจาก อเมริกาค่ะ
3 ซอง 5-6 ดอลล่า
ถ้าใน กทม ลองหา ตามแผนกท่องเที่ยว
รึร้านของเดินป่า
มีหลายยี่ห้อค่ะ
ให้หาคำว่า RFID block หรือ RFID shield นะคะ
มีสองยี่ห้อที่ลองแล้ว
คือ pac safe กับ lewis n clark ที่โอนะคะ ยี่ห้ออื่นยังไม่เคยซื้อ
ราคานำเข้า แพงหน่อย แต่ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าโดนแฮคข้อมูลค่ะ
ถ้าไม่มีซอง ลองหา พวกเป๋าสะพาย รึเป๋าตัง ที่มีช่องด้านในกันด้านในนะคะ
ความคิดเห็นที่ 1
รีบแจ้งทันการดีมากแล้วครับ ปกติเงินน่าจะยังไม่น่าจะโอนเข้าร้านค้านะครับ นะจะประมาณ 30 วัน
ไม่ต้องเสียเงินหรอกครับเพราะเราไม่ได้ใช้ เป็นหน้าที่ของทางธนาคารที่จะต้องไปแจ้งให้ร้านค้านั้นๆพิสูจน์ว่าเจ้าของบัตรซื้อของจริงๆ
เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ
รายการที่ใช้จ่ายผ่าน paypal ยังไม่ cleared แน่นอนครับ รีบแจ้งไปที่ paypal เลยครับ www.paypal.com ทาง Paypal นี่ดีมากๆเลยนะครับ เค้าจะไป Charge back กับร้านเค้า หรือทำให้รายการนั้น On hold ไว้ก่อนเลยครับ ทางร้านมีหน้าที่พิสูจน์กับ Paypal แต่ในลักษณะนี้ชัดเจนครับว่าเค้าต้องยกเลิกรายการให้ครับ
ไม่ต้องเสียเงินหรอกครับเพราะเราไม่ได้ใช้ เป็นหน้าที่ของทางธนาคารที่จะต้องไปแจ้งให้ร้านค้านั้นๆพิสูจน์ว่าเจ้าของบัตรซื้อของจริงๆ
เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ
รายการที่ใช้จ่ายผ่าน paypal ยังไม่ cleared แน่นอนครับ รีบแจ้งไปที่ paypal เลยครับ www.paypal.com ทาง Paypal นี่ดีมากๆเลยนะครับ เค้าจะไป Charge back กับร้านเค้า หรือทำให้รายการนั้น On hold ไว้ก่อนเลยครับ ทางร้านมีหน้าที่พิสูจน์กับ Paypal แต่ในลักษณะนี้ชัดเจนครับว่าเค้าต้องยกเลิกรายการให้ครับ
ความคิดเห็นที่ 29
ขอบคุณทุกท่านมากๆสำหรับคำแนะนำนะคะ ขอมาอัพเดทสถานการณ์ซะหน่อย
ตอนนี้ติดต่อไปทั้ง 2 ทาง ทั้งทางแบงค์และทาง Paypal ค่ะ
- ทางแบงค์ : วันนี้ไปยื่นเอกสารทักท้วงการใช้จ่ายไปค่ะ มีทั้งสิ้น 18 รายการ ตอนนี้ธนาคารบอกว่าให้รอไปก่อน อยู่ในช่วงสืบว่า
การใช้จ่ายเกิดขึ้นที่ไหน กี่โมง
- ทาง Paypal : ส่งe-mailไป 5 นาทีตอบกลับมาเลยค่ะ ประทับใจมาก พอทาง paypal ทราบเรื่องก็ได้โทรมาสอบถามคร่าวๆ หลังจากนั้น
โอนสายไปให้คุยกับ Paypal ที่ต่างประเทศ เค้าก็สอบถามเหตุการณ์ว่า เราไปต่างประเทศวันไหนบ้าง แล้วรายละเอียด
การใช้จ่ายที่ผิดปกติมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งขอเลขบัตรเครดิต เพื่อทำการตรวจสอบการใช้จ่ายค่ะ พบว่า เลขบัตรเราถูกเอาไป
รูดที่อังกฤษ แถมทาง paypal ก็ตรวจสอบอีเมล์ account ที่ใช้สมัครให้ ชื่อเมลนี่อย่างกับสแปมเฟซบุ้ค (โจรชัด)
แถมสมัคร account นึง ต่อการสั่งของครั้งนึงอีกต่างหาก พยายามมากจริงๆ ทางนู้นก็ปลอบว่าให้ใจเย็นๆนะ ตอนนี้ทางเค้า
จะระงับการสั่งซื้อ แล้วก็พักเงินไว้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ
ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมาอัพเดทอีกเรื่อยๆนะคะ
ตอนนี้ติดต่อไปทั้ง 2 ทาง ทั้งทางแบงค์และทาง Paypal ค่ะ
- ทางแบงค์ : วันนี้ไปยื่นเอกสารทักท้วงการใช้จ่ายไปค่ะ มีทั้งสิ้น 18 รายการ ตอนนี้ธนาคารบอกว่าให้รอไปก่อน อยู่ในช่วงสืบว่า
การใช้จ่ายเกิดขึ้นที่ไหน กี่โมง
- ทาง Paypal : ส่งe-mailไป 5 นาทีตอบกลับมาเลยค่ะ ประทับใจมาก พอทาง paypal ทราบเรื่องก็ได้โทรมาสอบถามคร่าวๆ หลังจากนั้น
โอนสายไปให้คุยกับ Paypal ที่ต่างประเทศ เค้าก็สอบถามเหตุการณ์ว่า เราไปต่างประเทศวันไหนบ้าง แล้วรายละเอียด
การใช้จ่ายที่ผิดปกติมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งขอเลขบัตรเครดิต เพื่อทำการตรวจสอบการใช้จ่ายค่ะ พบว่า เลขบัตรเราถูกเอาไป
รูดที่อังกฤษ แถมทาง paypal ก็ตรวจสอบอีเมล์ account ที่ใช้สมัครให้ ชื่อเมลนี่อย่างกับสแปมเฟซบุ้ค (โจรชัด)
แถมสมัคร account นึง ต่อการสั่งของครั้งนึงอีกต่างหาก พยายามมากจริงๆ ทางนู้นก็ปลอบว่าให้ใจเย็นๆนะ ตอนนี้ทางเค้า
จะระงับการสั่งซื้อ แล้วก็พักเงินไว้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ
ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมาอัพเดทอีกเรื่อยๆนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ขอความช่วยเหลือค่ะ โดน Hack บัตรเครดิตที่ยุโรป ยอด400,000กว่าบาท
เมื่อไปเที่ยวยุโรป เวลาจ่ายเงินค่าโรงแรม และค่าอาหารตามร้านอาหารใหญ่ๆ ก็จะจ่ายด้วยบัตรเครดิต พร้อมทั้งเก็บสลิปไว้ตลอด (บัตรคุณแม่)
เพราะคิดว่า โรงแรมและร้านอาหารที่ไปก็ดูน่าเชื่อถือ แถมยังรูดบัตรเห็นๆต่อหน้าต่อตา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
พอวันนี้ที่กลับไทยมาแล้ว (พุธที่ 4 มิ.ย.) อยู่ๆก็มีsmsแจ้งตัดยอดเข้ามาในมือถือว่า มียอดการใช้จ่ายเงินที่ Virgins Wines
1919.18 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 105,839 บาท อีกทั้งวงเงินบัตรเครดิตคงเหลือน้อยผิดปกติ ทั้งๆที่เดือนนี้ใช้จ่ายค่าโรงแรม ร้านอาหาร
และอื่นๆตลอดทริปไม่เกิน 50,000 บาทแน่นอน แล้วมันหายไปไหน? แล้ว Virgins Wines คืออะไร? ไปรูดตอนไหน??? ช็อค
เลยโทรไปตามเรื่องที่ call center ของ K-bank ทางพนักงานก็แจ้งรายละเอียดคร่าวๆมาว่า เดือนนี้ไม่ได้มีอนุมัติแค่รายการนี้นะคะ
มีอีกหลายรายการเลย (ช็อครอบสอง) โดยพนักงานก็ชี้แจงรายละเอียดว่ามีการอนุมัติค่าใช้จ่ายที่ร้านค้าใดบ้าง ในวันที่เท่าไหร่
พบว่า บัตรเริ่มถูกเอาไปรูดซื้อของตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. (ซึ่งเวลานั้นอยู่ที่เมือง Cesky krumlov ในสาธารณรัฐเช็ค) รูดไปรัวๆ 5 รายการ
หลังจากนั้นก็วันละ 3-4 รายการบ้าง เว้นวันไปบ้าง สิริรวมยอด ดังนี้
Cobot Global รูดเป็นเงินหกร้อยกว่าปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 38,560 บาท
Paypal (ไม่ระบุด้วยว่าตัดเงินจากร้านอะไร บริษัทอะไร) ทั้งหมด 16 รายการ รายการละหลักพันบ้าง หลักหมื่นบ้าง รวมเป็นเงิน 267,157 บาท
Virgin Wines รูดเป็นเงินปอนด์เช่นกัน คิดเป็นเงินไทย 105,839 บาท
โดนไปเต็มๆเนื้อๆ 411,556 บาท
ตอนนี้คุณแม่ได้อายัดบัตรเครดิตแล้ว ทางธนาคารส่งแบบฟอร์มทักท้วงการใช้บัตรมาให้ ตอนนี้ก็กำลังจะเตรียมไปยื่นที่ธนาคารค่ะ
แต่แปลกใจตรงที่ รายการต่างๆที่รูดระหว่างอยู่ต่างประเทศ ไม่มี sms จากธนาคารส่งมาให้ในมือถือเลย (ซึ่งปกติกลับไทยมาก็ควรที่จะ
มี sms ตามมาทุกรายการ แต่นี่มีเฉพาะรายการที่รูดตอนจขกท.กลับไทยมาแล้ว หนึ่งรายการ)
ข้อสันนิษฐานคือ ที่โรงแรมหรือร้านอาหารซักที่ในยุโรป Hackบัตรเครดิต และเอาบัตรไปสร้าง Account เพื่อใช้ซื้อของในอินเตอร์เน็ต
ตอนนี้เลยมีคำถามในหัวมากมาย ระหว่างรอทางธนาคารสืบรายละเอียดเพิ่มเติมของการใช้จ่ายค่ะ
เช่น 1. ต้องแจ้งความไหมคะ แล้วเคสนี้จะแจ้งความที่ไทยได้หรือไม่ หรือต้องติดต่อที่ต่างประเทศ
2. มีโอกาสได้เงินคืนมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราไม่จ่าย ธนาคารจะ Black list เราไหม?
3.มิจฉาชีพพวกนี้มันใช้วิธีอะไรในการHackบัตรคะ แล้วเราควรทำยังไงให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต
ท่านใดเคยมีประสบการณ์นี้ หรือมีข้อแนะนำใดๆ ขอความกรุณาแนะนำด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ